ดัชนีเชื่อมั่นหอการค้าไทย ม.ค.62 อยู่ในระดับ 48.0

กรุงเทพฯ 26 ก.พ. – ดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย ม.ค.62 อยู่ที่ 48.0 ต่ำสุดในรอบ 4 เดือน สะท้อนเศรษฐกิจไทยยังฟื้นตัวช้า และไม่โดดเด่น หวังเลือกตั้งช่วยเงินสะพัด สงครามการค้าไม่รุนแรงไปกว่าเดิม หนุนจีดีพีปีนี้โตร้อยละ 4 



นางเสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ อธิการบดี มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย แถลงดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย เดือนมกราคม 2562 ซึ่งสำรวจจากผู้นำหอการค้าจังหวัดทั่วประเทศและ กทม. โดยสอบถาม ประธานหอการค้า รองประธานหอการค้าและเลขาธิการหอการค้า  โดยสำรวจระหว่างวันที่ 28 มกราคม-8 กุมภาพันธ์ 2562 พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 46.0 ต่ำสุดในรอบ 6 เดือน ส่วนมุมมองอนาคตในช่วง 6 เดือนข้างหน้า ดัชนีฯ อยู่ที่ระดับ 49.9 ค่าดัชนีทุกรายการต่ำกว่าปกติ และต่ำสุดครั้งแรกในรอบ 13 เดือนของการสำรวจ ส่งผลให้ดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทยเดือนมกราคม 2562 อยู่ในระดับ 48.0 จากที่เคยอยู่ในระดับ 48.4 ในเดือนธันวาคม 2561 นับเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือนและดัชนีฯ ไม่เคยอยู่เหนือกว่าระดับปกติที่ระดับ 50 และหากพิจารณารายภาคจะพบว่าดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทยมีเฉพาะส่วนของกรุงเทพมหานคร (กทม.) ปริมณฑล และภาคตะวันออกเฉียงเหนือเท่านั้นที่ไม่เปลี่ยนแปลง ส่วนที่เหลือดัชนีความเชื่อมั่น ฯ ลดลงทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคเหนือ และภาคใต้ 


สำหรับแนวทางแก้ไขปัญหาที่ต้องการให้ดำเนินการ ได้แก่ การกระตุ้นและการพัฒนาเศรษฐกิจ ปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน สาธารณูปโภคและคมนาคมในประเทศ การแก้ไขปัญหาสินค้าเกษตรตกต่ำ มาตรการเพิ่มรายได้และกำลังซื้อให้ประชาชน การส่งเสริมการท่องเที่ยว อาทิ การสร้างความเชื่อมั่นการท่องเที่ยวให้กับนักท่องเที่ยว การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว และการชี้แจงการใช้งบประมาณของภาครัฐเพื่อความโปร่งใส 

 


นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการ ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า การที่ดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทยเดือนมกราคม 2562 อยู่ในระดับ 48.0 บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจไทยยังฟื้นตัวช้าและไม่โดดเด่น และยังกังวลทิศทางในอนาคต โดยมองว่าภาคการเกษตรยังมีสัญญาณแย่ลงมีการตอบถึงร้อยละ 38  เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจยังไม่โดดเด่น แต่คาดหวังว่าการเลือกตั้งทั่วไปที่จะมีขึ้นในเดือนมีนาคมนี้ น่าจะมีเม็ดเงินสะพัดในจังหวัดต่าง ๆ ที่จะช่วยพยุงเศรษฐกิจได้ แต่การสำรวจครั้งนี้จัดทำเดือนมกราคม จึงยังไม่มีปัจจัยนี้เข้ามาช่วย ด้านการท่องเที่ยวมกราคมที่ผ่านมา พบว่านักท่องเที่ยวชาวจีนยังไม่กลับมาท่องเที่ยว แต่คาดว่าเดือนกุมภาพันธ์นี้นักท่องเที่ยวจีนน่าจะกลับมาทำให้การท่องเที่ยวคึกคักขึ้นอีกครั้ง และจากการที่ราคาสินค้าเกษตรในภาคใต้ยังไม่ดีขณะที่นักท่องเที่ยวยังไม่กลับมาเต็มที่ ส่งผลให้ดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทยภาคใต้ต่ำสุดในรอบ 13 เดือน แต่หวังว่าเดือนกุมภาพันธ์นี้จะดีขึ้นจะเป็นเครื่องชี้เศรษฐกิจไทยว่าจะปรับดีขึ้นหรือแย่ลง  

ส่วนประเด็นที่ส่งผลกระทบ ได้แก่ สงครามการค้าทำให้ดัชนีฯ ติดลบต่อเนื่อง 3 เดือนตั้งแต่พฤศจิกายน 2561-มกราคม 2562 ทำให้ผู้ที่อยู่ในห่วงโซ่อุปทานทั้งหมดภายในประเทศมีสัญญาณซึมตัว แต่บรรยากาศไม่ถือว่าผิดปกติรุนแรง ยังมีความเข้มแข็งในภาคอุตสาหกรรมยังเกินระดับ 50 ที่เป็นค่าปกติทั้งของภาคกลาง ภาคตะวันออก และกรุงเทพมหานครและปริมลฑล  

ทั้งนี้ มองว่าหากสงครามการค้าไม่รุนแรงไปกว่านี้ซึ่งก็ไม่น่าจะเกิดขึ้น และอังกฤษรอมชอมกรณี BREXIT ขณะที่บรรยากาศการใช้จ่ายในประเทศกลับมาจากเงินสะพัดช่วงเลือกตั้งทั่วไปเดือนมีนาคมนี้  รวมถึงผลจากการมีพระราชพิธีสำคัญในประเทศไทย คาดหวังว่าจะมีเม็ดเงินสะพัด และคาดว่าเดือนพฤษภาคมนี้ น่าจะได้นายกรัฐมนตรีได้รัฐบาลใหม่ประมาณเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคมนี้ รัฐบาลมีการใช้จ่ายงบประมาณทั้งงบลงทุนและงบปกติและเร่งรัดการเบิกจ่าย คาดหวังว่าจะบริหารจัดการเงินบาทที่เหมาะสมเพื่อเอื้อต่อการส่งออกของไทยขยายตัวร้อยละ 4 ต่อปี  โดยค่าเงินบาทอยู่ในกรอบที่เหมาะสมไม่แข็งค่ากว่าประเทศคู่แข่งขันของไทย โดยค่าเงินบาทที่อยู่ในช่วงใกล้ 32 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ เป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อการส่งออกและการท่องเที่ยวของไทย รวมถึงคาดหวังการเมืองมีการเลือกตั้งผ่านไปด้วยดี ก็จะส่งผลให้เศรษฐกิจไทยปี 2562 สามารถที่จะขยายตัวประมาณร้อยละ 4 ท่ามกลางสัญญาณเศรษฐกิจไทยที่เปิดมาเดือนมกราคมเดือนแรกของปีนี้ที่ไม่สวยมากนัก แต่คาดกุมภาพันธ์เป็นตัววัดเศรษฐกิจไทยจะไปในทิศทางใด เบื้องต้นคาดว่าไตรมาสแรกปีนี้เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวร้อยละ 3.5-3.8 เนื่องจากปีที่ผ่านมาช่วงเดียวกันฐานสูงที่เติบโตที่ร้อยละ 4.9 .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง