ตลท. เตรียมเรียก EA ชี้แจง หลังรายงานข้อมูลขายหุ้นไม่ตรงกับข้อมูลที่แจ้ง ก.ล.ต.

กรุงเทพฯ 11 ก.ค. – โฆษก ตลท. เผยเตรียมเรียก EA ชี้แจง หลังรายงานข้อมูลขายหุ้น Big lot จำนวน 14.69 ล้านหุ้น ไม่ตรงกับรายงาน ก.ล.ต. ส่วนผลบังคับใช้มาตรการ Uptick Rules ตั้งแต่ 1 ก.ค. ทำ Short Sell เฉลี่ยรายวันลดลงถึง 72%


นายรองรักษ์ พนาปวุฒิกุล รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ในฐานะโฆษก ตลท. กล่าวถึงการใช้มาตรการ Uptick Rules ที่เริ่มเมื่อ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา จนถึงสิ้นวันที่ 10 ก.ค.67 รวม 8 วัน ส่งผลให้มูลค่าการ Short Sell เฉลี่ยรายวันปรับลดลงถึง 72% มาเหลืออยู่ที่ 1.46 พันล้านบาท/วัน จากช่วงก่อนใช้ Uptick อยู่ที่ 5.29 พันล้านบาท/วัน ซึ่งตามมาตรการ Uptick Rule จะควบคุมการขายชอร์ตในทุกหลักทรัพย์ โดยกำหนดให้การขายชอร์ตต้องมีราคาสูงกว่าราคาที่ซื้อขาย ครั้งล่าสุด จึงทำให้ Short Sell ได้ยากขึ้น และส่งผลต่อปริมาณการขายชอร์ตลดลงตาม ทั้งนี้ จากข้อมูลในอดีตที่มีการประกาศใช้ Uptick Rules ในปี 2563 ช่วง เดือนเมษายนถึงกันยายน มีผลทำให้มูลค่าการ Short Sell เฉลี่ยรายวันปรับลดลงถึง 82%

นายรองรักษ์ ยังกล่าวอีกว่าตลาดหลักทรัพย์ฯเตรียมเรียกผู้บริหาร บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) เข้ามาชี้แจงข้อมูลภายใน 1-2 วันนี้ กรณี EA รายงานการขายหุ้น Big lot จำนวน 14.69 ล้านหุ้น โดยชี้แจงข้อมูลให้กับตลาดหลักทรัพย์ฯ และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ที่ไม่ตรงกัน


โดยผู้บริหาร EA ชี้แจงกับตลาดหลักทรัพย์ฯว่าเป็นการขายในช่วง ณ ราคาปิดตลาด (ATC) ในวันที่ 1 ก.ค. 67 เพื่อปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้น ไม่ได้ถูก Force sell และไม่มีหุ้นที่มีความเสี่ยงจะโดน Force sell เหลือแล้ว แต่ชี้แจงข้อมูลกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ว่ารายการดังกล่าวเป็นการทำรายการแบบ Auto Matching ซึ่งเป็นการรายงานข้อมูลที่ไม่ตรงกัน

กรณีที่บริษัทจดทะเบียนที่ถูกมาตรการ Forced Sell หรือ การบังคับขายหลักทรัพย์ค้ำประกัน โดยผู้บริหารของบริษัทจดทะเบียนนำหุ้นไปวางเป็นหลักประกันเพื่อกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินนั้น ทางตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้มีการติดตามให้บริษัทจดทะเบียนชี้แจงข้อมูล เพื่อให้ผู้ลงทุนได้มีข้อมูลประกอบการตัดสินใจ ขณะนี้บริษัทจดทะเบียนต่างๆก็ได้ทยอยชี้แจงข้อมูลเข้ามาแล้ว อย่างไรก็ตาม หากพบว่ามีข้อมูลที่ผิดปกติหรือข้อมูลไม่ถูกต้อง หรือเข้าข่ายความผิดตาม พระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ก็จะมีการรวบรวมส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) พิจารณาต่อไป

สำหรับทิศทางตลาดหุ้นไทยในช่วงครึ่งหลัง ปี 2567 มองว่าจะ Sentiment ที่ดีขึ้น จากมาตรการขับเคลื่อนตลาดทุนของรัฐบาล ทั้งการปรับเงื่อนไขกองทุน ThaiESG การฟื้นกองทุนวายุภักษ์ รวมถึงเม็ดเงินจากภาครัฐที่จะเข้าสู่ระบบมาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจมากขึ้น ขณะที่ยังมีปัจจัยต่างประเทศจากธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ที่ส่งสัญญาณการลดดอกเบี้ยเพื่อไม่ให้เศรษฐกิจชะลอตัวไปมากกว่านี้ เชื่อว่าหากเฟด ลดดอกเบี้ย ก็จะส่งผลให้ fund flow ไหลกลับเข้ามาใน Emerging Market รวมถึงตลาดหุ้นไทย ซึ่งหากเฟดลดดอกเบี้ยเร็ว ก็เป็นไปได้ที่อาจจะเห็น fund flow ไหลกลับเข้ามาได้ในไตรมาส 3 ปีนี้ หากลดดอกเบี้ยช้าก็อาจเห็น fund flow ไหลกลับในไตรมาส 4 .-516-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตึกถล่มพบเสียชีวิตเพิ่ม

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่าง

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ในพื้นที่โซน B และโซน C มีซากอาคารถล่มทับร่างอยู่ ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่างและค้นหาผู้สูญหายใต้ซากอาคารต่อเนื่อง

ชายวัย 50 ไหว้ขอโทษ ไม่มีเจตนากุเรื่องเมียท้อง 4 เดือน ติดใต้ซากตึก สตง.

ชายวัย 50 ปี ยกมือไหว้ขอโทษ ไม่มีเจตนากุเรื่องภรรยาท้อง 4 เดือน ติดใต้ซากอาคาร สตง.ถล่ม ด้านรอง ผบช.น. เตือนอย่าใช้โอกาสที่มีผู้ประสบเหตุสร้างความสงสารหลอกเอาทรัพย์สิน มีความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน

ออกแล้ว! ผลตรวจเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่ม พบไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น

ผลตรวจตัวอย่างเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่มจากแผ่นดินไหว พบได้มาตรฐาน 15 ชิ้น ไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น ยังไม่สรุปเป็นสาเหตุตึกถล่ม ชี้ต้องดูหลายองค์ประกอบ

ข่าวแนะนำ

เริ่มใช้เครื่องจักรหนักเปิดซากอาคาร สตง.ถล่ม

102 ชั่วโมงแล้ว สำหรับปฏิบัติการค้นหาผู้รอดชีวิตจากเหตุอาคาร สตง.ถล่ม หน่วยกู้ภัยจากนานาชาติให้ความหวังว่ายังมีโอกาสเจอผู้รอดชีวิต ทำให้การค้นหาวันนี้ต้องแข่งกับเวลาอย่างเต็มที่

ทองไทยนิวไฮต่อเนื่อง ปิดตลาดเพิ่มขึ้น 550 บาท

ทองคำไทยผันผวนหนัก ปรับเปลี่ยน 18 ครั้ง ก่อนปิดตลาดปรับเพิ่ม 550 บาท ระหว่างวันขึ้นไปแตะนิวไฮ ทองคำแท่งขายออก 50,700 บาท ทองรูปพรรณขายออก 51,500 บาท ขึ้นไปต่อเนื่อง