มั่นใจโหวตนายกฯ พท.ม้วนเดียวจบ

เพื่อไทย 15 ส.ค.- “ภูมิธรรม” มั่นใจไม่เกินต้นเดือน ก.ย. ตั้งรัฐบาลสำเร็จ ขอบคุณ “ชัยธวัช” ห่วงเพื่อไทย ลั่นไม่มีใครรู้ดีเท่า พท. โต้ “ศิธา” พูดไปเรื่อยเพราะผิดหวัง เมิน “ชูวิทย์” แฉ “เศรษฐา” ภาค 2 เชื่อโหวตม้วนเดียวจบ


นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการรวบรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาล ว่า แนวโน้มจากการพูดคุยและทิศทางพบว่า พรรคการเมืองต่าง ๆ ยกเว้น 2-3 พรรคที่มองว่าขณะนี้เป็นวิกฤติของประเทศจริงๆ ซึ่งได้ไตร่ตรองพรรคการเมืองต่างๆ ที่จะมาร่วมกันแก้วิกฤติ และผลักดันเรื่องต่างๆ ซึ่งค่อนข้างมั่นใจว่าเสียงของเราสามารถเป็นรัฐบาลที่มีความเข้มแข็งได้ ทั้งนี้ หากประธานรัฐสภานัดวันโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีเมื่อไหร่นั้น เราก็พร้อม และเชื่อว่าภายใต้กติกาที่มีข้อจำกัด เราจะผ่านไปได้ และครั้งเดียวน่าจะจบ

ส่วนที่มีการตั้งคำถามว่า หากพรรคพลังประชารัฐมาโหวตให้พรรคเพื่อไทย ภาพที่ออกมาจะเป็นลักษณะอย่างไรนั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า เรื่องการจะจับมือยังไม่ใช่สาระสำคัญ สิ่งสำคัญคือ มีความเข้าใจกัน สามารถที่จะใช้แนวทางในการบริหารประเทศ เพื่อแก้ 3 วิกฤติที่เคยประกาศไปก่อนหน้านี้ ซึ่งพรรคพลังประชารัฐได้แสดงจุดยืนว่าจะเข้าร่วม โดยไม่คำนึงว่าจะต้องมีตำแหน่งอะไร ถือเป็นคุณสมบัติขั้นต้นที่เคยพูดไปว่ายินดีที่จะร่วมกับทุกพรรค เห็นชอบที่จะเสนอพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และเสนอนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี


ขณะที่ขั้วรัฐบาลเดิมที่จะมาร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยขณะนี้ มีกระแสข่าวว่าได้ยื่นเสนอให้แบ่งกระทรวงกันให้ชัดเจนก่อนเลือกนายกรัฐมนตรี นายภูมิธรรม กล่าวว่า เท่าที่พูดคุยกันไม่มีปัญหา ตนเองไม่ทราบว่าไปได้ยินมาจากที่ไหน พร้อมยืนยันว่า เราสร้างความมั่นใจที่ชัดเจนให้เกิดขึ้น ซึ่งต้องดูว่าจะทำอย่างไร แต่ทั้งหมดต้องร่วมมือกัน พร้อมยืนยันไม่มีปัญหาอย่างที่ถามแน่นอน รวมถึงเราไม่กังวลในเรื่องเหล่านี้

