กรมสรรพากร 12 ก.ย. – นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า กรณีการตรวจสอบผู้มีรายได้น้อยลงทะเบียนรับสวัสดิการภาครัฐในช่วงที่ผ่านมา 8 ล้านราย เพื่อต้องการตรวจสอบคุณสมบัติผู้ลงทะเบียน มีรายได้ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปีหรือไม่ เพื่อประเมินจากบัญชีเงินฝาก การลงทุน เงินปันผล การหักภาษี ณ ที่จ่าย เพราะต้องการนำมาประเมินการจัดเตรียมให้สวัสดิการกับผู้มีรายได้น้อย เพราะหากมีรายได้เกิน 100,000 บาทต่อรายจะไม่เข้าข่ายการรับสวัสดิการด้านต่าง ๆ จากรัฐ เช่น รับเงินสวัสดิการจากรัฐบาลนำส่งเงินเข้าบัตร เพื่อนำไปจ่ายค่าโดยสาร เบี้ยยังชีพคนชรา การเก็บค่าน้ำประปา ไฟฟ้า ในอัตราต่ำกว่าบุคคลทั่วไป
ส่วนรายได้ภาษีสรรพากรในงบประมาณปี 2559 คาดว่าจัดเก็บต่ำกว่าเป้าหมาย 140,000 ล้านบาท จากเป้าหมาย 1.75 ล้านล้านบาท เนื่องจากรายได้ภาษีน้ำมันและปิโตรเลียมลดลงนับแสนล้านบาท รวมถึงการส่งออกชะลอตัว อย่างไรก็ตาม เป้าหมายจัดเก็บภาษีปี 2560 คาดว่ามีรายได้ 1.82 ล้านล้านบาท ยังมั่นใจทำรายได้ตามเป้าหมาย เนื่องจากการขยายฐานภาษีผ่านมาตรการต่าง ๆ ทั้งการส่งเสริมจดทะเบียนนิติบุคคล คาดว่าจะเพิ่มขึ้นนับแสนรายจากฐานเดิม 600,000 ราย และแนวโน้มเศรษฐกิจปี 2560 จะฟื้นตัวดีขึ้น
สำหรับข้อเสนอขยายเวลาภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ 7 ซึ่งจะครบกำหนดสิ้นเดือนกันยายนนี้ กรมสรรพากรได้เสนอสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อเสนอ ครม.ไปแล้ว คาดว่าคงเสนอที่ประชุมเร็ว ๆ นี้ ยอมรับว่ารัฐบาลต้องการช่วยเหลือประชาชน ซึ่งผลกระทบจากภัยแล้งช่วงที่ผ่านมาและปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัว การส่งออกยังมีปัญหา จึงต้องการช่วยเหลือประชาชนไปก่อนช่วงนี้ แม้กฎหมายกำหนดกรอบเพดานไว้ที่ร้อยละ 10 แต่ต้องจัดเก็บในอัตราเดิมไปก่อน โดยการประเมินรายได้ภาษีปี 2560 ยังประมาณการณ์ภายใต้สมมติฐานภาษีมูลค่าร้อยละ 7. – สำน้กข่าวไทย