จันทบุรี 21 พ.ย.-จุดจบสายเปย์ หนุ่มว่าที่เจ้าของธุรกิจส่งออกทุเรียน จีบสาวผ่านแอปพลิเคชันหาคู่ เจอโปรไฟล์หรูลงรูปลวงเป็นเน็ตไอดอล สุดท้ายถูกหลอกโอนเงินสูญเกือบแสนบาท โร่แจ้งความตำรวจ
วันนี้ เวลา 11.00 น. ที่สถานีตำรวจภูธรเมือง จันทบุรี นายสรฉัตร ผลวัฒนา อายุ 31 ปี ซึ่งปัจจุบันกำลังศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการทำธุรกิจทุเรียนส่งออก ได้นำหลักฐาน ซึ่งเป็นสำเนาเอกสารการพูดคุยกับหญิงสาวรายหนึ่งผ่านแอปพลิเคชันไลน์ ในเรื่องต่างๆ รวมไปถึงการขอยืมเงิน, สลิปการโอนเงินบัญชีธนาคาร มาแสดงพร้อมแจ้งความร้องทุกข์ต่อทาง ร.ต.อ.อภิชาติ โกเนตร์สุวรรณ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองจันทบุรี ว่าถูกสาวในแชทไลน์หลอกยืมเงิน โอนผ่านพร้อมเพย์ธนาคาร 2 แห่ง สูญเงินกว่า 98,000 บาท
จากการสอบถาม นายสรฉัตร ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 5 พ.ย. 61 ที่ผ่านมา ได้เล่นแอปพลิเคชันหาคู่ จนกระทั่ง ได้พบหญิงสาวหน้าตาดีรายหนึ่ง ซึ่งมีการลงรูปเป็นเน็ตไอดอลสาวน่ารัก พร้อมตั้งโปรไฟล์ไว้สวยหรูสวย จึงได้มีการติดต่อขอแลกไอดีไลน์กัน โดยสาวคนดังกล่าวใช้ชื่อไลน์ว่า “ของขวัญ 165” และอ้างว่าตนเอง ชื่อเล่นว่า “ขวัญ”
หลังจากนั้นวันที่ 7 พ.ย. 61 ที่ผ่านมา ได้มีการพูดคุยกัน โดยฝ่ายหญิงสาว อ้างว่า กำลังขับรถเดินทางไปทำธุระที่ต่างจังหวัด แต่หยิบบัตร ATM มาผิดใบ และไม่มีเงินจ่ายค่าน้ำมัน จึงขอยืมเงินกับตนเอง เพราะเชื่อใจด้วยความหวังดี อยากช่วยเหลือจึงโอนเงินให้ครั้งแรก จำนวน 1,500 บาท ผ่านบัญชีธนาคารทหารไทย
และหลังจากการพูดคุย จึงทราบว่าฝ่ายหญิงทำธุรกิจขายครีมเครื่องสำอางค์ พร้อมกับขอยืมเงินเพื่อซื้อของลงทุนในการทำครีม ด้วยการที่หญิงสาวพูดจาเก่ง รูปโปรไฟล์สวยหรู จึงทำให้หลงเชื่อโอนเงินไปหลายรอบ มากที่สุดโอนให้จำนวน 19,000 บาท อีก12 ครั้งต่อมา ได้โอนเข้าบัญชีธนาคารกสิกรไทย ซึ่งทยอยโอนเป็นเงินครั้งละหลักพัน จนถึงหลักหมื่น แล้วแต่ฝ่ายหญิงจะขอยืม ซึ่งในช่วงระหว่างวันที่ 7-9 พ.ย. 61 ที่ตนเองพูดคุยกันผ่านไลน์ ได้โอนเงินไปให้ 13 ครั้ง รวมเป็นเงิน 89,330 บาท หลังจากนั้น ตนเองได้พยายามพูดคุยเพื่อทวงถามเรื่องเงิน จนกระทั่งวันที่ 11 พ.ย.61ได้พยายามติดต่อพูดคุยกับสาวในแช็ต แต่กลับพบว่ามีการเปลี่ยนโปรไฟล์และบล็อกการติดต่อทั้งหมด ทำให้รู้ตัวว่าถูกหลอก จึงได้นำหลักฐานต่างๆ เข้าแจ้งความร้องทุกข์ กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองจันทบุรี เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ติดตามตัวหญิงสาวรายนี้ มาเนินคดี และนำเงินกลับคืนและอยากให้เรื่องนี้ เป็นอุทาหรณ์ให้กับคนอื่น อย่าหลงเชื่อใจใครง่ายๆ ควรศึกษาให้รอบครอบ และไม่อยากให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นกับใครอีก
ส่วนเรื่องของการดำเนินคดี นายสรฉัตร กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ ได้ขอคำปรึกษาไปยังหลายที่ รวมไปถึงกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิด เกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ (ปอท.) ก่อนตัดสินใจเข้าแจ้งความที่ สถานีตำรวจภูธรเมืองจันทบุรี ซึ่งตำรวจแนะนำให้หาทนายความ เพื่อติดตามเรื่องคดี เนื่องจากเป็นคดีแพ่ง การสอบสวนของเจ้าหน้าที่อาจไม่ครอบคลุมเช่นคดีอาญา โดยเฉพาะการตรวจสอบบัญชีธนาคารที่ได้ทำการโอนเงินไป ซึ่งต้องให้ทนายความทำเรื่องร้องขอมา ทางตำรวจจึงจะออกเอกสารให้เข้าตรวจสอบกับทางธนาคารได้ ซึ่งคดีลักษณะนี้ คล้ายกับการยืมเงินระหว่างบุคคล เนื่องจากทั้งสองฝ่าย มีการตกลงโอนและรับปากเรื่องการคืนเงิน จึงจำเป็นต้องให้ทนายความเข้าช่วยเรื่องคดี แต่สุดท้ายแล้ว ตนเองอยากได้เพียงเงินคืน เท่านั้น และไม่อยากเห็นหน้าหญิงสาวมหาภัยรายนี้ ซึ่งหลังเกิดเหตุตนเองได้เขียนข้อความด้วยลายมือใส่กระดาษ A4 ติดไว้ข้างที่นอนว่า “อย่าให้ทุกคนยืมเงิน” เพื่อเป็นอุทาหรณ์ ไว้เตือนตัวเองต่อจากนี้.-สำนักข่าวไทย