คลังไฟเขียวประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล 4 ราย

กรุงเทพฯ 8 ม.ค. – กระทรวงการคลังเห็นชอบให้ใบอนุญาตประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล 4 ราย ปฏิเสธคำขอใบอนุญาต 2 ราย และ 1 รายที่ยังอยู่ระหว่างการพิจารณา


ตามที่ได้มีผู้ยื่นขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลภายใต้พระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561 จำนวน 7 รายนั้น วันที่ 7 มกราคม 2562 กระทรวงการคลังแจ้งผลการพิจารณาคำขอรับใบอนุญาตดังกล่าวดังนี้

กลุ่มที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล 4 ราย ประกอบด้วย ผู้ได้รับอนุญาตเป็นศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล 3 ราย ได้แก่ 1.บริษัท บิทคอยน์ จำกัด (BX) เว็บไซต์ bx.in.th 2. บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด (BITKUB) เว็บไซต์ bitkub.com และ 3.บริษัท สตางค์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (Satang Pro) เว็บไซต์ satang.pro และผู้ได้รับใบอนุญาตเป็นนายหน้าและผู้ค้าคริปโทเคอร์เรนซี (Broker/Dealer)  1 ราย ได้แก่ 4. บริษัท คอยส์ ทีเอช จำกัด (Coins TH) เว็บไซต์ Coins.co.th


กลุ่มที่คำขออนุญาตถูกปฏิเสธ 2 ราย ได้แก่ บริษัท แคชทูคอยน์ จำกัด (Cash2coin) เว็บไซต์ cash2coins.com และบริษัท เซาท์อีส เอเชีย ดิจิทัล เอ็กซ์เชนจ์ จำกัด (SEADEX) เว็บไซต์ seadex.io ซึ่งได้ยื่นคำขอใบอนุญาตเป็นศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Exchange) เนื่องจากระบบงานสำคัญ อาทิ การดูแลรักษาทรัพย์สินและระบบงานในการทำความรู้จักตัวตนลูกค้ายังไม่มีความพร้อมตามมาตรฐานที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ยอมรับ และไม่สามารถแสดงได้ว่าระบบ IT security และ cybersecurity มีความปลอดภัยเพียงพอ

ทั้งนี้ เนื่องจากบริษัท Cash2coin และ SEADEX มีการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลภายใต้บทเฉพาะกาล ผลการพิจารณานี้จึงเป็นเหตุให้บริษัทต้องยุติการประกอบธุรกิจ  อย่างไรก็ตาม  เพื่อให้เวลาในการดำเนินการที่เกี่ยวข้องให้เป็นไปอย่างเรียบร้อย รวมทั้งแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าทราบเพื่อการโอนทรัพย์สินของตนเองคืน หรือโอนไปยังผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลรายอื่นตามความประสงค์ของลูกค้า กระทรวงการคลังจึงอนุญาตให้บริษัททั้ง 2 รายดังกล่าว ยังสามารถประกอบธุรกิจต่อไปได้จนถึงวันที่ 14 มกราคม 2562  ทั้งนี้ หากบริษัทฯ ยังมีทรัพย์สินของลูกค้าที่รับฝากไว้ ขอความร่วมมือให้บริษัทฯ ดำเนินการโอนหรือส่งคืนทรัพย์สินให้แก่ลูกค้าหรือตามคำสั่งลูกค้า และขอให้แจ้งผลการดำเนินงานให้ ก.ล.ต. ทราบด้วย  โดย ก.ล.ต.ได้มีหนังสือแจ้งให้บริษัททั้ง 2 แห่งทราบเกี่ยวกับการดำเนินการดังกล่าวแล้ว  ทั้งนี้ การปฏิเสธคำขอใบอนุญาตดังกล่าวไม่ได้ตัดสิทธิในการยื่นขอใบอนุญาตได้อีกในอนาคตเมื่อบริษัทมีความพร้อม

สำหรับผู้ขออนุญาตรายบริษัท คอยน์ แอสเซท จำกัด (Coin Asset) เว็บไซต์ coinasset.co.th ซึ่งยื่นขอใบอนุญาตเป็นศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลนั้น เนื่องจากระหว่างพิจารณาคำขอ Coin Asset มีการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารที่มีนัยสำคัญต่อการพิจารณา ขณะนี้กระทรวงการคลังยังอยู่ระหว่างการพิจารณาข้อมูลที่มีการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว จึงเป็นเหตุให้การพิจารณาคำขอของบริษัทต้องเลื่อนออกไป โดยในระหว่างนี้บริษัทดังกล่าวยังสามารถประกอบธุรกิจต่อไปได้ภายใต้บทเฉพาะกาล


ทั้งนี้ ผู้สนใจเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การขอใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบสินทรัพย์ดิจิทัล หรือผู้ลงทุนหรือประชาชนที่สนใจข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล สามารถดูรายละเอียดได้ที่ www.sec.or.th/digitalasset  หรือติดต่อ Help Center ของ ก.ล.ต. โทร. 1207 ได้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มพาลูก-เมียกลับจากฉลองวันเกิด รถยางระเบิดเสียหลักชนเสาไฟ ดับ 3 สาหัส 2

พ่อแม่ลูก 5 คน กลับจากฉลองวันเกิด รถกระบะยางระเบิดเสียหลักหมุนชนอัดเสาไฟฟ้า พ่อและแม่พร้อมลูกคนโตเสียชีวิตคาที่ ส่วนลูกคนกลางและคนเล็กอาการสาหัส

สุดโหด! ไล่แทงหนุ่มดับปมขัดแย้งยาเสพติด

วงจรปิดจับภาพชัด คนร้ายวิ่งข้ามถนนไล่แทงหนุ่มเสียชีวิต ชาวบ้านแตกตื่น ขณะที่ตำรวจรวบตัวทันควัน คาดปมขัดแย้งยาเสพติด

กยศ.เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน พ.ค.-มิ.ย.68

กยศ. เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน ช่วยเหลือชั่วคราว พ.ค.-มิ.ย.68 ให้นายจ้างลดยอดการหักเงินเดือน ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อเริ่มผ่อนชำระใหม่เป็นรายเดือนในอัตราลดลง

ข่าวแนะนำ

ผู้เสียหาย 70 ราย ร้องสภาทนายฯ ถูกหอพักโหดเอาเปรียบ

ผู้เสียหาย 70 คน เข้าร้องสภาทนายความช่วยเหลือ หลังถูกเจ้าของหอพัก ย่านรังสิต เอาเปรียบ ข่มขู่กักขัง-ยึดทรัพย์ ด้านนายกสภาทนายความ ตั้งคณะทำงานช่วยเหลือทางคดี ทั้งแพ่ง-อาญา เชื่อมีผู้เสียหายเพิ่มอีก

คณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษ 3 แพทย์ เซ่นปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14

คณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษแพทย์ 3 ท่าน เซ่นปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ โดยว่ากล่าวตักเตือน 1 ท่าน พักใช้ใบประกอบวิชาชีพ 2 ท่าน เผยมติที่ประชุมมีความเห็น “เป็นเสียงส่วนใหญ่มาก มาก มาก”

นายกฯ มาเลเซีย ต่อสายคุย “แพทองธาร” ติดตามสถานการณ์ใต้

นายกฯ มาเลเซีย ต่อสายคุย “แพทองธาร” ติดตามสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนใต้ แสดงความพร้อมร่วมมือกับไทยเพื่อยุติความรุนแรง พร้อมใช้เวทีอาเซียนสนับสนุนความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างสมาชิกมากขึ้น