สนามบินภูเก็ตเสริมประสิทธิภาพกู้ภัยทางน้ำ-ยกเคสศึกษาเรือฟีนิกซ์

ภูเก็ต 21 พ.ย.- ท่าอากาศยานภูเก็ตเป็นเจ้าภาพจัดประชุมกู้ภัยทางน้ำครั้งที่ 4  ร่วมแลกเปลี่ยนความรู้ประสบการณ์ด้านกู้ภัยในทะเลกับท่าอากาศยานประเทศสมาชิกอีก 8 แห่ง พร้อมยกเคสเรือฟีนิกซ์ล่มเป็นกรณีศึกษา

วันนี้ (21 พ.ย.) ที่โรงแรมเรเนซองส์ ภูเก็ต รีสอร์ตแอนด์สปา ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต  นายวิจิตต์ แก้วไทรเทียม รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต (สายปฏิบัติและบำรุงรักษา) ท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมท่าอากาศยานนานาชาติเกี่ยวกับการกู้ภัยทางน้ำ ครั้งที่ 4 (International Airport Water Rescue Working Group : IAWRG) ระหว่างวันที่ 21-23 พ.ย.นี้ โดยมีสมาชิกที่มีท่าอากาศยานติดทะเลและผู้ที่เกี่ยวข้องร่วมแลกเปลี่ยนข้อมูล 9 แห่ง ได้แก่ ไทย จีน สหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย ฝรั่งเศส และท่าอากาศยานดีเซลดอร์ฟ  

นายวิจิตต์ กล่าวว่า ปัจจุบันท่าอากาศยานให้ความสำคัญกับการกู้ภัยและดับเพลิงเพื่อลดการสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินให้ได้มากที่สุดกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ โดยเฉพาะการกู้ภัยทางน้ำที่มีความยุ่งยากมากกว่าการกู้ภัยทางบก ดังนั้น ท่าอากาศยานที่ตั้งอยู่ใกล้ทะเลหรือแหล่งน้ำขนาดใหญ่ จึงรวมตัวก่อตั้งกลุ่มสมาชิกขึ้นมาตั้งแต่ปี 2557 เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลความรู้และประสบการณ์ทางด้านการกู้ภัยอากาศยานและการดับเพลิง รวมทั้งช่วยกันเสนอแนะแนวทางข้อกำหนดเกี่ยวกับมาตรฐานในการปฏิบัติงานด้านการกู้ภัยกรณีเกิดอุบัติเหตุในทะเลหรือบึงขนาดใหญ่ให้มีประสิทธิภาพ และนำผลสรุปเสนอองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ เพื่อพิจารณาปรับปรุงข้อกำหนดให้มีประสิทธิภาพสอดคล้องกับภาวะปัจจุบัน โดยจะมีการจัดประชุมทุก 18 เดือน และให้สมาชิกหมุนเวียนกันเป็นเจ้าภาพ

นายวิจิตร กล่าวว่า ครั้งนี้เป็นการประชุมครั้งที่ 4 ท่าอากาศยานภูเก็ตได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพโดยมีผู้แทนท่าอากาศยานที่เป็นสมาชิกเข้าร่วม 9 แห่ง  นอกจากการแลกเปลี่ยนข้อมูลและประสบการณ์ในเรื่องการกู้ภัยและดับเพลิงแล้ว ยังมีการแนะนำนวัตกรรมและอุปกรณ์ รวมทั้งการพิจารณาแนวทางข้อจำกัดทางด้านกายภาพและการจัดสรรทรัพยากร  และศึกษากรณีเรือฟีนิกซ์อับปางที่ภูเก็ตด้วยว่าจะมีวิธีการอย่างไรเมื่อมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น เพื่อให้การกู้ภัยเป็นมาตรฐานสากลทั่วโลกยอมรับ

นายวิจิตร กล่าวด้วยว่า ท่าอากาศยานภูเก็ตเป็นท่าอากาศยานที่มีกายภาพติดกับทะเลอันดามันและเป็นท่าอากาศยานที่มีความคับคั่งของการจราจรทางอากาศสูงเป็นอันดับ 3 ของประเทศ ดังนั้น การจัดประชุม IAWRG  เป็นโอกาสแลกเปลี่ยนความรู้และวิธีปฏิบัติที่ดีที่สุด เพื่อยกระดับมาตรฐาน การให้บริการมีความพร้อมรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉิน รวมทั้งสร้างความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับท่าอากาศยานประเทศต่าง ๆ ซึ่งสามารถต่อยอดทางธุรกิจของ ทอท. ในอนาคตตามแผนแม่บทระหว่างประเทศของ ทอท. เป็นการสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้โดยสารและสายการบิน.-สำนักข่าวไทย