รมว.สธ.สั่งเร่งแก้ปัญหาภาระงานแพทย์-พยาบาล

สปสช. 5 พ.ย.- รมว.สธ.สั่งการปลัดสธ.เร่งหารือ แก้ไขภาระงาน เกินความเหมาะสม ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตแพทย์พยาบาล ขณะที่สภาการพยาบาล เสนอแก้อัตรากำลังพยาบาลให้เหมาะสม และลดงานไม่จำเป็นไม่ควรให้ทำ ทั้งเช็ดตัว ปูเตียง งานเอกสาร ให้ผู้ช่วยพยาบาล และธุรการทำแทน 


นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึง กรณีการแก้ไขปัญหาการทำงานของแพทย์ พยาบาลที่เกินความเหมาะสม ว่า เรื่องนี้เป็นปัญหาเรื่องรังมานาน ซึ่งได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งแพทย์ พยาบาล เข้ามา ร่วมกันแก้ไขการทำงานของแพทย์ พยาบาล เกี่ยวกับชีวิตคน เป็นเรื่องที่มีความยืดหยุ่น ไม่สามารถบอกว่าได้ ครบเวลางาน 8 ชั่วโมงต้องเลิกแล้ว ก็ไม่สามารถทำได้ ในแพทย์พยาบาลที่ทำงานผ่าตัด เพราะเป็นเรื่องของชีวิต  เชื่อว่าผู้ที่สมัครใจมาทำงานด้านนี้ มีความเข้าใจดี 


นพ.ปิยะสกล กล่าวต่อไปว่า การเกิดอุบัติเหตุจากการทำงาน ตรงนี้ทางกระทรวงสาธารณสุขมีความห่วงใยและรับจะนำมาดูแลและให้การช่วยเหลือ ไม่ใช่รอแค่ มาตรา 41 ของ พ.ร.บ. หลักประกันสุขภาพแห่งชาติเพียงอย่างเดียว 


ด้านน.ส.กฤษดา แสวงดี ผู้แทนนายกสภาการพยาบาล กล่าวว่า การทำงานของพยาบาลทุกวันนี้พบเกิน 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์มาตลอด มีทั้งแบบสมัครใจและบังคับสมัครใจ แบบให้โอที แต่ส่วนใหญ่เป็นแบบบังคับสมัครใจ เนื่องจากปริมาณคนไข้จำนวนมาก และอัตรากำลังของพยาบาลสัดส่วนไม่เพียงพอเพราะปัจจุบันมีอัตรากำลังในส่วนของกระทรวงสาธารณสุขร้อยละ 60 ซึ่งจริงๆการทำงานที่เหมาะสมของพยาบาล ต้องเป็นเช้า 8 ชั่วโมงและบ่าย 8 ชั่วโมง โดยมี 1 ชั่วโมงพัก แต่ความเป็นจริงบางคนควงกะเช้าบ่ายมากถึง 16 ชั่วโมง ซึ่งงานวิจัยพบว่าต้องทำงานต่อ เนื่องไม่ควรเกิน 12 ชั่วโมง เพราะจะส่งผลต่อการปฏิบัติงานและจะส่งผลต่อการให้บริการคนไข้ เหมือนกรณีที่เกิดอุบัติเหตุรถพยาบาล ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่ก็เกิดขึ้น

น.ส.กฤษดา กล่าวอีกว่า ขณะนี้ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เรียกเข้าหารือเรื่องนี้ โดยสภาการพยาบาล เตรียมข้อเสนอในการแก้ไข 1.ควรมีการกระจายอัตรากำลังในสัดส่วนที่เหมาะสม ไม่กระจุกตัวเหมือนปัจจุบัน ที่แออัดในตัวเมือง อย่างกรุงเทพฯ และ 2.ภาระงานบางอย่างไม่จำเป็น ไม่ควรให้ทำ เช่น การปูเตียง เช็ดตัว สามารถให้ผู้ช่วยพยาบาลทำได้ และงานเอกสารก็ควรให้ธุรการทำ เพื่อให้การทำงานไม่เป็นภาระงานจนเกินไป  

อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญ พยาบาลไม่ควรทำงานแบบควงเวรติดต่อกันเกิน 3 วันต่อสัปดาห์ เพราะจะส่งผลต่อการบริการได้  .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Joe Biden and Kamala Harris on stage

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่ “แฮร์ริส” พ่ายแพ้

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ให้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน

“ทรัมป์” คว้าชัยเด็ดขาด ครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐอีกครั้ง หลังต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน

พบศพไวยาวัจกรวัดดังระยองถูกยิงดับพร้อมหญิงสาวในบ้านพัก

พบศพไวยาวัจกรวัดดัง จ.ระยอง ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพัก พร้อมหญิงสาวหน้าตาดี คาดเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน ตำรวจเร่งหาสาเหตุ

พบเด็กหญิงฝาแฝดวัย 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า

พบเด็กหญิงฝาแฝดชาวนครพนม วัย 9 ขวบ มีดวงตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เผยลูกมีปัญหาทางการได้ยิน ใช้ชีวิตลำบาก ถูกบลูลี่ แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค เพราะเคยถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง

ข่าวแนะนำ

นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขัง เจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

กองปราบฯ นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขังศาลอาญารัชดา เบื้องต้นท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว ด้านเจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

ครูปรีชาทนายตั้ม

“ครูปรีชา” หิ้วกาแฟ-ข้าวผัด เยี่ยม “ทนายตั้ม”

เกือบ 24 ชั่วโมง ที่ตำรวจกองปราบฯ คุมตัว “ทนายตั้ม-ภรรยา” มาสอบปากคำ เบื้องต้นทั้งคู่ยังให้การปฏิเสธ เตรียมส่งตัวฝากขังบ่ายนี้ ส่วนคู่กรณีหวย 30 ล้าน “ครูปรีชา” นำข้าวผัดและกาแฟ เข้าเยี่ยม “ทนายตั้ม” พร้อมยืนยันคำเดิม “ความจริงก็คือความจริง”

นายกฯ เร่งตั้งทีม JTC เจรจา MOU44 คาดชัด 18 พ.ย.นี้

นายกฯ ยันรัฐบาลเร่งตั้งคณะกรรมการ JTC หารือเส้นเขตแดน MOU 44 และพลังงานใต้ทะเล คาด 18 พ.ย.นี้ ชัดเจน “ภูมิธรรม” มั่นใจกัมพูชายึดตามสนธิสัญญาเจนีวา แม้ไม่เข้าร่วม ย้ำมีผลผูกพันทุกประเทศทั่วโลก