เมื่อถามย้ำว่า ตำแหน่งในแต่ละกระทรวงยังไม่ใช่สิ่งที่พรรคร่วมยื่นข้อเสนอมาตามที่มีกระแสข่าวใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม ระบุว่า เรื่องนี้ไม่ได้เป็นปัญหา สิ่งที่ได้พูดคุยกันถือเป็นเรื่องธรรมดาที่แต่ละพรรคการเมืองจะบอกว่ามีความถนัด ความเชี่ยวชาญ รวมถึงมีนโยบายที่เกี่ยวข้องกับเรื่องอะไร ซึ่งถือเป็นการพูดคุยเบื้องต้น แต่เราได้บอกไปแล้วว่า จะเลือกนายกรัฐมนตรีจากพรรคแกนนำให้สำเร็จก่อน จากนั้นจะมาพูดคุยกัน พร้อมย้ำว่า เราไม่ได้แย่งกันในเรื่องนี้ แต่จะต้องพูดคุยกันว่าใครมีความเหมาะสมอย่างไร หากวันที่ 18 หรือ 21 สิงหาคมนี้ ที่คาดว่าจะเลือกนายกรัฐมนตรี หากเลือกได้เลยก็จะประชุมร่วมตกลงกัน และสามารถตั้งรัฐบาลได้ในเร็ววัน

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า การประชุม สส.ของพรรค วันนี้ (15 ส.ค.) จะมีการเปิดโอกาสให้ สส.ได้แสดงความคิดเห็นเรื่องการที่จะนำเสียงของพรรคพลังประชารัฐและพรรครวมไทยสร้างชาติ มาโหวตนายกฯ ให้หรือไม่ เนื่องจากมี สส.บางคนรู้สึกไม่พอใจในเรื่องการดึงพรรค 2 ลุงมาร่วมด้วย นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนไม่ได้ยินเรื่องนี้ ซึ่ง สส.ทุกคนก็ให้กำลังใจทีมเจรจา ในการเดินหน้าทำงาน ที่อยู่ภายใต้ข้อจำกัด เนื่องจากตัวเลขที่ออกมาไม่ตรงกับเป้าหมายที่ตั้งไว้ ส่วนปัญหาของประเทศขณะนี้ก็ไม่สามารถรอได้ ทั้งที่สะสมและปัญหาใหม่ที่เข้ามา จึงจำเป็นจะต้องจัดตั้งรัฐบาลให้ได้โดยเร็ว พร้อมยอมรับว่า ตัวเลขทางคณิตศาสตร์ที่ออกมาก่อนหน้านี้ เป็นความยากลำบากในการจัดตั้งรัฐบาล เพราะฝ่ายประชาธิปไตยจะจัดการหรือผสมกันอย่างไรก็ไม่ผ่าน เพราะทุกฝ่ายแสดงท่าทีชัดเจน


นายภูมิธรรม กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยจึงตัดสินใจสลายความขัดแย้ง แม้จะมีความยากลำบากและความเจ็บปวดของการเปลี่ยนแปลง ซึ่งวันนี้เพื่อไทยขออาสาเป็นหินก้อนแรกในการสร้างทางใหม่ ขยายความร่วมมือเเละลดความขัดแย้ง วันนี้จึงเชื่อว่าความร่วมมือทางการเมือง มาช่วยกันแก้ปัญหาจะเป็นทางออกที่ทำให้ศาสตร์การเมืองต่างๆ สามารถร่วมงานได้ และตนเชื่อว่าเรื่องนี้จะเป็นบรรทัดฐานให้เราสามารถฝ่าวิกฤติที่สะสมมาเกือบ 20 ปีได้ โดยเมื่อตัดสินใจแล้วก็พร้อมจะเดินไปข้างหน้า แก้ไขปัญหาประเทศไทยภายใต้เงื่อนไขที่มีอยู่ ต้องคิดใหญ่ ใจใหญ่ บนเส้นทางที่คับแคบ ต้องฝ่าไปให้ได้ ทั้งหมดอยู่ในสายตาประชาชน หากตัดใจผิดพลาดก็พร้อมจะรับผิดชอบ

