fbpx

BGRIM เบียดคว้าแชมป์โรงไฟฟ้าไฮบริด “อู่ตะเภา”

กรุงเทพฯ 3 ต.ค. – กองทัพเรือเลือก BGRIM เป็นผู้ดำเนินโครงการโรงไฟฟ้า Hybrid  ระบบไฟฟ้าและน้ำเย็น พื้นที่ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภาเฟส 1 เสริมนโยบายอีอีซี ลงทุน 3,600 ล้านบาท รอลุ้นต่อเฟส 2  


นางปรียนาถ สุนทรวาทะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้รับหนังสือจากกองทัพเรือแจ้งผลการคัดเลือกผู้ประกอบการ เพื่อดำเนินโครงการงานระบบไฟฟ้าและน้ำเย็น พื้นที่ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา เพื่อดำเนินโครงการฯ ก่อสร้างโรงไฟฟ้าแบบผสมผสาน (Hybrid) ในโครงการระยะที่ 1 ซึ่งจะสามารถสร้างเสถียรภาพด้านการผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าในพื้นที่เขตพัฒนาท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา ส่วนโครงการระยะที่ 2 ทางกองทัพเรืออยู่ระหว่างการพิจารณา ซึ่งทางบริษัทได้เสนอเพื่อดำเนินโครงการเช่นกัน

สำหรับแผนการพัฒนาโรงไฟฟ้าระยะที่ 1 ประกอบด้วย โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม 80 เมกะวัตต์ พร้อมกับการพิจารณาจัดหาพื้นที่ที่มีความเหมาะสม เพื่อการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด 15 เมกะวัตต์ และระบบกักเก็บพลังงาน (ESS) 50 เมกะวัตต์ต่อชั่วโมง วงเงินลงทุนประมาณ 3,600 ล้านบาท คาดจะได้รับผลตอบแทน (ไออาร์อาร์) ร้อยละ 12-15  ระยะเวลาดำเนินการระหว่างปี 2561 – 2564


“โครงการฯ ระยะที่ 1  บริษัทฯ มีความพร้อมอย่างเต็มที่สำหรับจัดทำรายละเอียดการดำเนินโครงการฯ ตามข้อกำหนดและขอบเขตงาน (TOR) และข้อเสนอของบริษัทฯ เพื่อให้การพัฒนาโครงการฯ มีความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูงสุดให้กับกองทัพเรือ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งขณะนี้กำลังรอผลการพิจารณาว่าจะได้ดำเนินโครงการระยะที่ 2 ด้วยหรือไม่ ทั้ง 2 ระยะนี้จะสามารถรองรับปริมาณความต้องการการใช้ไฟฟ้าในเขตพื้นที่การพัฒนาโครงการสนามบินนานาชาติอู่ตะเภาได้อย่างมั่นคงอีกด้วย” นางปรียนาถ กล่าว

สำหรับแผนพัฒนาระยะที่ 2 ประกอบด้วย โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม 80 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน และ/หรือติดตั้งบนหลังคา และ/หรือแบบลอยน้ำ 55 เมกะวัตต์ หากได้รับอนุมัติจะดำเนินการ ระหว่างปี 2564 – 2566 ด้วยวงเงิน 2,400 ล้านบาท. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

คนร้ายฆ่าสาวโบลท์ เครียด ซัดมีอีก 2 คนยังไม่โดนจับ

เครียด! “ไอ้แม็ก” มือฆ่าชิงทรัพย์สาวโบลท์ ใช้หัวโขกลูกกรง สน.มีนบุรี จนตำรวจต้องเข้าระงับเหตุ ซัดมีอีก 2 คนยังไม่โดนจับ ล่าสุดคุมตัวไปฝากขังแล้ว

กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนักถึงหนักมาก คลื่นลมแรง

กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ระวังน้ำท่วมฉับพลัน-น้ำป่าไหลหลาก ส่วนทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนคลื่นลมแรง เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง

ชีวิตติดลบ! ชาวแม่สายจมน้ำจมโคลน 10 วันแทบหมดตัว

หลายชุมชนชายแดนแม่สาย เผชิญน้ำท่วมและจมโคลนมา 10 วันแล้ว อยู่ในสภาพแทบหมดตัว ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่กับชีวิตที่ต้องติดลบจากน้ำท่วมครั้งนี้