กรุงเทพฯ 18 ก.พ.-บริษัท อสมท จำกัด(มหาชน) เดินหน้าโครงการพัฒนาที่ดิน
50 ไร่และที่ดินที่ทำการ 20 ไร่ โดยวันนี้(18 ก.พ.) เปิดรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นครั้งแรก
นายเขมทัตต์ พลเดช กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท.จำกัด(มหาชน)
เป็นประธานเปิดประชุมรับฟังความคิดเห็น ครั้งที่ 1
ในโครงการศึกษาความเหมาะสมและความเป็นไปได้ในการการพัฒนาที่ดิน 50 ไร่และที่ดินที่ทำการ
บมจ.อสมท.เนื้อที่ประมาณ 20 ไร่ โดยนายเขมทัตต์ กล่าวว่า บมจ.อสมท เป็นรัฐวิสาหกิจภายใต้การกำกับดูแลของสำนักนายกรัฐมนตรี
นอกจากดำเนินธุรกิจด้านสื่อสารมวลชนแล้ว
บมจ.อสมทยังมุ่งแสวงหารายได้ใหม่ด้วยการนำสินทรัพย์ที่มีอยู่มาพัฒนาให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่องค์กร
โดยเฉพาะที่ดินว่างเปล่าเนื้อที่ 50
ไร่ซึ่งอยู่ติดกับศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทยและอยู่ตรงข้ามกับที่ทำการปัจจุบันของ
บมจ.อสมทและที่ดินทำการของบมจ.อสมท เนื้อที่ประมาณ 20 ไร่ในเขตห้วยขวาง
โดยที่ดินทั้ง 2 แปลงดังกล่าวตั้งอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพสามารถเดินทางเชื่อมต่อไปยังจุดต่าง
ๆ ของเมืองได้อย่างสะดวกสบายเพราะอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าสายสีส้มและสายสีน้ำเงิน
นอกจากนี้พื้นที่ทั้งสองแปลงยังอยู่ใกล้กับศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า แกรนด์พระราม
9,ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย
ธนาคารอาคารสงเคราะห์สำนังกานใหญ่ที่สามารถลงทุนต่อยอดทางธุรกิจได้
นายไพรัช มณฑาพันธ์
ผู้จัดการโครงการศึกษาความเหมาะสมและความเป็นไปได้ในการพัฒนาที่ดินว่าง 50
ไร่และที่ดินที่ทำการเนื้อที่ประมาณ 20 ไร่
ของอสมทจากสำนักงานศูนย์วิจัยและให้คำปรึกษาแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า
ตามบทบัญญัติของสำนักนายกรัฐมนตรี
บมจ.อสมทจะต้องศึกษาความเป็นไปได้และต้องจัดรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน 2 ครั้ง
วันนี้เป็นครั้งแรก ส่วนครั้งที่ 2 จะจัดขึ้นช่วงปลายเดือนมีนาคมหรือเดือนเมษายน
2562
หลังจากนั้นจะต้องนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อรับทราบและนำเสนอต่อกระทรวงการคลังเพื่อดำเนินการต่อไป
นายต่อพงศ์ ไทยน้อย ผู้เชี่ยวชาญด้านสถาปัตยกรรม
สำนักงานศูนย์วิจัยและให้คำปรึกษาแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
กล่าวถึงข้อจำกัดของที่ดินทั้งสองแปลงนี้ ว่า
ไม่สามารถสร้างตลาดหรือโรงแรมรวมทั้งอาคารที่สูงเกินกฎหมายกำหนดได้
แต่สามารถพัฒนาเป็นที่อยู่อาศัยหรือโรงแรมที่ไม่สูงได้ พื้นที่ศูนย์การแสดงงาน พื้นที่ศูนย์การเรียนรู้
โครงการบ้านเดี่ยวราคาสูงรวมทั้งศูนย์แสดงสินค้าและพัฒนาเป็นพื้นที่สีเขียวเชื่อมต่อกับศูนย์วัฒนธรรมได้
สำหรับการแสดงความเห็นของประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ส่วนใหญ่จะเสนอให้ บมจ.อสมทพัฒนาที่ดินทั้ง 2 แปลงเพื่อความยั่งยืนและไม่ให้มีการเสนอขายที่ดินดังกล่าวแต่ควรเปิดให้มีการร่วมทุนกับเอกชนเพื่อพัฒนาที่ดินดังกล่าวเพื่อประโยชน์สูงสุดเนื่องจากเห็นว่าบมจ.อสมทเป็นสมบัติของชาติ-สำนักข่าวไทย