กรุงเทพฯ 24 ก.ย. – นักวิชาการ เชื่อ “พล.อ.ประยุทธ์” ทำงานการเมืองต่อ ยกการเมืองเหมือนปี 2522 ที่ “พล.อ.เกรียงศักดิ์” เป็นนายกฯ เทียบเคียง เตือนระวังแรงกระเพื่อม ตีรวน ไม่เชื่อ ก.พ. 62 จะมีเลือกตั้ง แต่อาจทอดยาวไป ต.ค. 62 ส่วนแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ ทุกพรรคมีทั้งได้เปรียบ-เสียเปรียบ
นายทวี สุรฤทธิกุล อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช เชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะตกลงทำงานการเมืองต่อไป แต่จะไปอยู่พรรคไหนเต็มตัวไม่ได้ อาจจะขอดูแลความเรียบร้อยไปก่อน ถ้ามีผู้สนับสนุนก็ยินดี
นายทวี ยกตัวอย่างการเมืองหลังการเลือกตั้ง ปี 2522 ที่ พล.อ.เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หลังการเลือกตั้ง จากกรณีที่กลุ่มต่างๆ ในสภาฯ รวมตัวกันเป็นเสียงข้างมากเสนอชื่อ มาเทียบเคียงกับปัจจุบัน ที่อาจมีกลุ่มการเมืองหรือพรรคกการเมืองรวมตัวเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อให้เกิดความสง่ามงาม
ส่วนเรื่องเสถียรภาพของัรฐบาลนั้น นายทวี กล่าวว่า น่าจะขึ้นอยู่ที่วุฒิสภา และถ้ามีการรวมกลุ่มแข็งแรง ไม่น่าจะมีปัญหา อย่างไรก็ตาม การเป็นนายกรัฐมนตรีที่อยู่ต่ออีกสมัย อาจมีแรงกระเพื่อมได้ ถ้าเสียงไม่เด็ดขาด ดังนั้น สิ่งสำคัญคือ การจัดสรรตำแหน่งต่างๆ ในรัฐบาลให้ลงตัว แต่อาจมีปัญหาในสภา จากกลุ่มตรงข้าม ที่สร้างปัญหา ตีรวนได้ จึงขึ้นอยู่กับความสามารถของ พล.อ.ประยุทธ์ว่า จะคุมสถานการณ์ได้หรือไม่
“ผมเข้าใจว่า นายกรัฐมนตรีมั่นใจในกองทัพ และจะมีการเชื่อมโยงถึงการสรรหาส.ว.ที่ต้องกุมกระบวนการทั้งหมดอยู่ในมือให้ได้ เพื่อไม่ให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย” นายทวี กล่าว
นอกจากนี้ นายทวี ไม่เชื่อว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้น ในวันที่ 24 ก.พ.2562 เพราะอาจจะมีปัจจัยบางอย่าง แต่ไม่ใช่เรื่องความไม่สงบเรียบร้อย ซึ่งความเห็นจากการวิเคราะห์ส่วนตัว สอดคล้องกับหมอดูชื่อดัง ในกรรมการสมาคมโหร ที่ฟันธงไม่มีเลือกตั้ง เดือน ก.พ. 2562 แต่อาจจะขยับไปเดือน ต.ค. 2562 และทหารจะอยู่ยาวไปอีก 6 ปี
นายทวี ยังกล่าวถึง กรณีประกาศแบ่งเขตเลือกตั้ง ส.ส. ใหม่ ของกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่า จำนวนที่ลดลงไม่มากนัก จากเดิมมี ส.ส. 375 คน เป็น 350 คน ซึ่งเห็นว่าแต่ละพรรคการเมือง มีทั้งได้เปรียบและเสียเปรียบ เนื่องจากบัตรลงคะแนน ที่จะใช้สำหรับการเลือกตั้งที่จะมีขึ้น จะสามารถลงคะแนนได้ทั้ง ส.ส.เขต และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ จึงเป็นการกระจายความเสี่ยง กระจายโอกาส เพราะพรรคที่ได้ ส.ส. เขตไปแล้ว ก็จะมีความมั่นใจ
นายทวี กล่าวว่า ส่วนในพื้นที่ กทม. ที่หายไป 3 คนนั้น เห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งครองพื้นที่นี้จะเสียเปรียบ แต่เป็นโอกาสพรรคอื่นที่จะได้แทรกเข้ามาบ้าง จะสร้างโอากาสให้พรรครองๆ ลงมา อย่างไรก็ตาม หากจะอธิบาย จะยากเพราะยังไม่เห็นของจริง จึงได้แต่วิเคราะห์ตามตัวกฎหมายเท่านั้น และว่า การมีระบบไพรมารีจะมาช่วย ซึ่งคิดว่าไม่มีปัญหา ดังเช่นพรรคเพื่อไทย ที่มีคนอยากมาเป็น ส.ส.เยอะ ก็เคยจัดบัญชี เอ ผู้สมัคร บี ช่วยงานพรรค และซีรองรับการเติบโต .- สำนักข่าวไทย