เมื่อถามว่า จะต้องกำชับกับ สส. อธิบายให้สังคมเข้าใจในพื้นที่เรื่องนี้หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ได้ทำความเข้าใจ สส.ไปแล้ว ซึ่งมีการรายงานความคืบหน้ามาอย่างต่อเนื่อง และจากการฟังเสียงสะท้อนก็ไม่มีอะไรเป็นลบมาก วันนี้ที่มีการประชุม สส. ก็จะมีการสรุปสถานการณ์ให้ทราบ เพราะการเมืองเปลี่ยนทุกชั่วโมง วันนี้เพื่อไทยได้แสดงความพร้อม และทำให้เห็นแล้วว่ามีโอกาสที่จะเป็นรัฐบาล และมีนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย ซึ่งเสียงขณะนี้มีแนวโน้มเกิน 250 และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เชื่อว่าเพื่อไทยจะสามารถตั้งรัฐบาลได้ภายในไม่กี่วัน และนำนโยบายต่างๆ ของพรรคร่วมมาพูดคุยกันว่า นโยบายหลักของรัฐบาลจะเป็นอย่างไร เพราะหากยิ่งช้าก็จะยิ่งทำงานยาก ซึ่งหากเป็นไปตามแผน ปลายเดือนสิงหาคม หรือต้นเดือนกันยายนนี้ ก็จะได้รัฐบาลมาบริหารประเทศ

เมื่อถามถึงกรณีนายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล แสดงความเป็นห่วงว่า พรรคเพื่อไทยกำลังถูกบีบจากพรรคร่วมรัฐบาลเดิม โดยเฉพาะการต่อรองตำแหน่ง ครม. นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนขอบคุณนายชัยธวัช ที่เป็นห่วง แต่ใครจะรู้ดีเท่าพรรคเพื่อไทย วันนี้เพื่อไทยสบายๆ เพราะเอาประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง ก็เลยทำให้มีการพูดคุยได้ง่าย ไม่ได้ใช้วิธีเดิมที่ก้าวไกลเคยทำ เพราะรู้ว่าเส้นทางนั้นเป็นทางที่ยากลำบากและเป็นทางตัน จึงต้องหันมาหาทางใหม่ แม้จะคับแคบ และมีอุปสรรค แต่ด้วยการคิดที่ใจใหญ่ของเพื่อไทย

“อยากให้ทุกฝ่ายเคารพความเป็นพรรคการเมือง ซึ่งมีฐานประชาชนมาจากหลายสาขาวิชาชีพ ทำให้สามารถฝ่าฟันมาจนถึงทุกวันนี้ วันนี้ได้คิดหลายเรื่อง ซึ่งคิดว่าเป็นทางออกที่ดี จึงอยากให้ประชาชนมั่นใจว่า ความเดือดร้อนทุกอย่างที่กำลังเผชิญอยู่ เรากำลังแก้ปัญหา ให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก ๆ ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ถือว่าเป็นหัวใจของปัญหาเช่นเดียวกัน แม้ไม่สามารถแก้ได้เร็ว ๆ วัน แต่ต้องเข้าสู่กระบวนการ เพื่อเปิดประตูบานแรกให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา ซึ่งทุกอย่างมีการวางกรอบเวลาทั้งระยะสั้น กลาง และระยะยาว” นายภูมิธรรม กล่าว

ส่วนกรณีที่มี สว.บางคนเรียกร้องให้นายเศรษฐา แสดงวิสัยทัศน์ในวันโหวตนายกรัฐมนตรีนั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า ให้เป็นไปตามกฎเกณฑ์ระเบียบปฏิบัติของรัฐสภา ซึ่งเคยปฏิบัติมาอย่างไรก็ให้ทำไปตามนั้น หากรัฐสภากำหนดให้ทำ เพื่อไทยก็ยินดี

เมื่อถามถึงเสียงสนับสนุนจาก สว.ขณะนี้ นายภูมิธรรม มั่นใจว่า ได้มากกว่าที่เคยได้มาทุกครั้งแน่นอน เพราะจากการพูดคุย ก็บอกชัดเจนว่า เพื่อไทยมีวุฒิภาวะในการประสานแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในประเทศ ซึ่งถือว่ามาในทิศทางที่ดี ส่วนจะมากกว่าร้อยเสียงหรือไม่ ตนตอบไม่ได้ เพราะขึ้นอยู่กับดุลพินิจของ สว.แต่คน

