เชียงใหม่ 5 ต.ค.-ร้านคาราโอเกะกลางเมืองเชียงใหม่ ยอมคืนเงินให้นักท่องเที่ยวเกาหลีอีก 60,000 บาท รวมเป็น 120,000 บาท ด้านตำรวจจ่อสั่งปิดร้านคาราโอเกะดังกล่าว หลังเข้าตรวจไปพบใบอนุญาต
วันนี้ตำรวจนัดนักท่องเที่ยวชาวเกาหลี ที่เข้าไปใช้บริการร้านคาราโอเกะย่านถนนช้างคลาน กลางเมืองเชียงใหม่ เข้าเจรจากับเจ้าของร้านคาราโอเกะ เพื่อขอเงินคืนเพิ่มอีก 600,000 บาท แต่เจ้าของร้านไม่ยอมมา ขณะที่นักท่องเที่ยวเผย ตอนเมาถูกรูดบัตรเครดิตไป 6 ครั้ง เป็นเงินกว่า 5.5 ล้านวอน หรือคิดเป็นเงินไทยกว่า 160,000 บาท เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อ 21 กันยายน ที่ผ่านมา ซึ่งนักท่องเที่ยวคนดังกล่าวได้แจ้งความและเจ้าของคาราโอเกะได้คืนให้ 60,000 บาท เมื่อวันที่ 24 กันยายน และครั้งนี้เป็นการนัดเจรจาอีกรอบเพื่อขอคืนเงินอีก 60,000 บาท แต่ทางร้านคาราโอเกะไม่มาตามนัด
มิสเตอร์ จอห์น บอน นักท่องเที่ยวเกาหลี บอกว่า มีสามล้อตุ๊กตุ๊กพาไปส่งร้านคาราโอเกะย่านถนนช้างคลาน นั่งกินและดื่มตามลำพังโดยมีหญิงสาว (เด็กนั่งดริงก์) มานั่งเป็นเพื่อนและตนเองก็เมา เมื่อเช็กบิลจึงรูดบัตรเครดิต หลังจากนั้นธนาคารแจ้งยอดค่าใช้จ่ายมีการรูดบัตรไปทั้งหมด 6 ครั้ง เป็นเงินกว่า 5.5 ล้านวอน ทำให้ตกใจเป็นอย่างมาก และลายเซ็นบางรายการ ตนเองไม่ได้เซ็น จึงเชื่อว่าไม่น่าเป็นไปได้ที่ค่าบริการจะสูงขึ้นขนาดนี้ จึงร้องเรียนไปยังสถานทูตเกาหลีและแจ้งความขอเงินคืน
พันตำรวจเอก ศิริวัฒน์ บุญประสิทธิ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ตำรวจสอบปากคำทั้งผู้เสียหาย เจ้าของร้าน รวมไปถึงเด็กเสริฟและเด็กนั่งดริงก์ภายในร้านแล้ว นอกจากนี้ยังต้องมีการตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในร้านด้วย เพื่อนำมาประกอบหลักฐาน เพราะเหตุการณ์นี้สร้างความเสียหายให้กับเมืองเชียงใหม่เป็นอย่างมาก พร้อมเผยเบื้องต้นได้ตั้งข้อหาเปิดร้านโดยไม่มีใบอนุญาตประกอบกิจการและเปิดสถานบริการเกินเวลาพร้อมกันนี้ก็จะตรวจเข้มทุกสถานบันเทิง ทั่วเมืองเชียงใหม่เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์นี้ซ้ำอีก
และเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา หลังถูกกดดันอย่างหนัก นายชัยวัฒน์ ทรงชัยวรรณ อายุ 35 ปี เจ้าของร้านคาราโอเกะ ได้เดินทางมาที่สถานีตำรวจเมืองเชียงใหม่ เพื่อเจรจาและยอมคืนเงินให้กับนักท่องเที่ยวชาวเกาหลี เพิ่มอีก 60,000 บาท หลังจากก่อนหน้านี้ คืนเงินไปแล้ว 60,000 บาท รวมเป็นเงิน 120,000 บาท ซึ่งนักท่องเที่ยวคนดังกล่าวก็พอใจ ขณะที่พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหานายชัยวัฒน์ เจ้าของร้านคาราโอเกะ ตั้งสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาตและจำหน่ายสุราเกินเวลา
พันตำรวจโท พรพิชิต รุ่งเรือง รองผู้กำกับสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่ เผยว่า นักท่องเที่ยวชาวเกาหลี ได้ไปเที่ยวร้านคาราโอเกะ ย่านถนนช้างคลานในตัวเมืองเชียงใหม่กับเพื่อนคนไทย แต่เพื่อนคนไทยกลับก่อน ช่วงที่ใช้บริการก็มีการสั่งสุราอาหารมานั่งดื่ม รวมทั้งมีพนักงานสาวๆ (เด็กนั่งดริงก์) มานั่งด้วย เมื่อสั่งเช็กบิลก็มีการรูดบัตรเครดิตไป 2 ครั้ง และจะรูดครั้งที่ 3 แต่เครื่องรูดบัตรเกิดขัดข้อง จึงไปขอใช้เครื่องรูดบัตรของร้านฟอร์เอฟเวอร์ ย่านถนนเจริญประเทศ ที่เป็นร้านในเครือเดียวกัน จึงทำให้เกิดปัญหาดังกล่าว
อย่างไรก็ตามกลางดึกที่ผ่านมาตำรวจนำกำลังเข้าจับกุม ร้านคาราโอเกะ ชื่อวาเลนไทน์ ย่านถนนช้างคลาน กลางเมืองเชียงใหม่ ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการเอาเปรียบนักท่องเที่ยวที่เข้าไปใช้บริการ พบว่าหน้าร้านปิด แต่ด้านในยังให้บริการนักท่องเที่ยวและยังจำหน่ายสุรา ตรวจสอบไม่มีใบอนุญาตเปิดสถานบริการ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวคนดูแล และพนักงานสาวๆ (เด็กนั่งดริงก์) ส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจเมืองเชียงใหม่ดำเนินคดีข้อหาจำหน่ายสุราเกินเวลาและเปิดสถานบริการไม่มีใบอนุญาต ส่วนร้านคาราโอเกะ ที่นักท่องเที่ยวชาวเกาหลีไปนั่งและร้านที่รูดบัตรเครดิตครั้งที่ 3 ไหวตัวปิดร้านไปก่อน ซึ่งทั้ง 3 แห่งเป็นร้านที่อยู่ในเครือเดียวกัน
โดยพนักงานสอบสวน จะเสนอไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ให้พิจารณาโทษสั่งปิดร้านเป็นเวลา 5 ปี ตามนโยบายของ คสช. รวมทั้งจะได้เสนอพิจารณาสั่งปิดร้านวาเลนไทม์ ย่านถนนช้างคลาน ในตัวเมืองเชียงใหม่ ที่อยู่ในเครือเดียวกันด้วย ที่ถูกเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมเมื่อคืนที่ผ่านมา เนื่องจากเปิดสถานบริการไม่มีใบอนุญาต และจำหน่ายสุราเกินเวลา เป็นเวลา 5 ปี และหากพบว่ายังเปิดให้บริการก็จะจับกุมซ้ำอีก.-สำนักข่าวไทย