ลาวคาดหวังไทยซื้อไฟฟ้าครบ 9,000 MW ใน 5 ปี

หนองคาย 13 ธ.ค. – ไทย – สปป.ลาว ร่วมจัดงาน “50 ปี สายส่งสานสัมพันธ์พลังงานลาว – ไทย มั่นยืน” ทั้ง 2 ประเทศ รำลึกเหตุการณ์สำคัญในอดีต จุดเริ่มต้นสัมพันธภาพพลังงานไฟฟ้า 2 ประเทศนับจากวันที่ 16 ธันวาคม 2511 ซึ่งถือเป็นวันสำคัญทางประวัติศาสตร์ ด้วยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเป็นประธานในพิธีเปิดสายส่งไฟฟ้าแรงสูงจากฝั่งไทย (จ.หนองคาย) ข้ามไปยังฝั่งลาว (นครหลวงเวียงจันทน์) ร่วมกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าชีวิตศรีสว่างวัฒนาแห่งราชอาณาจักรลาว ณ แพปะรำพิธีกลางแม่น้ำโขง จ.หนองคาย และปัจจุบันนี้ไทยมีข้อตกลงเบื้องต้น (เอ็มโอยู) รับซื้อจากลาว 9,000 MW โดยมีข้อตกลงรับซื้อแล้ว 7,000 MW 


นายคำมะนี อินทิลาด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานและบ่อแร่ สปป.ลาว กล่าววา ขณะนี้ลาวรอแผนพีดีพีหรือแผนพัฒนาไฟฟ้าระยะยาวของไทยจะเสร็จเมื่อใด โดยแม้ว่าความต้องการใช้ไฟฟ้าไทยจะชะลอตัว แต่ก็คาดหวังจะรับซื้อให้ครบ 9,000 เมกะวัตต์ใน 4-5 ปีข้างหน้า โดยโครงการที่กำลังเจรจา ได้แก่ น้ำงึม 3 ( ก่อสร้างเสร็จร้อยละ 60) โครงการดอนสะโฮง (ก่อสร้างเสร็จปี 2562) ซึ่งน้ำงึม 3 ตกลงราคาได้แล้วในราคาเดียวกับน้ำเทิน 1 ส่วนอีก 3 โครงการ ได้แก่ ปากแบง, เซนาคาม, ปากลาย 


ส่วนโครงการเซเปียนเซน้ำน้อยที่เกิดปัญหาเขื่อนแตก คงจะส่งไฟฟ้าช้าลงจากเดิมเดือนกุมภาพันธ์  2562 เป็นเดือนธันวาคม 2562 ซึ่งขณะนี้กำลังสอบสวนสาเหตุของปัญหาและผู้รับเหมาและผู้ลงทุนจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้น ส่วนโครงการอื่น ๆ ยังเข้าระบบตามสัญญา ซึ่งเข้าปี 2562 ได้แก่ เขื่อนไซยะบุรี เขื่อนน้ำงึม 1 และน้ำเงี๊ยบ 1 

“สปป.ลาวจะมีกำลังผลิตไฟฟ้าในอนาคตรวม 30,000  MW และพร้อมส่งขายในอาเซียนโดยเฉพาะไทย แต่ต้องรอแผนพีดีพีของไทยก่อน” นายคำมะนี กล่าว

นายวิบูลย์ ฤกษ์ศิระทัย ผู้ว่าการ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวว่า กฟผ.รอแผนพีดีพีเช่นกันหากได้รับอนุมัติสร้างโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติสุราษฎร์ธานีทดแทนโรงไฟฟ้าถ่านหินในภาคใต้ ก็จะเร่งประมูลเพื่อก่อสร้างทันที และพร้อมปรับตัวเพื่อแข่งขันกับเอกชนในการประมูลโรงไฟฟ้าไอพีพีในอนาคต


