fbpx

แนะประชาชนพร้อมรับมือพายุ “ปาบึก”

กรุงเทพฯ 3 ม.ค. – ทุกภาคส่วนระดมสรรพกำลังเตรียมพร้อมรับมือกับความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากอิทธิพลพายุโซนร้อน “ปาบึก” ซึ่งในส่วนของประชาชน นอกจากการติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด ควรเตรียมตัวอะไรอีกบ้าง ผู้เชี่ยวชาญทางทะเลมีคำแนะนำในการปฏิบัติตัว ติดตามจากรายงาน



จากประสบการณ์ที่เคยสัมผัสมา ทั้งพายุเกย์พัดถล่มที่ชุมพร และมหาวาตภัยตะลุมพุก ที่นครศรีธรรมราช แม้พอจะคาดการณ์จากปัจจัยต่างๆ ว่า พายุโซนร้อน “ปาบึก” พายุลูกแรกรับศักราชใหม่ อาจไม่ร้ายแรงเท่า แต่ก็ไม่ได้รับประกันว่าจะไม่ทิ้งความเสียหายรุนแรงไว้ให้


ที่ผ่านมาไทยทิ้งห่างจากพายุลูกใหญ่พัดถล่มในอ่าวไทยนานหลายสิบปี หลายคนจึงอาจละเลยการเตรียมการป้องกัน ในฐานะผู้ที่คลุกคลีอยู่กับทะเลมาค่อนชีวิต แนะนำว่า ช่วงเวลาที่น่าห่วงที่สุดยามพายุพัดเข้าฝั่ง คือ ตอนเช้าที่น้ำขึ้นสูง จะทำให้คลื่นที่ซัดเข้าฝั่งจากที่คาดว่าจะสูง 2-3 เมตร เพิ่มได้มาก 4-5 เมตร แม้กรมอุตุฯ เตือนให้ภาคใต้เป็นพื้นที่สีแดงเฝ้าระวัง แต่ในมุมมองกลับห่วงคนที่อยู่ในที่ลุ่มต่ำ เป็นจุดที่ต้องเตือนให้ระวังที่สุด


หลังเห็นภาพพื้นที่เฝ้าระวัง สิ่งสำคัญหลังจากนี้ คือ การเตรียมตัวของพี่น้องในพื้นที่ ผู้ที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง คงรู้ตัวเองดีว่า เมื่อมีคำเตือนออกมา ต้องนำของมีค่าและย้ายตัวเองออกมาจากพื้นที่ เพื่อความปลอดภัย ไม่ดื้อยื้ออยู่ เพราะที่ได้อาจไม่คุ้มเสีย

นอกจากนี้ แบตเตอรี่โทรศัพท์ชาร์จให้เต็ม พร้อมเพาเวอร์แบงก์ แบตสำรอง รวมถึงวิทยุชนิดใส่ถ่าน กันไว้หากเครือข่ายโทรศัพท์ล่ม ยังมีช่องทางไว้ติดตามข่าวสาร ส่วนพี่น้องชาวเรือรีบหาที่เก็บอุปกรณ์เลี้ยงชีพให้ไกลคลื่น ที่สำคัญไม่ว่าจะอยู่ริมฝั่งน้ำ หรือในเมือง สถานการณ์เช่นนี้ตุนอาหารไว้อย่างน้อย 3-7 วัน

ท้ายที่สุดในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะดีหรือร้าย การเตรียมพร้อมรับมือเป็นสิ่งที่จำเป็น และที่เหนือกว่าอุปกรณ์ยังชีพ สิ่งจำเป็นในยามคับขัน สำคัญที่สุด คือ “สติ” ที่จะควบคุมไม่ให้จิตเตลิด เพื่อพาเราไปสู่ทางออกได้ในทุกสภาพปัญหา. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ขอบคุณทุกหน่วยงานระดมช่วยผู้ประสบภัย

“นายกฯ แพทองธาร” ขอบคุณทุกหน่วยงานระดมช่วยผู้ประสบอุทกภัย หวัง ศปช.รับมือ-ช่วยเหลือรวดเร็วทันท่วงที รวมถึงการเยียวยาหลังจากนี้

ฟื้นฟูชายแดนแม่สาย-เร่งกู้ตลาดสายลมจอย

เจ้าหน้าที่เร่งฟื้นฟูชุมชนชายแดนแม่สายที่ถูกน้ำท่วมและจมโคลนมานาน 10 วัน รวมทั้งเร่งกู้ตลาดสายลมจอยแหล่งจำหน่ายสินค้าชายแดนที่เสียหายอย่างหนัก

ฆ่ารัดคอขับโบลท์

รวบ “ไอ้แม็ก” ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ พบเคยถูกจับคดีโหด

จับแล้ว “ไอ้แม็ก” เดนคุก ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ ทิ้งร่างอำพราง ริมถนนห้วยพลู จ.นครปฐม ก่อนเอารถไปขาย สอบประวัติ พบเพิ่งพ้นโทษ คดีล่ามโซ่ล่วงละเมิดเด็กวัย 13 ปี นาน 1 สัปดาห์ เมื่อปี 2553