“บิ๊กโจ๊ก”เตรียมหารือมท.1 บ่ายนี้แก้ไขร่าง พรบ.ตรวจคนเข้าเมืองฉบับใหม่

กรุงเทพฯ 27 มี.ค.- “บิ๊กโจ๊ก”เตรียมเข้าพบ มท.1 บ่ายนี้ หารือแก้ไขร่าง พรบ.ตรวจคนเข้าเมือง คาดใช้เวลาไม่เกิน 2 สัปดาห์ ก่อนนำเข้า ครม.พิจารณา 


พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกหลาโหม ได้ให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง นำร่าง พรบ.ตรวจคนเข้าเมือง ไปปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติม เพื่อให้กระทรวงการต่างประเทศได้เข้ามามีส่วนร่วม ในเรื่องของการตรวจดวงตราต่างๆเพื่อให้ พรบ.ตรวจคนเข้าเมือง(ฉบับใหม่) เป็นไปอย่างกว้างขวาง เหมือนกับนานาประเทศ โดยในช่วงบ่ายวันนี้( 27 มี.ค.) ตนเองจะเดินทางไปพบ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นเจ้ากระทรวงและถือ พรบ.ฉบับนี้ เพื่อหารือเรื่องการปรับปรุงเพิ่มเติมบางส่วน คาดว่าจะแล้วเสร็จไม่เกิน 2 สัปดาห์ จึงจะนำเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.)พิจารณาได้ 

ผู้บัญชาการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง กล่าวว่า สาเหตุสำคัญที่ต้องมีการปรับแก้ พรบ.ตรวจคนเข้าเมืองใหม่ พ.ศ.2522 เนื่องจากบังคับใช้มานานกว่า 40 ปีแล้ว มีความล้าสมัย ไม่เอื้ออำนวยต่อการบังคับใช้กฏหมายเท่าที่ควร โดยเฉพาะไม่สามารถตรวจสอบแหล่งที่พักพิงของบุคคลที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ไม่ทราบว่าเมื่อเดินทางเข้ามาแล้วไปพักอาศัยอยู่ที่ไหนบ้าง  รวมถึงระบบตรวจสอบและคัดกรองผู้โดยสารล่วงหน้า Advance Passenger Processing System ( APPS ) ยังไม่มีการเชื่ยมโยงข้อมูลกับระบบหลักของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง 


ทั้งนึ้แม้ว่าประเทศไทยจะไม่ใช่ประเทศเป้าหมายของการก่อการร้าย แต่เป็นประเทศที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเป็นอันดับ 3 ของโลก ดังนั้นจึงต้องปรับปรุงแก้ไข พรบ.ตรวจคนเข้าเมือง เพื่อให้การตรวจสอบต่างๆทั้งแหล่งที่พักพิงของต่างด้าว /การคัดกรองผู้โดยสารล่วงหน้า / การเดินทางเข้าประเทศของบุคคลที่นำเงินมาลงทุนในประเทศให้เป็นไปโดยง่าย และการเพิ่มบทลงโทษมากขึ้น กับบุคคลที่เป็นเจ้าของห้องพัก อาคารชุด ต่างๆที่ไม่แจ้งการเข้าพักอาศัยของชาวต่างชาติ เพราะอาชญากรรมที่เกิดขึ้นในปัจจุปัน ส่วนใหญ่เพราะเจ้าของที่พักไม่แจ้งการเขาพักอาศัยให้เจ้าหน้าที่ทราบ เช่น คนผิวสี,หรือชาวแอฟริกาใต้ ที่บางคนพบว่าอยู่มา 2ปีแล้ว ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องกลับไปไล่ดำเนินคดี ทั้งนี้ หากเจ้าของที่พักต่างๆเคร่งครัดมาตรการเหล่านี้ บุคคลเหล่านี้ก็จะไม่สามารถแฝงตัวอยู่ในประเทศ ก่อเหตุอาชญากรรมสร้างความเสียหายให้กับประเทศได้ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

ตร.ทางหลวงไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าไทย

ระทึก! ตำรวจทางหลวงขับรถไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าว 2 คัน สุดท้ายไม่รอด จนมุมบริเวณ ต.หาดท่าเสา อ.เมือง จ.ชัยนาท ตรวจสอบพบแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก จึงนำตัวทั้งหมด พร้อมกับคนขับรถทั้ง 2 คัน ส่งดำเนินคดีที่ สภ.เมืองชัยนาท

คุมพ่อชาวรัสเซียฝากขัง จับลูกชายวัย 13 โยนลงทะเลเสียชีวิต

ตำรวจคุมตัว “หนุ่มรัสเซีย” ฝากขัง หลังก่อเหตุโยนลูกวัย 13 ปี ออกจากเรือ บริเวณหมู่เกาะสุรินทร์ จ.พังงา จนถูกใบพัดเรือบาดเจ็บสาหัส ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา อ้างเสียความทรงจำ ไม่รู้ทำอะไรลงไป

ดีเอสไอจ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ สืบคดี “แตงโม”

ดีเอสไอ นำผู้เชี่ยวชาญหลายด้านเปิดประชุมนัดแรก ลุยสืบสวน “คดีแตงโม” จ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ หาพยานหลักฐานใหม่ และบินเก็บข้อมูลระบบ Cloud ในมือถือทุกคนบนเรือ-นอกเรือ

แก้ปัญหาฝุ่น

นายกฯ สั่งการด่วนคมนาคมออกมาตรการหยุด PM 2.5

นายกฯ สั่งการคมนาคมออกมาตรการเร่งด่วน หยุด PM 2.5 ให้ประชาชนนั่งรถไฟฟ้าทุกสาย-ขสมก.ฟรี 7 วัน 25-31 ม.ค.นี้ เตรียมใช้งบกลางกว่า 140 ล้านบาท ชดเชยผู้ประกอบการ เข้มตั้งจุดตรวจควันดำ 8 จุด รอบ กทม.-ปริมณฑล