กรุงเทพฯ 6 ก.ย.- ผบ.ตร.ยันรู้ตัวกลุ่มวางระเบิดโรงเรียนใน อ.ตากใบแล้ว ย้ำมาตรการรักษาความปลอดภัยวันฮารีรายอ
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยหลังได้รับรายงานเหตุระเบิดคาร์บอมบ์ที่บริเวณด้านหน้าโรงเรียนบ้านตาบา อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บกว่า 10 ราย เมื่อช่วงเช้าวันนี้ เบื้องต้นพอคาดเดาได้ว่าเป็นฝีมือของกลุ่มใด แต่ต้องขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ทำงานสืบสวนสวนข้อเท็จจริงสักระยะ โดยยอมรับคดีที่เกิดขึ้นที่ภาคใต้จะต้องดูความเชื่อมโยงกัน ทั้งลักษณะการก่อเหตุ การประกอบระเบิด และองค์ประกอบอีกหลายอย่าง
ขณะที่เดือนตุลาคมนี้จะเป็นวันครบรอบวันสำคัญทางศาสนาอิสลาม พล.ต.อ.จักรทิพย์ ระบุว่า เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ได้มีการเน้นย้ำเรื่องมาตรการความปลอดภัยทุกช่วงวันสำคัญอยู่แล้ว
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติยังกล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ออกมาระบุถึงกลุ่มผู้ก่อเหตุใน 7 จังหวัดภาคใต้ตอนบน เป็นกลุ่มเดียวกันกับที่ก่อเหตุใน 3 จังหวัดภาคใต้นั้น ก็เป็นไปตามที่ พล.อ.ประวิตร กล่าว ส่วนผู้ก่อเหตุหวังผลทางการเมืองหรือไม่ ต้องรอผลการสอบสวน ตอนนี้ยังไม่ตัดประเด็นเรื่องความเชื่อมโยงกับกลุ่มการเมืองภาคใต้ และกลุ่มการเมืองที่มีเครือข่ายในต่างประเทศทิ้ง
สำหรับการประสานงานไปยังตำรวจมาเลเซีย เพื่อติดตามความคืบหน้าคดี ในกรณีที่คนร้ายหลบหนีไปประเทศมาเลเซีย ได้ประสานงานกันตั้งแต่แรกแล้ว ส่วนสถานที่จัดซื้อซิมโทรศัพท์มือถือ มีข้อมูลแต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงความคืบหน้าหลังนายธวัชชัย อนุกูล อายุ 66 ปี อดีตเจ้าหน้าที่กรมที่ดิน จ.พังงา ผู้ต้องหาคดีออกเอกสารสิทธิที่ดินโดยมิชอบหลายแปลงใน จ.ภูเก็ต และพังงา เสียชีวิตที่ห้องคุมขังกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจมีหน้าที่ดำเนินการตามกฎหมาย ส่วนการที่ญาติติดใจการเสียชีวิต ตำรวจมีขั้นตอนในการตรวจสอบ ซึ่งทางนิติเวชได้ผ่าพิสูจน์ศพไปเรียบร้อยแล้ว แต่ในเมื่อญาติผู้เสียชีวิตต้องการให้มีการผ่าพิสูจน์ศพซ้ำอีกครั้ง ตำรวจก็มีหน้าที่ทำให้กระจ่าง
ส่วนกรณีที่กระทรวงยุติธรรมตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ยังไม่ได้มีการประสานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการตรวจสอบ และไม่หนักใจว่าการสอบสวนเจ้าหน้าที่ DSI จะทำให้เกิดปัญหากัน ทุกอย่างเป็นไปตามพยานและหลักฐาน ตำรวจไม่มีส่วนได้เสียกับกรณีดังกล่าวอยู่แล้ว.-สำนักข่าวไทย