กรุงเทพฯ 26 ก.ย. – ทอท.ยืนยันการก่อสร้างขยายสนามบินสุวรรณภูมิเป็นไปตามแผนแม่บทเดิม ที่มีการปรับปรุงสอดคล้องอุตสาหกรรมการบินปัจจุบัน
นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. กล่าวถึงกรณีมีการวิพากษ์วิจารณ์การก่อสร้างอาคารหลังที่ 2 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิไม่เป็นไปตามแผนแม่บท ว่า ยืนยันแผนแม่บทสนามบินสุวรรณภูมิจัดทำขึ้นตั้งแต่ปี 2536 ซึ่งผ่านมาแล้ว 26 ปี ขณะที่อุตสาหกรรมการบินปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปมาก เช่น การมีอากาศยานหรือเครื่องบินขนาดใหญ่มากขึ้น เช่น แอร์บัส 380 และเทคโนโลยีการเติมเชื้อเพลิงอากาศยานต่าง ๆ ดังนั้น เมื่ออุตสาหกรรมการบินเปลี่ยนไปมากทั้งเชิงคุณภาพ คือ ขนาดและคุณสมบัติเครื่องบิน และเชิงปริมาณ คือ จำนวนเที่ยวบินและผู้โดยสาร ทอท.จึงปรับปรุงแผนแม่บทหรือมาสเตอร์แพลนทุก ๆ 5 ปี ตามข้อเสนอแนะองค์กรการบินพลเรือนระหว่างประเทศ หรือ ICAO
อย่างไรก็ตาม ทอท.ยืนยันว่าแผนแม่บทปัจจุบันยังคงสอดคล้องฉบับเดิมในแง่สาระสำคัญ 2 ข้อ คือ ปรับเวลาก่อสร้างให้สอดคล้องกับความเป็นจริงของโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิระยะ 2 ประกอบด้วย อาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 ส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารรวมถึงระบบขนส่งมวลชน จากเดิมวางแผนก่อสร้างปี 2554-2560 แต่โครงการล่าช้าส่งผลให้ต้องปรับเวลาใหม่ให้มีการก่อสร้างระหว่างปี 2559-2563
นอกจากนี้ ระหว่างการก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินหลังที่ 1 จะมีการก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินหลังที่ 2 ต่อเนื่องไปทิศทางใต้ ดังนั้น ทอท.จึงต้องหาพื้นที่ขยายศักยภาพของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิคู่ขนานไปด้วย นำมาซึ่งการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 ในโครงการพัฒนาท่าอากาศยานระยะ 3 ซึ่งเป็นไปตาม ICAO และ IATA หรือไออาต้าได้จัดทำในแผนแม่บทปี 2554
ดังนั้น ภาพรวมทั้งหมด ทอท.ยืนยันว่าการดำเนินการตามแผนแม่บทที่ปรับปรุงจะช่วยให้สุวรรณภูมรองรับผู้โดยสารมากขึ้น จากปัจจุบันผู้โดยสารปีละ 60 ล้านคนแล้ว จึงจำเป็นต้องมีการพัฒนาอย่างรวดเร็วต่อเนื่องแต่ละเฟส เพื่อให้รองรับผู้โดยสารเพิ่มขึ้น แต่หาก ทอท.ยังใช้แผนมาสเตอร์แพลนเดิม ซึ่งจะก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินหลังที่ 2 และขยายอาคารหลักที่เหลืออีกด้านหนึ่งเสร็จในปี 2569 ซึ่งก่อนที่จะก่อสร้างเสร็จจะมีผู้โดยสารมาใช้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิประมาณ 100 ล้านคน ขณะที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิจะมีศักยภาพรองรับผู้โดยสารได้ 60 ล้านคนเท่านั้น หาก ทอท.ไม่มีการปรับแผนมาสเตอร์แพลนก็จะทำให้เกิดปัญหาความแออัดในการใช้บริการไปตลอด
ส่วนประเด็นการประกวดแบบอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 มีปัญหาและกลุ่มบริษัทร่วมทำงาน S.A. ร้องต่อนายกรัฐมนตรีขอให้ยกเลิกผลการประกวดแบบนั้น ทอท.ยืนยันว่าการประกวดแบบที่ผ่านมาเป็นไปตามหลักเกณฑ์ และไม่อยากให้สังคมใช้อารมณ์ตัดสิน แม้จะมีผู้ไปร้องให้ยกเลิกกับนายกรัฐมนตรี แต่ ทอท.ก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องพิจารณาตามระเบียบและหลักเกณฑ์ที่มี รวมทั้งขอย้ำว่าว่าการดำเนินการต่าง ๆ ยังอยู่ในช่วงประกวดแนวคิดการ ออกแบบเท่านั้น รวมทั้ง ทอท.จะดูแลให้การก่อสร้างเป็นไปตามหลักเกณฑ์และกฎหมาย และอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 จะต้องปลอดภัยตามมาตรฐานการบิน โดยขณะนี้กำหนดเป้าหมายให้งานก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 สามารถก่อสร้างได้ปลายปี 2562.-สำนักข่าวไทย