กรุงเทพฯ 28 ก.พ.- “บิ๊กแป๊ะ”โวยตำรวจไม่ใช้ “ว.”แจ้งเหตุทำให้การสกัดจับคนร้ายระหว่างพื้นที่ล่าช้า “คุยฟุ้ง”ลงพื้นที่ร่วมทำคดีชิงรถขนเงิน บ.บริงคส์ ตั้งแต่เกิดเหตุ
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) กล่าวถึง ความคืบหน้าคดี 2คนร้ายชิงทรัพย์รถขนเงินในพื้นที่ สน.หนองค้างพลูว่า ขณะนี้กำลังสืบสวนติดตามนายทักษ์ดนัย เหนี่ยวรั้งใจ หรือกอล์ฟ ผู้ต้องหาที่ยังหลบหนี ไปพร้อมกับปืนที่ใช้ก่อเหตุ จากการสอบปากคำผูุ้ต้องหาที่จับได้ วัย 19 ปีให้การเป็นประโยชน์ ยอมรับก่อเหตุชิงทรัพย์รถขนเงิน ปี 2560 ที่ จ.นนทบุรี แม้คนร้ายจะรับว่าทำแค่ 2ครั้ง แต่เราก็ไม่เชื่อคำให้การคนร้ายอยู่แล้ว คำให้การคนร้ายเชื่อยาก ขณะเดียวกันตอนนี้ยังต้องสืบสวนสอบสวนให้แน่ชัดว่าพนักงานของบริษัทรถขนเงินที่อยู่ในเหตุการณ์มีส่วนเกี่ยวข้องสมรู้ร่วมคิดหรือไม่ แม้เบื้อต้นจะเชื่อว่าไม่เกี่ยวแต่เราก็ยังไม่ปักใจเชื่อเสียทีเดียว ส่วนนายกอล์ฟที่หลบหนีเชื่อว่าจะจับได้เร็วๆนี้
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวอีกว่า คดีนี้ที่ตนต้องลงพื้นที่ไปจี้ที่สน.ด้วยตัวเอง เพราะเป็นเรื่องอุกอาจมาก ก่อเหตุแบบนี้ในเมืองหลวง ชิงเงินเป็นล้าน ก่อเหตุแบบง่ายๆ เป็นโจรมืออาชีพ อำพรางรถที่ก่อเหตุมาอย่างดี ใส่รองเท้าแตะขี่มอเตอไซค์มาก่อเหตุแบบใจเย็นทำง่ายๆ เรื่องแบบนี้ไม่ควรเกิดในนครบาล ตนเป็นผบช.น.มาก่อน เรื่องแบบนี้ตนตามจับมาตั้งแต่เป็น ผบก.สายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ(191) แล้ว ตอนที่ตนเห็นภาพมอเตอร์ไซค์ที่ก่อเหตุครั้งแรกก็บอกชุดสืบสวนเลยว่าไปดูดีๆสีมันเพี้ยน แล้วก็จริงคนร้ายใส่สติ๊กเกอร์แปะทับทั้งคันแล้วพ่นสีใหม่ทับ ก่อเหตุเสร็จก็ลอกสติ๊กเกอร์ออก นี่คือเตรียมการมาอย่างดี แล้วอีกครั้งนายกอล์ฟเคยทำงานที่บริษัทนี้มาก่อน เคยเป็นคนใน จึงรู้จังหวะ ช่วงเวลาการทำงานของรถขนเงิน กรณีนี้มาดูลาดเลา 3วัน ก็ก่อเหตุสำเร็จเลย คดีนี้ตนไปดูด้วยตัวเองตั้งแต่ต้น ไปทุกวันแต่ไม่มีใครรู้
พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า จากคดีนี้ตนได้ไปหารือกับบริษัทรถขนเงินต่างๆ เราต้องช่วยกันป้องกันไม่ให้เกิดอีก บริษัทฯส่วนใหญ่จะคิดว่ามีประกัน จึงไม่ได้ป้องกันเหตุร้ายแบบนี้เต็มที่ แต่ในมุมตำรวจเราไม่อยากให้เกิดแล้วต้องมาตามจับ จึงเสนอไปว่าตำรวจพร้อมจะช่วย กรณีรถขนเงินแบบนี้ให้ประสานตำรวจไปดูแลอีกส่วนหนึ่งเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุเช่นนี้อีก ตำรวจเราพร้อมอยู่แล้วแค่ขอมา
“อีกอย่างเรื่องนี้เพราะไม่มีมาตรการก้าวสกัดจับ คนร้ายก่อเหตุตำรวจประสานงานล่าช้า กว่าจะรู้ กว่าจะได้แจ้งสายตรวจมาดูคนร้ายไปแล้ว ผมตำหนิผกก.สน.หนองค้างพลูไปแล้ว ผมเป็นผบช.น.มาก่อน รู้ว่าเรื่องพวกนี้ควรจะทำอย่างไร ผมก็บอกไปเรื่องแบบนี้เดี๋ยวนี้ละเลยกัน บางทีท้องที่ต้องทำคนร้ายสมมติ ลองจับเวลาดู ในการตามจับ งานในนครบาลคืองานฟังชั่นโรงพักติดกัน ต้องช่วยกันตามจับคนร้าย เรื่องนี้จุดอ่อนคือการรับแจ้งเหตุ จากคนแรกที่รู้ ทั้งที่สายตรวจมีอยู่แล้ว โรงพักเดี๋ยวนี้ไม่ใช่ ว.(วิทยุสื่อสาร) ทั้งที่วัฒนธรรมการทำงานของตำรวจนครบาลต้องใช้ ว.สื่อสารกัน ไม่ใช่โทรศัพท์ มันเร็ว แต่เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยใช้กันแล้ว ผมย้ำไปหลายครั้ง คาดโทษด้วยซ้ำใครไม่พก ว. เดี๋ยวนี้ใช้โทรศัพพ์ ใช้ไลน์ แล้วมันทันไหมล่ะ ว.แป๊บเดียวขึ้นได้ยินกันทั่ว ในการแจ้งเหตุ ต้องไปทบทวนทำคนร้ายสมมติซักซ้อมเตรียมพร้อมจับกุม ใช้ ว. “พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าว .-สำนักข่าวไทย