กฎอัยการศึกยังจำเป็นสำหรับดูแลชายแดนใต้

เนียบรัฐบาล 25 ก.ย.-นายกฯ ระบุยังจำเป็นต้องใช้กฎอัยการศึกดูแลความสงบชายแดนใต้ เตรียมพบผู้นำมาเลย์เดือนหน้า หารือเรื่องเลี่ยนตัวผู้อำนวยความสะดวกคุยสันติสุข

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวถึงกรณีกลุ่มเปอร์มัส เยาวชนในจ.ปัตตานี แถลงการณ์เรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกกฎอัยการศึก ว่า ในพื้นที่ใดก็ตาม ไม่ว่าจะในประเทศไทยหรือประเทศอื่น ๆ ใช้กฎหมายพิเศษด้านความมั่นคงทั้งสิ้น เพื่อให้เจ้าหน้าที่ทำงานดูแลความปลอดภัยในภาพรวม และเหตุความไม่สงบที่เกิดขึ้น ไม่ได้เกิดในทุกพื้นที่ 

“ตราบใดยังมีคนที่จ้องจะกระทำความผิด ก็ต้องมีมาตรการให้เจ้าหน้าที่ทำงานได้ เพราะกฎหมายปกติไม่สามารถใช้ได้ในบางสถานการณ์ และต้องใช้อำนาจพิเศษ เมื่อสถานการณ์มีความรุนแรงหรือมีความไม่ปลอดภัยเกิดขึ้น ขณะเดียวกันหากเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานเกินกว่าเหตุหรือละเมิดสิทธิมนุษยชนก็มีกฎหมายดูแลอยู่ หากทำไม่ถูกต้องก็จะถูกลงโทษ ซึ่งทั้งหมดต้องปฏิบัติงานด้วยความระมัดระวัง” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ได้ออกมาแสดงความเห็นด้วยเช่นกัน ซึ่งส่วนหนึ่งต้องการความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน หากเปิดช่องให้ความไม่ปลอดภัยเกิดขึ้น จะทำให้การแก้ปัญหาในพื้นที่ภาคใต้เป็นไปได้ยาก 

“ไม่อยากให้สถานการณ์ต่าง ๆ ลุกลามบานปลาย และต้องฟังประชาชนในพื้นที่ด้วย ไม่ใช้ฟังเฉพาะนิสิตนักศึกษาเท่านั้น ขอให้ประชาชนในพื้นที่ช่วยกันทำความเข้าใจ และขออย่าให้เกิดความขัดแย้งหรือความรุนแรงต่อกัน” นายกรัฐมนตรี กล่าว

ส่วนกรณีนายกรัฐมนตรีมาเลเซียปรับเปลี่ยนตัวผู้อำนวยความสะดวกในกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ฝ่ายไทยกำลังพิจารณาเรื่องดังกล่าว ซึ่งต้องหาวิธีการที่เหมาะสมแต่ในส่วนของไทยยังไม่ยืนยันว่าจะปรับเปลี่ยนตัวบุคคลหรือไม่ ที่ผ่านมหารือร่วมกับมาเลเซียตลอด และนายกรัฐมนตรีมาเลเซียมีความเห็นว่า ต้องดำเนินการให้เกิดผลสัมฤทธิ์ในการอำนวยความสะดวกต่อสองประเทศให้มากที่สุด ซึ่งจะมีโอกาสพบกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซียในช่วงปลายเดือนตุลาคมนี้และอาจจะหารือประเด็นนี้ด้วย.-สำนักข่าวไทย