เมื่อถามว่า หากท้ายที่สุดชื่อนายเศรษฐาไปต่อไม่ได้ ชื่ออาจจะไปตกที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จำเป็นต้องปรับแผนรับสถานการณ์หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เราไม่เชื่ออย่างนั้น แต่เชื่อว่าโหวตครั้งเดียวผ่าน ขออย่ากังวลใจในเรื่องนี้ เราทำอย่างเต็มที่ และรู้ว่าพรรคการเมืองอันดับ 1 ได้ทำอะไร และประสบปัญหาอะไร ซึ่งเราได้แก้ปัญหานั้น และได้ใช้ความพยายามจนสุดความสามารถในการแจ้งพรรคการเมืองทุกพรรคที่จะร่วมมือกับเรา รวมถึง สว. พร้อมย้ำว่า ในเรื่องรายละเอียดไม่มีปัญหาอะไร แต่ขณะนี้ต้องระมัดระวังข่าวลือ การคาดการณ์ บางครั้งอาจเป็นข้อมูลให้ได้คิด แต่อย่าไปเอาใจใส่และคิดเรื่องนี้มากนัก เพราะอาจจะเป็นข้อมูลที่ไม่มีข้อเท็จจริง และอาจสร้างความสับสนได้

ส่วนกรณีที่ น.ต.ศิธา ทิวารี แกนนำพรรคไทยสร้างไทย แสดงความคิดเห็นถึงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่สุดท้ายชื่อจะไปตกที่ พล.อ.ประวิตร นายภูมิธรรม กล่าวว่า เขาก็พูดอยู่ได้เรื่อยๆ วิพากษ์วิจารณ์ คาดการณ์กันไป ซึ่ง 1-2 เดือนนี้ ทุกอย่างจะชัดเจน และจะตอบว่าใครอยู่บนความเป็นจริง และใครมีแต่คัดค้าน พูดจาไปเรื่อย แต่เรายินดีที่จะรับฟัง บางคนเราทราบว่า มันไม่เป็นไปตามความคาดหวัง หรือแนวคิดของเขา ทำให้เขาอาจจะหงุดหงิดบ้าง และย้ำว่า พร้อมรับฟังความคิดเห็น ไม่ว่าจะสนับสนุนหรือคัดค้าน

ส่วนกรณีที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ จะออกมาแฉนายเศรษฐา ต่อเป็นตอนที่ 2 ในช่วงบ่ายวันนี้ (15 ส.ค.) จะส่งผลต่อการโหวตนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ต้องทราบและรู้จักนายชูวิทย์ ว่า เขาเป็นนักการตลาดที่สำคัญ ทำเรื่องราวต่าง ๆ ให้ตื่นเต้นตลอด แต่ผลที่ผ่านมาในอดีตเป็นอย่างไรก็พิจารณากันเอง ซึ่งเชื่อว่าประชาชนมีวิจารณญาณ.-สำนักข่าวไทย        

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.ตร.สั่งเยียวยา ตรวจสอบเหตุ ฮ.ตำรวจตก

