กรุงเทพฯ 26 ก.พ. – อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ระบุ พ.ร.บ.สหกรณ์ฉบับใหม่ที่จะมีผลบังคับใช้ เน้นสร้างความเข้มแข็งและโปร่งใส เตรียมออกมาตรการกำกับดูแล 13 ด้าน ลดความเสี่ยงสมาชิก
นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวว่า พ.ร.บ.สหกรณ์ฉบับใหม่ที่กำลังจะมีผลบังคับใช้ มีสาระสำคัญสร้างความเข้มแข็งอย่างยั่งยืนให้แก่กระบวนการสหกรณ์ ซึ่งจะมีการกำหนดหลักเกณฑ์ต่าง ๆ โดยออกเป็นกฎกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ครอบคลุม 13 ด้าน เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดกับสมาชิก ดังนั้น ขอให้สหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนไม่ต้องกังวลว่าเกณฑ์กำกับใหม่จะควบคุมมากเกินไป จนดำเนินการตามกระบวนการสหกรณ์ไม่ได้ ซึ่งก่อนที่จะออกกฏกระทรวง เพื่อใช้เกณฑ์กำกับกรมส่งเสริมสหกรณ์ร่วมกับสันนิบาตสหกรณ์ชี้แจงทำประชาพิจารณ์ถึงเกณฑ์ที่จะนำมาใช้ต้องผ่านการมีส่วนร่วมก่อนว่าหลักเกณฑ์ใดที่ยอมรับกันได้ จึงนำมาบังคับใช้ หลักเกณฑ์ใดยังไม่ถึงเวลาใช้ก็สามารถผ่อนคลายได้ในช่วงเวลาเหมาะสม จะมากำหนดกันโดยให้สหกรณ์ต่าง ๆ ได้มีระยะเวลาปรับตัว
“อยากฝากสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนและสหกรณ์ออมทรัย์ว่าขณะนี้กรมได้ยกตัวร่างกฎกระทรวง จากนั้นจะให้สหกรณ์ต่าง ๆ แสดงความคิดเห็นร่วมกันว่าสามารถทำให้กระบวนการสหกรณ์ดำเนินการได้หรือไม่ กฎกระทรวงจะมีผลบังคับใช้ภายใน 2 ปี หลัง พ.ร.บ.สหกรณ์ฉบับใหม่มีผลบังคับใช้ ทั้งนี้ การออกข้อกำหนดบางข้อ จำเป็นต้องค่อย ๆ ให้เวลาสหกรณ์ปรับแนวทางการดำเนินการจะบังคับทันทีทุกข้อไม่ได้” นายพิเชษฐ์ กล่าว
นายพิเชษฐ กล่าวว่า นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้นโยบายว่าการพัฒนาให้เกษตรกรรวมกลุ่มเป็นสหกรณ์เป็นกระบวนการสำคัญในการปฏิรูปภาคเกษตรไทย คือ การรวมกลุ่มตั้งแต่การผลิตจนถึงการจำหน่าย โดยสหกรณ์ทำหน้าที่เป็นหน่วยธุรกิจ ดังนั้น จึงมีแนวทางยกระดับสหกรณ์การเกษตร ต่อยอด ผลผลิตการเกษตร ไปสู่การแปรรูปเพิ่มมูลค่า สร้างรายได้ให้กับเกษตรกร โดยมีสหกรณ์ระดับอำเภอ ทุกแห่งเป็นแม่ข่าย ดึงสหกรณ์ขนาดเล็กมาร่วมเป็นเครือข่าย พัฒนาไปพร้อม ๆ กัน.-สำนักข่าวไทย