กรุงเทพฯ 20 ธ.ค. – กยท.ยืนยันนโยบายนำยางพาราในประเทศผลิตล้อยางตามโครงการช้อปช่วยชาติเป็นไปอย่างโปร่งใส ไม่ได้กีดกันบริษัทใดเข้าร่วมโครงการ ล่าสุดมีบริษัทแจ้งขอซื้อยางจากสถาบันเกษตรกร เพื่อเป็นวัตถุดิบทำล้อยางเพิ่มขึ้น
นายณกรณ์ ตรรกวิรพัท รองผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) กล่าวว่า ตามที่มีข่าวปรากฏว่า มาตรการขอความร่วมมือจากบริษัทล้อยางนำยางพาราในประเทศไปเป็นวัตถุดิบการผลิต แต่มีการกำหนดเงื่อนไขกีดกันบางบริษัท ทำให้ไม่สามารถเข้าร่วมโครงการได้นั้น กยท.ขอชี้แจงว่าได้ร่วมมือกับกระทรวงการคลังเชิญชวนให้ผู้ผลิตล้อยางที่มีฐานการผลิตในประเทศไทยทุกรายเข้าร่วมโครงการดังกล่าวระหว่าง16 ธันวาคม 2561 – 15 มกราคม 2562 โดยกำหนดเงื่อนไขให้บริษัทผู้ผลิตล้อยางเข้าร่วมโครงการแสดงหลักการซื้อยางพาราวัตถุดิบในการผลิตยางล้อจากสถาบันเกษตรกรหรือ กยท.โดยตรง จากนั้น กยท. จะออกหลักฐานเป็นคูปองให้บริษัทนั้น ๆ เพื่อใช้ในการร่วมโครงการช้อปช่วยชาติของกระทรวงการคลัง โดยประชาชนที่ซื้อล้อยางรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และรถจักรยานในช่วงเวลาดังกล่าว สามารถนำใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบ พร้อมกับคูปองซึ่งร้านค้าหรือตัวแทนจำหน่ายล้อยางจะออกให้มาหักลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 15,000 บาท
แต่มีบริษัทยางล้อบางบริษัทระบุว่าไม่สามารถทำตามเงื่อนไขของ กยท.ได้ เพราะเมื่อซื้อวัตถุดิบคือยางพาราแล้วต้องส่งตัวอย่างยางพาราดังกล่าวไปให้บริษัทแม่ที่อยู่ต่างประเทศตรวจสอบคุณภาพและรับรอง ซึ่งจะใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 3 เดือน เลยช่วงเวลาของโครงการช้อปช่วยชาติ ประกอบกับเกรงว่าสถาบันเกษตรกรหรือกยท.อาจจะส่งมอบวัตถุดิบไม่ตรงตามกำหนดเวลา บริษัทเหล่านั้นจึงยื่นเงื่อนไขใหม่ โดยขอซื้อยางพาราจากบริษัทเอกชนคู่ค้าประจำที่มีสัญญาซื้อขายกันอยู่แล้วและบริษัทคู่ค้าดังกล่าวได้รับการรับรองคุณภาพจากบริษัทแม่ในต่างประเทศแล้วด้วย
นายณกรณ์ กล่าวว่า ได้นำข้อเสนอของบริษัทเสนอต่อนายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งนายกฤษฎาให้ข้อคิดเห็นว่าหากอนุมัติให้บริษัทที่ไม่ได้ซื้อยางพาราโดยตรงจากสถาบันเกษตรกรหรือ กยท. อาจขัดกับมติ ครม.หรือนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการให้มีการซื้อยางพาราโดยตรงจากเกษตรกร ประกอบกับ หากบริษัทที่ขายยางพาราให้กับบริษัทผลิตยางล้อนั้น ไปเอายางพาราในโกดังของบริษัทที่ซื้อตุนเก็บไว้ก็จะไม่เป็นการดูดซับยางออกจากตลาด ทำให้ไม่มีผลต่อการรักษาเสถียรภาพราคายางตามนโยบายของรัฐบาล
“เงื่อนไขการกำหนดให้บริษัทที่เข้าร่วมโครงการช้อปล้อยางช่วยชาติไม่มีการล็อกสเปกหรือกีดกันบริษัทใดบริษัทหนึ่งในการเข้าร่วมโครงการช้อปช่วยชาติแต่อย่างใด ตรงกันข้ามเป็นเงื่อนไขที่กำหนดขึ้นตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรชางสวนยางพาราโดยตรงในการแก้ไขปัญหายางพาราตกต่ำอย่างยั่งยืน โดยไม่ต้องใช้งบประมาณจำนวนมากไปซื้อยางพาราในราคานำตลาดมาเก็บรักษาไว้ในให้สิ้นเปลืองงบประมาณในการเก็บรักษา” นายณกรณ์ กล่าว
ล่าสุดมีบริษัทที่เข้าร่วม 7 บริษัท ได้แก่ บริษัท IRC จำกัด บริษัท Maxxis จำกัด บริษัท N.D Rubber จำกัด กลุ่มบริษัท ดีสโตน จำกัด กลุ่มบริษัท โอตานิ จำกัด บริษัท จงเช่อ รับเบอร์ จำกัด กลุ่มบริษัท V-Rubber จำกัด ยอดสั่งซื้อยางรวมทั้งสิ้น 2,642,110 กิโลกรัม ทั้งนี้ บริษัทดังกล่าวรับซื้อยางพาราจากสหกรณ์ที่ กยท. รับรอง 5 สหกรณ์ ได้แก่ สหกรณ์กองทุนสวนยาง คลองปาง จำกัด สหกรณ์กองทุนสวนยาง หนองบัว จำกัด จังหวัดตรัง สหกรณ์กองทุนสวนยาง ปฏิรูปที่ดินท่าแซะ จำกัด จังหวัดชุมพร สหกรณ์กองทุนสวนยาง เขาซก จำกัด และสหกรณ์กองทุนสวนยาง บ่อทอง จำกัด จังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นสหกรณ์ที่มีศักยภาพในการรวบรวมยาง แปรรูปน้ำยางเป็นยางแผ่นดิบและยางแท่งที่ได้คุณภาพตามที่บริษัทล้อยางกำหนดมาตรฐานไว้.-สำนักข่าวไทย