รวบสามีภรรยาสุดแสบ ทำลายกำไล EM หนีศาลคดีฉ้อโกงแชร์ออนไลน์

นครราชสีมา 29 ม.ค.-รวบ 2 สามีภรรยาสุดแสบ ทำลายกำไล EM หนีศาลรอเรียกฟังคำพิพากษาคดีร่วมกันฉ้อโกงหลอกลวงประชาชนโอนเงินเล่นแชร์ออนไลน์ มูลค่าความเสียหายกว่า 120 ล้านบาท


ตำรวจ สน.หลักสอง จับกุมผู้ต้องหาสองสามีภรรยา คดีร่วมกันฉ้อโกงหลอกลวงให้ประชาชนโอนเงินเล่นแชร์ออนไลน์ สร้างความเสียหายนับร้อยราย มูลค่าความเสียหายกว่า 120 ล้านบาท ซึ่งที่ผ่านมากลุ่มผู้เสียหายรวมตัวกันเดินทางเข้าร้องทุกข์กับ บก.ปอศ. และตั้งกลุ่มล่าตัวผู้ต้องหาตามโลกโซเชียลอย่างไม่ลดละ หลังจากถูกจับกุมแล้ว สามีภรรยาคู่นี้ยังร่วมกันทำลายกำไล EM หรือกำไลข้อเท้าอิเล็กทรอนิกส์ ที่ศาลสั่งให้สวมไว้ เพื่อหลบหนีในขั้นตอนการรอเรียกฟังคำพิพากษา

การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 14 มิ.ย.61 เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปอศ. ได้ร่วมกันจับกุมนายทศพล หรือต้อม บุญมานุช อายุ 28 ปี และ น.ส.ปิยพร หรือฟิล์ม แส่สันเทียะ อายุ 28 ปี สองสามีภรรยา ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ, ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน และนำเข้าซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ โดยจับกุมตัวได้ในพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ หลังผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย หลอกลวงผู้เสียหาย


ในขณะนั้นซึ่งมีประมาณ 50 คน ให้โอนเงินร่วมเล่นแชร์ออนไลน์ ลงทุนทำธุรกิจร้านขายโทรศัพท์มือถือ ทำให้เหยื่อหลงเชื่อโอนเงินให้แล้วเชิดหนี สร้างความเสียหายประมาณ 120 ล้านบาท การจับกุมครั้งนั้น ผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย อ้างว่าเปิดวงแชร์ให้ลูกค้าเล่นจริง มือละ 50,000 บาท ช่วงแรกมีการโอนดอกเบี้ยให้ตามตกลง แต่ระยะหลังถูกหุ้นส่วนโกงเงิน ทำให้แชร์ล่ม ไม่มีเงินชำระคืนผู้เสียหาย กระทั่งนำมาสู่การจับกุม

ในเวลาไม่กี่เดือนถัดมา ชุดสืบสวน สน.หลักสอง นำโดย พ.ต.ท.ชัยพันธุ์ เพ็ชรสดศิลป์ รอง ผกก.สส.สน.หลักสอง และ พ.ต.ท.เทพพนม จันทร์หอม สว.สส.สน.หลักสอง สืบทราบว่าทั้งนายทศพล และ น.ส.ปิยพร ได้ทำลายกำไล EM หรือกำไลข้อเท้าอิเล็กทรอนิกส์ ที่ศาลสั่งให้สวมไว้ เพื่อหลบหนีในขั้นตอนการรอเรียกฟังคำพิพากษา โดยเฉพาะในพื้นที่ สน.หลักสอง มีผู้เสียหายที่ได้รับผลกระทบจากการก่อเหตุ ทั้งสิ้น 38 ราย มูลค่าความเสียหายนับล้านบาท จึงสืบสวนแกะรอยหาตัวสามีภรรยาแสบคู่นี้ กระทั่งติดตามไปจับกุมตัวไว้ได้ ตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี เลขที่ จ.816/2560 และเลขที่ จ.817/2560 ลงวันที่ 20 ธ.ค.60 ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน สามารถจับกุมตัวได้ขณะหลบหนีไปกบดานในซอย 30 กันยา ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา

จากการสอบสวน นายทศพลยอมรับว่า เมื่อช่วงต้นเดือน ธ.ค.61 ได้ร่วมกันกับ น.ส.ปิยพร ทำลายกำไล EM ที่ศาลสั่งให้สวมเอาไว้ เพื่อหลบหนี เนื่องจากใกล้ถึงวันนัดฟังคำพิพากษาจากศาลแล้ว เชื่อว่าคงต้องโทษติดคุกแน่ ประกอบกับไม่สามารถหาเงินมาชดใช้ผู้เสียหายที่มีนับร้อยรายได้ทัน โดยวิธีทำลายกำไล EM ตนและภรรยาเพียงใช้กรรไกรตัวใหญ่ สภาพคมๆ ช่วยกันตัด ใช้เวลานานพอสมควร ทำให้มีบาดแผลเกิดขึ้นที่ข้อเท้าเล็กน้อย เมื่อทำลายกำไลเรียบร้อย ตนก็พากันขับรถยนต์ไปกบดานอาศัยหลับนอนตามปั๊มน้ำมันต่างๆ เร่ร่อนไปถึง จ.นครราชสีมา หาห้องเช่า กระทั่งถูกฝ่ายสืบสวน สน.หลักสอง ตามไปจับกุมตัวได้ในที่สุด


การจับกุมครั้งนี้ ทางฝ่ายสืบสวน สน.หลักสอง สืบทราบว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ไปกบดานในพื้นที่ จ.นครราชสีมา จึงนำหมายจับคดีเดิมที่เคยก่อเอาไว้ตามไปเข้าจับกุม หลังจากนี้เมื่อพนักงานสอบสวน สน.หลักสอง แจ้งข้อหาตามหมายจับเรียบร้อยแล้วจะส่งตัวทั้งคู่เข้าสู่ศาล จากนั้นเชื่อว่าผู้ต้องหาทั้งคู่จะถูกแจ้งข้อหาเพิ่มเติมในกรณีที่ช่วยกันทำลายกำไล EM และหลบหนีจากการควบคุมตามคำสั่งศาลในชั้นการปล่อยตัวชั่วคราว ที่สำคัญการถูกจับกุมรอบนี้เชื่อว่าทั้งนายทศพล และ น.ส.ปิยพร น่าจะไม่ได้รับอิสรภาพออกมาสู้คดีเหมือนอย่างที่เคยได้รับโอกาสมาแล้ว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

“ทนายสายหยุด” จ่อถอนตัวคดีตั้ม หวั่นติดร่างแห

“ทนายสายหยุด” เตรียมถอนตัวเป็นทนายให้ “ตั้ม” เผยในมือมีแต่พยานเท็จ ปิดบังข้อเท็จจริง เสี่ยงเป็นผู้ร่วมกระทำผิด

ข่าวแนะนำ

เปิดปมสังหารยกครัว 4 ศพ แค้นชู้สาว

เปิดปมเหตุสลดฆ่ายกครัว 3 ศพ ก่อนผู้ก่อเหตุยิงตัวเองเป็นศพที่ 4 ใน จ.สมุทรปราการ พบข้อมูลว่าความแค้นครั้งนี้มาจากเรื่องชู้สาว แต่ลูกชายของผู้ตายยังไม่เชื่อว่าแม่มีความสัมพันธ์กับมือปืน แต่ยอมรับมือปืนให้เงินแม่ใช้ทุกวัน

ศาลไม่ให้ประกัน “สามารถ” ชี้พฤติการณ์ร้ายเเรง

ทนายเผยศาลไม่ให้ประกัน “สามารถ” เพราะพฤติการณ์ร้ายเเรง เตรียมยื่นอุทธรณ์คำสั่งประกัน ด้าน “แม่สามารถ” วอนผู้มีอำนาจอย่าเอาความลูกชายตน ลั่นหลังจากนี้จะสู้เพื่อความยุติธรรม