สธ. 15 ก.พ.- กรมอนามัย เตือนประชาชนที่มีความเชื่อ พบแหล่งน้ำผุดตามสถานที่ต่างๆ ว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ นำมาดื่ม อาบ อาจมีอันตรายต่อสุขภาพ เพราะเป็นน้ำที่ไม่สะอาด ไม่เหมาะสมสำหรับใช้ดื่มกิน เสี่ยงต่อการได้รับสารพิษและเชื้อโรค
นพ.ดนัย ธีวันดา รองอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า การนำน้ำที่ผุดขึ้นมาจากสถานที่ต่างๆ โดยเฉพาะน้ำที่ผุดมาจากพื้นดิน ซอกหิน ถ้ำ และเชื่อว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ ไปดื่มหรืออาบเพื่อรักษาโรคนั้น ไม่ควรทำอย่างยิ่ง เพราะหากไม่มีการพิสูจน์แหล่งที่มาหรือคุณภาพน้ำให้ชัดเจน ก็จะมีความเสี่ยงต่อการปนเปื้อนสารเคมีและเชื้อโรคได้ เสี่ยงต่อการเกิดโรคท้องร่วง โรคผิวหนัง และได้รับสารพิษสะสม เพื่อความมั่นใจควรให้ทางราชการเข้าไปตรวจสอบคุณภาพน้ำก่อน
ทั้งนี้ จากการสุ่มตรวจสอบคุณภาพน้ำบริโภคในปี 2561 พบว่ามีคุณภาพเหมาะสมสำหรับการบริโภคเพียงร้อยละ 40.13 โดยน้ำประปา น้ำตู้หยอดเหรียญ และน้ำบรรจุถัง 20 ลิตร มีคุณภาพเหมาะสมสำหรับการบริโภคมากที่สุด ส่วนน้ำที่มาจากแหล่งน้ำธรรมชาติที่ประชาชนใช้บริโภคนั้น ไม่มีความเหมาะสมสำหรับการนำมาบริโภคเลย สาเหตุสำคัญ คือ ปนเปื้อนโคลิฟอร์มแบคทีเรียและฟีคัลโคลิฟอร์มแบคทีเรีย ซึ่งบ่งบอกว่ามีโอกาสปนเปื้อนจากเชื้อโรคสูง
“ประชาชนควรให้ความสำคัญกับการเลือกน้ำสำหรับบริโภคในครัวเรือน ควรเลือกดื่มน้ำที่สะอาดและราคาถูก เช่น น้ำประปา ที่มีกระบวนการผลิตได้มาตรฐาน น้ำมีคุณภาพเหมาะสมต่อการบริโภค ที่สำคัญมีคลอรีนสำหรับฆ่าเชื้อโรคตกค้างอยู่ด้วย ซึ่งสังเกตง่ายๆ จะได้กลิ่นคลอรีนในน้ำประปา ซึ่งบ่งบอกว่าน้ำประปาสะอาดและปลอดภัย” รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าว -สำนักข่าวไทย