ประจวบคีรีขันธ์ 24 พ.ค. – ลำเลียงร่างตำรวจ 3 นาย เสียชีวิตจาก ฮ.ตก ส่งชันสูตร ด้าน ผบ.ตร.สั่งเยียวยาเต็มที่ ให้เร่งตรวจสอบหาสาเหตุโดยด่วน ช่วงบ่ายของวันนี้ เกิดเหตุ เฮลิคอปเตอร์สำนักงานตำรวจแห่งชาติประสบอุบัติเหตุ ระเบิดกลางอากาศ จนมีตำรวจเสียชีวิต 3 นาย จุดเกิดเหตุอยู่ในพื้นที่ บ้านหนองกก ต.อ่าวน้อย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ข้อมูลเบื้องต้นทราบว่า เฮลิคอปเตอร์ที่ประสบเหตุเป็นรุ่น เบล 212 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเดินทางจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี และจะบินกลับที่หน่วย ตชด. จังหวัดกาญจนบุรี อุบัติเหตุในครั้งนี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 นาย ประกอบด้วยนักบิน 2 คน คือ พ.ต.ต.ประเทือง ชูเลิศ, ร.ต.ท.ทรงพล บุญชัย และ ช่างเครื่อง 1 คน คือ ร.ต.ท.ทินกฤต สุวรรณน้อย สาเหตุของอุบัติเหตุในครั้งนี้ กำลังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ […]

ฮ.ตำรวจตก จ.ประจวบฯ เสียชีวิต 3 นาย

ประจวบฯ 24 พ.ค. – คืบหน้าเหตุเฮลิคอปเตอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติตกในพื้นที่ จ.ประจวบฯ พบผู้เสียชีวิต 3 นาย เป็นนักบิน 2 ช่างเครื่อง 1 ความคืบหน้าเฮลิคอปเตอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติตกในพื้นที่ใกล้เคียงวัดหนองพังพวย ต.เกาะหลัก อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ จากการตรวจสอบพบว่าเหตุเกิดเมื่อเวลา 13.10 น. มีผู้เสียชีวิต 3 นายคือ พันตำรวจตรีประเทือง ชูเลิศ นักบิน ร้อยตำรวจเอกทรงพล บุญชัย นักบิน และร้อยตำรวจโททินกฤต สุวรรณน้อย ช่างเครื่อง สำหรับภารกิจขึ้นบิน อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเป็นเฮลิคอปเตอร์ที่ขึ้นจากท่าแร้งไปต่างจังหวัด หรือเป็นเฮลิคอปเตอร์ที่ประจำการในพื้นที่แล้วปฏิบัติภารกิจ ล่าสุดมีภาพผู้เสียชีวิตบางส่วน และบางรายโดดร่มลงจากเฮลิคอปเตอร์ แต่รายละเอียดยังไม่สามารถยืนยันได้ เนื่องจากเหตุการณ์เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายโมงที่ผ่านมา และทุกอย่างยังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ ทั้งนี้ มีรายงานว่าเป็นเฮลิคอปเตอร์ เบล 212 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติขึ้นบินจากค่ายอาภากรเกียรติวงศ์ จ.ชุมพร ปลายทางค่ายนเรศวร จ.ประจวบคีรีขันธ์ ขณะที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้แสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิตทั้ง 3 นายและครอบครัว สั่งการเร่งด่วนให้ช่วยเหลือเยียวยา และตรวจสอบสาเหตุต่อไป.-สำนักข่าวไทย

สายลับไรเดอร์ ตามจับบัญชีม้า แก๊งคอลเซ็นเตอร์

เชียงใหม่ 24 พ.ค.-ตำรวจท่องเที่ยวเชียงใหม่ ปลอมตัวเป็นไรเดอร์ สะกดรอยตามจับ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกนักท่องเที่ยวผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก เปิดให้จองที่พักทิพย์ตามแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังในจังหวัด เสียหายมากถึงวันละ 300,000 บาท โดยมีเงินโอนเข้าบัญชีม้าไม่ต่ำกว่า 50 บัญชี แก๊งนี้ทำมาแล้วกว่า 6 เดือน ตำรวจท่องเที่ยวเชียงใหม่ นำหมายจับศาลเชียงใหม่ ติดตามจับกุมนายบุญ (หนุ่มชาติพันธุ์) คาห้องเช่า ใกล้พรมแดน ในพื้นที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ผู้ต้องหาตามหมายจับ ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และความผิดตามพรบ.คอมพิวเตอร์ คดีหลอกลวงทางออนไลน์ พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือ 9 เครื่อง เครื่องนับเงินสด และเงินสดอีกจำนวน 20,000 บาท สมุดบัญชีธนาคาร บัตรกดเงินสด หลายรายการ ซุกซ่อนในตู้เสื้อผ้า นอกจากนี้ ยังขยายผลจับกุมผู้ต้องหา ที่เปิดบัญชีม้า ในการรับโอนเงินได้อีก 3 คน และอยู่ระหว่างขยายผลเพิ่มเติม โดยเฉพาะคนที่จัดหาบัญชีม้า และโทรศัพท์มือถือ สำหรับใช้ในการกระทำความผิดกับผู้ต้องหา ด้าน พันตำรวจโท อวิรุทธ์ สุขแย้ม […]

