กต.จัดพิธีส่งมอบ-รับมอบโบราณวัตถุ 12 รายการ

กระทรวงการต่างประเทศ 4 ต.ค.-กระทรวงต่างประเทศ จัดพิธีส่งมอบ-รับมอบโบราณวัตถุจากสหรัฐอเมริกากลับคืนสู่มาตุภูมิไทย จำนวน 12 รายการ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (4 ต.ค.) กระทรวงการต่างประเทศจัดพิธีส่งมอบ-รับมอบโบราณวัตถุจากสหรัฐอเมริกากลับคืนสู่ประเทศไทย โดย น.ส.บุษฎี สันติพิทักษ์ อธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงต่างประเทศ เป็นผู้ส่งมอบให้แก่นายประทีป เพ็งตะโก รองอธิบดีกรมศิลปากร

นายประทีป เปิดเผยว่า ในนามของกรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม ขอขอบคุณกระทรวงการต่างประเทศ โดยเฉพาะกรมสารนิเทศและสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน ที่ให้ความอนุเคราะห์ติดต่อประสานกับผู้มอบเป็นผู้แทนรับมอบ และอำนวยความสะดวกในการจัดส่งโบราณวัตถุของไทยจำนวน 12 รายการ กลับสู่มาตุภูมิครั้งนี้ สืบเนื่องจากที่รัฐบาลไทยตระหนักถึงคุณค่าความสำคัญของโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ จึงแต่งตั้งคณะกรรมการติดตามโบราณวัตถุของไทยในต่างประเทศกลับคืนสู่ประเทศไทย โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธาน เพื่อตรวจสอบพิจารณาติดตามและขอคืนโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ ที่ถูกนำออกนอกประเทศโดยไม่ถูกต้อง กลับคืนมาเป็นสมบัติของชาติสืบไป กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมศิลปากร และกระทรวงการต่างประเทศ โดยกรมสารนิเทศ ได้รับมอบหมายให้เป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินงานภารกิจสำคัญนี้ นับเป็นก้าวแรกแห่งความสำเร็จ ภายใต้การดำเนินการของคณะกรรมการชุดดังกล่าว


“ซึ่งโบราณวัตถุเหล่านี้ แม้ไม่ทราบแหล่งที่พบแน่ชัด แต่สามารถบอกเล่าเรื่องราววิถีชีวิต ประเพณี พิธีกรรม ตลอดจนความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี อันเป็นภูมิปัญญาของคนยุคก่อนประวัติศาสตร์ในวัฒนธรรมบ้านเชียง ที่ปรากฏบนผืนแผ่นดินไทยอย่างชัดเจน นับว่ามีคุณค่าความสำคัญและประโยชน์ทางวิชาการโบราณคดีและประวัติศาสตร์ศิลปะ” นายประทีป กล่าว

ด้าน น.ส.บุษฎี กล่าวว่า ไทยได้มีการรับมอบโบราณวัตุจากต่างประเทศมาตั้งแต่ปี 2544 รวม 954 รายการ ส่วนใหญ่จะเป็นโบราณวัตถุก่อนประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมบ้านเชียง และวันนี้เป็นครั้งแรกที่ส่งมอบภายใต้คณะกรรมการติดตามโบราณวัตถุของไทยในต่างประเทศกลับคืนสู่ประเทศไทยชุดนี้ ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศยินดีร่วมมือกับกรมศิลปากรในการติดตามโบราณวัตถุกลับคืนสู่ไทย

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีการติดตามโบราณวัตถุ 2 ชิ้นของปราสาทหนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ และปราสาทเขาโล้น จ.สระแก้ว จัดแสดงอยู่ในงาน Asian Art Museum เมืองซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา นายประทีป กล่าวว่า ทางไทยมีหลักฐานเป็นภาพถ่ายและรายงานการสำรวจว่าเป็นสมบัติของชาติไทย ซึ่งได้ส่งมาที่กระทรวงการต่างประเทศและส่งต่อให้ทางสหรัฐอเมริกาแล้ว ขึ้นอยู่กับว่าทางสหรัฐอเมริกาจะขอข้อมูลเพิ่มเติมหรือไม่ แต่ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ


สำหรับโบราณวัตถุ 12ร ายการ ประกอบด้วย ภาชนะดินเผา 9 รายการ , ลูกกลิ้งดินเผา 1 รายการ , หินดุ 1 รายการ และกำไลสำริด 1 รายการ  ซึ่งเป็นโบราณวัตถุยุคก่อนประวัติศาสตร์ที่มีอายุแตกต่างกันไป ตั้งแต่อายุประมาณ 1,800-2,300 ปี ไปจนถึงประมาณ 3,000-4,300 ปี เมื่อกรมศิลปากรรับมอบแล้ว จะดำเนินการจัดทำทะเบียนบัญชีเป็นทรัพย์สินของแผ่นดินโบราณวัตถุที่เสียหายหรือเสื่อมสภาพ จะได้รับการซ่อมสงวนรักษาตามหลักการอนุรักษ์ และเก็บรักษาไว้ที่คลังกลางพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ จังหวัดปทุมธานี เพื่อประโยชน์ทางการศึกษาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ฆ่าควักหัวใจ

รวบชายชาวจีนฆ่าโหดคู่ขา กรีดหน้าอก ควักหัวใจ-ปอด

ตำรวจรวบชายชาวจีน ก่อเหตุสะเทือนขวัญฆ่าขู่ขาหมกห้องน้ำอพาร์ตเมนต์ กลางเมืองพัทยา พบร่องรอยถูกกรีดหน้าอก ควักหัวใจ ปอดหายไปข้างหนึ่ง

อุทาหรณ์! จอดรถยนต์ติดเครื่องไว้ เจอขโมยขับหนีหาย

อากาศร้อนเป็นเหตุ หนุ่มสตาร์ทเครื่องเปิดแอร์รถยนต์จอดไว้ ก่อนลงไปซื้อของ เดินออกมาอีกที เจอคนขโมยรถ ขับหนีหายไปแล้ว

ดับแล้ว 8 ราย รถชนบนมอเตอร์เวย์ อัดก๊อปปี้พังยับ

เกิดอุบัติเหตุใหญ่ช่วงกลางดึก บนมอเตอร์เวย์ สาย 7 มุ่งหน้าชลบุรี รถเทรลเลอร์ 2 คัน กับเอสยูวีอีก 1 คัน คนในรถเอสยูวี เสียชีวิต 8 ราย

ข่าวแนะนำ

พายุลูกเห็บถล่มโคราช

โคราชอ่วม พายุลูกเห็บพัดถล่มรุนแรง “พิมาย-ประทาย” กองน้ำแข็งขาวโพลน ต้นไม้โค่นล้มหลายจุด ชาวบ้านบอกไม่เคยเจอพายุลูกเห็บหนักขนาดนี้มาก่อน

ล่าโจรชิงทอง 30 เส้น กลางห้างฯ อุดรธานี

อุกอาจกลางห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งใน จ.อุดรธานี คนร้ายสวมเสื้อไรเดอร์ ใส่หมวกกันน็อก ควงปืนปลอมบุกเดี่ยวจี้ชิงทองคำภายในร้านทอง ได้ไปถึง 30 เส้น ตำรวจเร่งตามล่าตัว

หนุ่มจีนฆ่าโหดคู่ขา อ้าง “อยากเล่นและแกล้งศพ”

หนุ่มจีนยอมรับฆ่าสาว LGBTQ+ เพราะถูกปฏิเสธร่วมหลับนอน และถูกถีบตกเตียง จึงโมโหแล้วบีบคอจนสิ้นใจตายคามือ ก่อนอ้าง “อยากเล่นและแกล้งศพ” เลยใช้กรรไกรกรีดหน้าอก ตัดหัวใจ คว้านซิลิโคน ออกมาไว้ข้างนอก ส่วนปอดที่หายไป ยืนยันไม่ได้แตะต้อง

เกิดเหตุระเบิดที่ท่าเรือในอิหร่าน-เสียชีวิตแล้ว 18 ราย

สื่อของทางการอิหร่านรายงานว่า เกิดเหตุระเบิดรุนแรง ที่อาจจะมีสาเหตุมาจากการระเบิดของวัสดุเคมี ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 18 ราย และบาดเจ็บมากกว่า 700 ราย โดยเหตุระเบิดเกิดขึ้นในวันเสาร์ ตามเวลาท้องถิ่น ที่ท่าเรือบันดาร์ อับบาส ท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดของอิหร่าน