กรุงเทพฯ 18 มี.ค. – ตลาดหลักทรัพย์ฯ จัดทำดัชนีใหม่ SET Well-being (SETWB) สะท้อนการเคลื่อนไหวของหลักทรัพย์ในหมวดธุรกิจที่มีศักยภาพในการแข่งขัน มีโอกาสเติบโตสูง นำมาสู่การสร้างงานและยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีของคนไทย พร้อมสนับสนุนต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่อ้างอิงกับดัชนีในอนาคต ทั้งนี้จะเริ่มเผยแพร่อย่างเป็นทางการ 1 เม.ย. 2562
นางสาวรินใจ ชาครพิพัฒน์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานการตลาด ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ จัดทำดัชนีใหม่ SET Well-being (SETWB) ซึ่งเป็นดัชนีที่คำนวณจากหลักทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียนใน 7 หมวดธุรกิจที่ประเทศไทยมีศักยภาพในการแข่งขันและเป็นธุรกิจที่ผู้ลงทุนต่างชาติให้ความสนใจ ซึ่งการเติบโตของธุรกิจเหล่านี้มีผลต่อการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (Gross Domestic Product: GDP) นำมาสู่การสร้างรายได้แก่คนในประเทศ และช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่คนไทย โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ พร้อมสนับสนุนการนำไปใช้เพื่อออกผลิตภัณฑ์ทางการเงินในอนาคต เช่น กองทุนรวมอีทีเอฟ (ETF) และกองทุนรวม (Mutual Fund) เพื่อเป็นทางเลือกแก่ผู้ลงทุน
หลักเกณฑ์การคัดเลือกหลักทรัพย์ที่ใช้คำนวณในดัชนี SETWB จะพิจารณาจากหลักทรัพย์ที่อยู่ใน 7 หมวดธุรกิจ ได้แก่ หมวดธุรกิจการเกษตร (Agribusiness) พาณิชย์ (Commerce) แฟชั่น (Fashion) อาหารและเครื่องดื่ม (Food and Beverage) การแพทย์ (Health Care Services) การท่องเที่ยวและสันทนาการ (Tourisms & Leisure) และขนส่งและโลจิสติกส์ (Transportation & Logistics) โดยหลักทรัพย์นั้นจะต้องมีกำไรอย่างน้อย 2 จาก 3 ปีล่าสุด เมื่อพิจารณาจากงบการเงินรวม รวมทั้งต้องมีสัดส่วนผู้ถือหุ้นรายย่อยไม่น้อยกว่า 20% และเป็นหลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายอย่างต่อเนื่อง โดยจำนวนหุ้นที่ซื้อขายในแต่ละเดือนต้องมีสัดส่วนอย่างน้อย 0.5% ของจำนวนหุ้นจดทะเบียนของบริษัท เป็นระยะเวลาอย่างต่ำ 9 เดือนจาก 12 เดือนในช่วงที่พิจารณา
ทั้งนี้ หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าตามราคาตลาด (Market Capitalization) สูงสุด 30 ลำดับแรกที่ผ่านเกณฑ์การคัดเลือกจะถูกนำเข้าเป็นองค์ประกอบของดัชนี SETWB และมีหลักทรัพย์สำรอง 5 ลำดับ โดยจะจำกัดน้ำหนักของแต่ละหลักทรัพย์ไม่ให้เกิน 10% ในทุกไตรมาส รายชื่อหลักทรัพย์สำหรับคำนวณในดัชนี SETWB ครั้งแรกจะใช้ข้อมูลตั้งแต่ 1 ธ.ค. 2560 ถึง 30 พ.ย. 2561 เริ่มเผยแพร่ดัชนีในวันที่ 1 เม.ย. 2562 และทบทวนรายชื่อหลักทรัพย์ที่เป็นองค์ประกอบของดัชนีทุก 6 เดือน (มิ.ย. และ ธ.ค.) . – สำนักข่าวไทย