ทหารเมียนมา ต้านไม่ไหว ฐานเจดีย์ขาวเบอโด้ แตกแล้ว

ตาก 24 พ.ค.-ทหารเมียนมา ต้านไม่ไหว ฐานเจดีย์ขาวเบอโด้ แตกแล้ว ถึงแม้ว่าทหารเมียนมาจะใช้เครื่องบินมาทิ้งระเบิดตลอดทั้งวัน พ.อ.ณัฐกร เรือนติ๊บ ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจราชมนู (ผบ.ฉก.ราชมนู) กองกำลังนเรศวร เปิดเผยถึงสถานการณ์สู้รบบริเวณแนวชายแดน ประเทศเมียนมา ที่ติดอยู่กับประเทศไทย การสู้รบอยู่บริเวณด้านตรงข้าม บ.ห้วยน้ำนัก ม.4 ต.พบพระ อ.พบพระ จ.ตาก ห่างจากแนวชายแดนประมาณ 1 กิโลเมตร โดยหลังจากทหารเมียนมา ใช้อากาศยาน แบบ Y-12 บินตรวจการณ์และทิ้งระเบิด จำนวนประมาณ 30 ลูก โจมตี กกล.KNLA บริเวณพื้นที่โดยรอบ ฐานเจดีย์ขาว บ.เบอโด้ อ.ซูการี จ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง สหภาพเมียนมา เพื่อสนับสนุนการป้องกันฐานที่มั่น หลังจากถูก กกล.KNLA ปิดล้อมและโจมตี แต่ก็ไม่สามารถต้านทาน กกล.KNLA ได้ กระทั้งเวลา 19.00 น. กกล.KNLA สามารถเข้าควบคุมฐานเจดีย์ขาว ได้สำเร็จ สามารถตรวจยึดอาวุธและยุทโธปกรณ์ได้หลายรายการ […]

ข่าวแนะนำ

เคลื่อนร่าง 2 นายตำรวจ ฮ.ตก ถึงวัดนวลจันทร์แล้ว

25 พ.ค.- เคลื่อนร่าง 2 นายตำรวจ เหตุ ฮ.ตก จ.ประจวบคีรีขันธ์ ถึงวัดนวลจันทร์แล้ว เตรียมพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ 17.00 น.วันนี้ จากกรณีวันที่ 24 พ.ค. เฮลิคอปเตอร์ รุ่นเบลล์ 212 หมายเลขประจำเครื่อง 2215 ประจำหน่วยบินตำรวจกาญจนบุรี ประสบอุบัติเหตุตกในบริเวณพื้นที่บ้านหนองกก ต.อ่าวน้อย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นเหตุให้ 3 เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้แก่ พ.ต.ต.ประเทือง ชูเลิศ (ตำแหน่งนักบิน สบ 2) อายุ 33 ปี ร.ต.อ.ทรงพล บุญชัย (ตำแหน่งนักบิน สบ 1) อายุ 34 ปี และ ร.ต.ท.ทินกฤต สุวรรณน้อย (ตำแหน่งช่างอากาศยาน สบ 1) อายุ 55 ปี เสียชีวิตในที่เกิดเหตุทั้งหมด […]

