กรุงเทพฯ 9 พ.ย.- รมว.ต่างประเทศ ปัดตั้งแง่ต่อองค์กรต่างประเทศเข้าสังเกตการณ์การเลือกตั้งในไทย แต่ไม่มีความจำเป็น และหากมามากถึง 200 เป็นเรื่องที่ไม่ปกติ ย้ำคนไทยจัดการเองได้ ส่วนสถานทูตประเทศต่าง ๆ ในไทย สามารถส่งผู้แทนเข้าร่วมสังเกตการณ์การเลือกตั้งได้ไม่มีข้อห้าม
นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์กรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ระบุสหภาพยุโรป (อียู) ต้องการจะส่งผู้สังเกตการณ์การเลือกตั้งเข้ามาในไทย 200 คนว่า ทราบว่าทางอียูได้แจ้งเรื่องดังกล่าวมายังกระทรวงการต่างประเทศเช่นกัน ซึ่งประเด็นดังกล่าวเป็นเรื่องที่กกต.จะพิจารณา แต่ในฐานะที่เคยมีประสบการณ์ในการดูการเลือกตั้งในต่างประเทศเห็นว่าบ้านเมืองที่มีการเลือกตั้งและไม่มีใครมาขอสังเกตการณ์เป็นบ้านเมืองที่ไม่มีปัญหา มีความสงบเรียบร้อย สามารถดำเนินกิจการของตนเองได้ โดยปราศจากการแทรกแซงจากภายนอก ซึ่งน่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับประเทศไทย
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า และยังจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีว่าเราสามารถพึ่งพาตัวเองได้ เพราะไทยเป็นประเทศที่มีทุนเดิมที่ดีในแง่การจัดการเลือกตั้ง ซึ่งในการจัดการลงประชามติรับรองร่างรัฐธรรมนูญเมื่อปี 2558 ก็เหมือน กับการเลือกตั้งลักษณะหนึ่ง ก็ประสบผลสำเร็จด้วยดี และได้รับเสียงชื่นชมจากหลายประเทศที่มาดูเสียด้วยซ้ำ ตนจึงมั่นใจในความสามารถของไทยในการจัดการเลือกตั้งว่าไม่ได้มีประเด็นปัญหาอะไร
นายดอน กล่าวว่า ในส่วนของต่างประเทศ ไม่ได้ตั้งแง่ต่อต้านหรือปฏิเสธอย่างสิ้นเชิง เพราะสถานทูตของประเทศต่าง ๆ ในประเทศไทยที่สนใจสามารถส่งผู้แทนเข้าร่วมสังเกตการณ์การเลือกตั้งได้อยู่แล้ว ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลก เป็นการดำเนินการที่ทำได้ตามกฏหมาย และไม่มีข้อห้าม ถือเป็นภารกิจอีกประการหนึ่งของเจ้าหน้าที่ในสถานทูตเสียด้วยซ้ำ แต่การส่งคณะเข้ามาสังเกตการณ์เป็นเรื่องที่ไม่มีความจำเป็น ยิ่งตัวเลขมากถึงหลัก 200 ยิ่งเป็นเรื่องที่ไม่ปกตินัก
นายดอน กล่าวว่า ส่วนตัวเห็นว่าผู้ตรวจสอบที่มีคุณค่าและเป็นประโยชน์ที่สุดคือคนไทยด้วยกันเอง เพราะจะเข้าใจกระบวนการทั้งหมดที่กำลังเกิดขึ้น ขณะเดียวกันรัฐธรรมนูญปี 2560 มีบทบัญญัติในเรื่องการมีส่วนร่วมของประชาชนในกระบวน การเลือกตั้ง ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งก่อนหน้า ระหว่าง และหลังการเลือกตั้ง ดังนั้นคนไทยสามารถแสดงเจตจำนงที่จะเข้ามาช่วยกกต.ในการตรวจสอบการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้น รวมถึงภาคประชาสังคมและองค์กรอิสระของไทยก็น่าจะพิจารณาเข้ามามีส่วนร่วม ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการพัฒนาการเมืองไทย และอาจจะขยายผลโดยการเชิญผู้แทนสถานทูตแต่ละแห่งในไทยเข้ามาอยู่ในกระบวนการเดียวกันด้วย
“สิ่งที่พูดมาจากมุมมองว่าการดำเนินการเช่นไรที่จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติมากที่สุด โดยที่ไม่มีผลข้างเคียงว่าเราเป็นประเทศที่มีปัญหาจึงต้องส่งคนเป็นร้อยเข้ามาดูการเลือกตั้งของไทยซึ่งเป็นเรื่องภายในประเทศไทย” นายดอน กล่าว
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า เท่าที่ทราบขณะนี้นอกจากอียูแล้วยังไม่ได้รับรายงานว่ามีประเทศหรือองค์กรระหว่างประเทศใดแสดงความจำนงค์ที่จะเข้ามาสังเกตการณ์การเลือกตั้งในประเทศไทยเพิ่มเติม ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่าจะมีการประสานโดยตรงไปยัง กกต. โดยพื้นฐานเป็นเอกสิทธิที่กกต.จะปรึกษากับหน่วยงานใด แต่เชื่อว่าคงจะมีการหารือกับหลายฝ่าย เพราะสิ่งที่เรากำลังพูดถึงคืออนาคตของประเทศไทยหลังจากนี้ เพื่อให้ไทยเดินหน้าต่อไปได้อย่างสง่าผ่าเผย หากเราดูแลการเลือกตั้งกันได้เองก็จะทำให้เกิดความชื่นชมศรัทธาต่อประเทศไทยและคนไทยด้วย.-สำนักข่าวไทย