ทั้งนี้ 2 ประเทศได้ร่วมมือเชื่อมระบบไฟฟ้าระหว่างกันอย่างต่อเนื่อง ทั้งการพัฒนาระบบส่งไฟฟ้า การพัฒนาโครงการผลิตไฟฟ้า การซื้อขายไฟฟ้า การแลกเปลี่ยนความร่วมมือด้านเทคนิควิชาการ การพัฒนาบุคลากรระหว่างการไฟฟ้าของทั้ง 2 ประเทศ ปัจจุบันขยายการรับซื้อไฟฟ้าจาก 1,500 MW เมื่อปี 2536 เป็น 9,000 MW รวมทั้งมีการพัฒนาการเชื่อมโยงโครงข่ายระบบไฟฟ้าของทั้ง 2 ประเทศเข้าด้วยกัน โดยเชื่อมโยงสายส่งระหว่าง กฟผ. – รัฐวิสาหกิจไฟฟ้าลาว (ฟฟล.) ทั้งหมด 6 จุด ได้แก่ ท่าแขก-นครพนม 22 kV., สะหวันนะเขด-มุกดาหาร 22 kV., โพนต้อง-หนองคาย 115 kV., บังเยาะ-สิรินธร 115 kV., ปากบ่อ-มุกดาหาร 115 kV. และท่าแขก-นครพนม 115 kV. และมีการเชื่อมโยงสายส่งไทย – สปป.ลาว เพื่อรับซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตไฟฟ้าอิสระ (IPP) ใน สปป.ลาว เช่น โรงไฟฟ้าเทิน-หินบุน, โรงไฟฟ้าห้วยเฮาะ, โรงไฟฟ้าน้ำเทิน 2,โรงไฟฟ้าน้ำงึม 2, โรงไฟฟ้าหงสา เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาให้เกิดการเชื่อมโยงเครือข่ายระบบไฟฟ้าทั่วทั้งอาเซียน (ASEAN Power Grid) โดยมีโครงการซื้อขายไฟฟ้า สปป.ลาว – ไทย – มาเลเซีย โดย สปป.ลาว ขายไฟฟ้าให้มาเลเซียผ่านระบบส่งไฟฟ้าของไทยไม่เกิน 100 MW เริ่มนำร่องตั้งแต่เดือนมกราคม 2561 และภายหลังจากการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านพลังงาน ครั้งที่ 36 (AMEM) เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา สปป.ลาว – ไทย – มาเลเซีย ได้ตกลงขยายกรอบความร่วมมือพหุภาคีโครงการซื้อขายไฟฟ้า โดยจะเพิ่มปริมาณการรับซื้อไฟฟ้าจาก 100 MW เป็น 300 MW ซึ่งจะเป็นการเชื่อมโยงระบบไฟฟ้า 4 ประเทศ จาก สปป.ลาวไปสิงคโปร์ โดยผ่านระบบสายส่งของไทยและมาเลเซีย นับเป็นก้าวสำคัญของการซื้อขายไฟฟ้าระหว่างอาเซียนอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อความมั่นคงด้านพลังงานและการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ทำให้ประเทศต่าง ๆ ทั่วภูมิภาคนี้สามารถพึ่งพากันด้านพลังงาน และผลักดันเศรษฐกิจในภูมิภาคให้เจริญก้าวหน้าอย่างยั่งยืน

ผู้ว่าการ กฟผ. กล่าวต่อว่า ปีนี้นับเป็นโอกาสพิเศษที่ครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์ด้านพลังงานไทย – ลาว กระทรวงพลังงานของไทย และกระทรวงพลังงานและบ่อแร่ของ สปป.ลาว พร้อมทั้ง กฟผ. ฟฟล. และ จ.หนองคายได้ร่วมกันจัดกิจกรรมรำลึกถึงรัฐพิธีเปิดสายส่งไฟฟ้าแรงสูงต้นแรก โดยจัดงานขึ้นทั้งในฝั่งไทยและฝั่งลาว ระหว่างวันที่ 13 – 14 ธันวาคม 2561 ภายใต้ชื่องาน “50 ปี สายส่ง สานสัมพันธ์ พลังงาน ลาว – ไทย มั่นยืน” โดยวันที่ 13 ธันวาคม 2561 กิจกรรมช่วงเช้าในฝั่งไทย ได้แก่ กิจกรรมนุ่งไทยใส่บาตรริมแม่น้ำโขง ที่ชุมชนตลาดท่าเสด็จ จ.หนองคาย เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลฯ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และพิธีเปิดนิทรรศการ “50 ปี ท่าเสด็จรำลึก ดุจแสงทองสาดส่องสองฝั่งโขงมหานที” ณ ชุมชนตลาดท่าเสด็จ อ.เมือง จ.หนองคาย เพื่อรำลึกถึงรัฐพิธีเปิดสายส่งไฟฟ้าแรงสูง และพระราชกรณียกิจเกี่ยวกับกิจการด้านพลังงาน รวมถึงวิถีชีวิตของประชาชนริมฝั่งแม่น้ำโขงตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้ ยังมีพิธีรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณในหลวง ร.9 โดยได้รับเกียรติจาก อ.เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ และ อ.ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี ศิลปินแห่งชาติ ร่วมกันขับลำนำบทสดุดีกวีรำลึก และมีกิจกรรมจากชุมชนตลาดท่าเสด็จอีกมากมาย โดยนิทรรศการดังกล่าวจะเปิดให้ประชาชนเข้าชมระหว่างวันที่ 13 – 16 ธันวาคม 2561.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

“ทนายสายหยุด” จ่อถอนตัวคดีตั้ม หวั่นติดร่างแห

“ทนายสายหยุด” เตรียมถอนตัวเป็นทนายให้ “ตั้ม” เผยในมือมีแต่พยานเท็จ ปิดบังข้อเท็จจริง เสี่ยงเป็นผู้ร่วมกระทำผิด

ข่าวแนะนำ

DSI ฝากขัง “สามารถ-แม่” พร้อมคัดค้านประกันตัว

DSI ฝากขัง “สามารถ-แม่” พร้อมคัดค้านประกันตัว ด้านแม่ตะโกนร้องขอความเป็นธรรม ถูกกลั่นแกล้ง แจงเป็นเงินบุญ ปี 64 ขณะที่ “สามารถ” เผย “อยากพูด แต่พูดไม่ได้“

งด ครม.

งด ครม. ทำเนียบวันนี้ เตรียมสัญจรครั้งแรก “เชียงใหม่-เชียงราย” วันศุกร์

งด ครม. ทำเนียบวันนี้ เตรียมสัญจรครั้งแรก “เชียงใหม่-เชียงราย” ศุกร์นี้ นายกฯ ตั้งเป้าปีหน้าน้ำท่วมภาคเหนือต้องไม่เกิดอีก ด้าน ศปช. เตรียมเสนอแผนแก้อย่างเป็นระบบใน ครม.สัญจร ศุกร์นี้