งดเล่นน้ำตกแม่สา หลังฝนตกหนักน้ำขุ่นเชี่ยว

เชียงใหม่ 25 พ.ค.- อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย งดให้นักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำตกแม่สา หลังฝนตกหนักตลอดคืน ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก สำนักทรัพยากรน้ำที่ 1 ออกประกาศเตือนภัยเตรียมพร้อม (ระดับสีเหลือง) ที่บ้านหนองหอย ต.โป่งแยง อำเภอแม่ริม ปริมาณฝนสะสม 12 ชั่วโมง 103. มิลลิเมตร ทำให้ทางนายธงชัย นาราษฎร์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพปุย ได้มีคำสั่ง งดให้นักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำตกแม่สา หลังเกิดฝนตกหนักสะสม ทำให้น้ำตกแม่สา มีสีขุ่นแดง กระแสน้ำเชี่ยว ปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาเที่ยวชมธรรมชาติได้ตามปกติ แต่ไม่สามารถลงเล่นน้ำได้ เช่นเดียวกับที่อุทยานแห่งชาติออบขาน ประกาศปิดการท่องเที่ยว และพักแรมชั่วคราว สถานการณ์แม่น้ำขาน วันที่ 25 พฤษภาคม 2568 ณ ที่ทำการอุทยานแห่งชาติออบขาน ระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทางอุทยานจะรีบอัปเดตสถานการณ์ให้ทราบอย่างต่อเนื่อง พร้อมแจ้งเตือนประชาชนลุ่มน้ำขานเฝ้าระวังน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะตั้งแต่บ้านห้วยโท้ง ตำบลน้ำบ่อหลวง อำเภอสันป่าตองลงไป เฝ้าระวัง เนื่องจากระดับน้ำที่ผ่านหน้าอุทยานฯ ลงไป มีมวลน้ำจากอำเภอสะเมิง ไหลลงมาเติมต่อเนื่อง .-สำนักข่าวไทย

จนท.ลงพื้นที่เก็บชิ้นส่วน ฮ.ตำรวจตก

ประจวบคีรีขันธ์ 25 พ.ค. – เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่จุดเฮลิคอปเตอร์ตำรวจตก บริเวณ ต.เกาะหลัก อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ เก็บชิ้นส่วนที่กระจัดกระจายตามบ้านเรือนและไร่สวนของชาวบ้าน พร้อมกั้นโดยรอบ ป้องกันผู้ไม่เกี่ยวข้อง บรรยากาศจุดเกิดเหตุเฮลิคอปเตอร์ตำรวจตก พื้นที่หมู่ 1 บ้านหนองกก ต.เกาะหลัก อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายปกครอง จัดกำลังดูแลความเรียบร้อยตั้งแต่เกิดเหตุ พร้อมนำโปลิศไลน์มากั้นโดยรอบพื้นที่เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้ามาอย่างเด็ดขาด ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่สารวัตรเวร เจ้าของคดี ลงพื้นที่เก็บรายละเอียดในที่เกิดเหตุอีกครั้ง พร้อมนำทีมชุดพนักงานสอบสวน นำโดรนบินถ่ายภาพมุมสูง เพื่อตรวจสอบว่าชิ้นส่วนของเครื่องบินที่แตกกระจัดกระจายอยู่บริเวณจุดไหนบ้าง ขณะนี้อยู่ระหว่างเจ้าหน้าที่ทยอยเก็บชิ้นส่วนที่ตกกระจัดกระจายตามบ้านเรือนและไร่สวนของชาวบ้าน มารวบรวมไว้บริเวณเต็นท์อำนวยการจุดที่ตัวเครื่องบินตก และรอเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้ามาดำเนินการ ส่วนเศษชิ้นส่วนเครื่องบินบางส่วนที่รวบรวมได้ยังไม่มีการเคลื่อนย้ายแต่อย่างใด ต้องรอคำสั่งจากผู้บังคับบัญชา หรือต้องรอเจ้าหน้าที่บริษัทผู้ผลิตเครื่องบินมาตรวจอย่างละเอียดก่อน ในส่วนของชาวบ้านที่ได้รับความเสียหายจากชิ้นส่วนเครื่องบินตกใส่หลังคาเสียหายเป็นรู ซึ่งเจ้าหน้าที่เก็บชิ้นส่วนออกไปแล้ว ส่วนชิ้นส่วนหางขนาดใหญ่ที่ตกเฉียดบ้านของชาวบ้านที่อยู่ห่างกันประมาณ 100 เมตร นางใย ชาวบ้านที่ถูกชิ้นส่วนเครื่องบินตกใส่หลังคาเป็นรู เล่าให้ฟังว่า ก่อนจะเกิดเหตุเครื่องบินตกตนเองพร้อมด้วยหลานอีก 2 คน ไปนั่งอยู่หลังบ้าน ต่อมาได้ยินเสียงเฮลิคอปเตอร์บินผ่านหลังคาบ้านมา และได้ยินเสียงปะทุ ดังติดต่อกัน 3 ครั้ง ซึ่งเห็นหางเครื่องบินตกลงมาก่อน ก่อนตัวเครื่องบินจะตกลง นอกจากนี้ได้ยินวัตถุชนิดหนึ่งตกลงบนหลังคาบ้าน จึงเข้ามาดูในบ้านพบว่าหลังคาเป็นรู และมีวัสดุตกลงมาอยู่ที่พื้น […]

นึกว่าสงคราม! โจ๋ยกพวกไล่ถล่มปาระเบิด

สมุทรปราการ 25 พ.ค.- แพรกษาเดือด! วัยรุ่นหลายสิบคนยกพวกปาระเบิดกลางถนน กว่า 10 ลูก ถล่มกันจนชาวบ้านผวาต้องหาที่กำบังหนีตาย กล้องวงจรปิดริมถนน ซอยมังกรขันดี ใกล้ตลาดแสงทอง ตำบลแพรกษา อำเภอเมืองสมุทรปราการ จับภาพกลุ่มวัยรุ่น พากันขี่รถจักรยานยนต์แต่งซิ่ง ท่อเสียงดัง ขับวนไปมาภายในซอยดังกล่าว ก่อนเปิดฉากปาระเบิดปิงปองไม่ต่ำกว่า 15 ลูก ใส่กันกลางถนน จนเกิดเสียงดังสนั่น ชาวบ้านหลายคนต้องวิ่งหาที่หลบภัย ขณะที่รถบางคัน ไม่กล้าขับผ่านต้องรีบวนรถกลับ หวั่นโดนลูกหลง กลุ่มวัยรุ่นหลายสิบคน นอกจากจะมีระเบิดปิงปองที่เตรียมมาปาถล่มใส่กันแล้ว ยังมีอาวุธมีดตะขอ ติดมือมาไล่ห้ำหั่นกันอย่างกับสงครามกลางเมือง หลังเกิดเหตุ ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรปราการ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยเดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบเศษชิ้นส่วนระเบิดปิงปองแตกกระจายเกลื่อนถนน ส่วนวัยรุ่นที่ยกพวกตีกัน แยกย้ายกันไปก่อนที่เจ้าหน้าที่จะไปถึง ตำรวจกระจายกำลังหาข้อมูล จนทราบว่า มีวัยรุ่นกว่า 20 คน ยกพวกไล่ทำร้ายกัน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ ไปโรงพยาบาลด้วยตัวเอง 2 ราย เจ้าหน้าที่จะเร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามตัวกลุ่มวัยรุ่นทั้งหมดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย จากการสอบถามผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า ขณะกำลังซื้อข้าวอยู่ตรงตลาดบ่อทอง ได้ยินเสียงระเบิด 3 […]