กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – “โฆษกกลุ่มสามมิตร” ชี้ คสช.คลายล็อกเพียงพอให้พรรคทำกิจกรรมทางการเมือง แนะใช้เวลาคิดนโยบายดีกว่าตั้งแง่ให้ปลดล็อก
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกกลุ่มสามมิตร กล่าวถึงการคลายล็อกทางการเมือง ว่า ขณะนี้ถือว่าไทม์ไลน์ของการเลือกตั้งชัดเจนขึ้นไปอีกขั้นแล้ว โดยระหว่างที่รอให้กฎหมายลูกว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.มีผลบังคับใช้ถัดจากนี้ไปอีก 90 วัน นั้น พรรคการเมืองต่างๆ จะได้ปรึกษาหารือกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง ( กกต.) เรื่องเขตเลือกตั้งและการสรรหาผู้สมัครลงสมัครรับเลือกตั้ง ทั้งนี้ ส่วนตัวมองว่า พรรคการเมืองสามารถดำเนินกิจกรรมในส่วนที่จำเป็นเกี่ยวกับการเลือกตั้งได้แล้ว ทั้งการร่างข้อบังคับพรรค รวมไปถึงการเลือกกรรมการบริหารพรรค
นายธนกร ระบุ กรณีที่หลายพรรคการเมืองมีความกังวลว่าระยะเวลาที่มีอาจไม่เพียงพอต่อการหาเสียง นั้น นโยบายหาเสียงของแต่ละพรรคการเมือง ที่ผ่านมาล้วนมาจากความคิดของแกนนำพรรคมากกว่าที่จะไปถามชาวบ้านว่าอยากให้พรรคการเมืองทำอะไร ดังนั้นพรรคการเมืองควรเอาเวลาที่มักจะพูดเสมอว่าไม่เพียงพอสำหรับการหาเสียง ไปคิดนโยบายและดำเนินกิจกรรมต่างๆ ของพรรคตามที่กฎหมายกำหนด ดีกว่ามาตั้งแง่สร้างเงื่อนไขว่าการคลายล็อกยังไม่เพียงพอ และจะต้องปลดล็อกทั้งหมด
นายธนกร ยังกล่าวถึงปัญหาความขัดแย้งระหว่างสมาชิกกลุ่มสามมิตร บางคนกับแกนนำพรรคภูมิใจไทย จนมีความพยายามจะขยายผลให้เกิดเป็นความขัดแย้งระหว่างแกนนำกลุ่มสามมิตรกับแกนนำพรรคภูมิใจไทย ว่า ที่ผ่านมาจะเห็นว่านายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำกลุ่มสามมิตร ไม่เคยกล่าวพาดพิงพรรคการเมืองใด เพราะต้องการเน้นไปที่การรับฟังปัญหาและการหาทางช่วยเหลือความเดือดร้อนของประชาชนเป็นหลัก รวมไปถึงการสร้างความปรองดองให้คนในชาติ ขอยืนยันว่าแกนนำกลุ่มสามมิตรกับพรรคภูมิใจไทย ไม่ได้มีเรื่องบาดหมางอะไรกัน ขณะที่การแสดงความเห็นหรือการกระทำใดๆ ของสมาชิกกลุ่มสามมิตรคนใดคนหนึ่ง ถือเป็นเรื่องส่วนบุคคลที่ไม่สามารถจะไปบังคับกันได้ ซึ่งอาจเป็นเรื่องเกี่ยวกับความไม่ชอบมาพากลในการเลือกตั้ง โดยเป็นหน้าที่ของ กกต.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่จะต้องตรวจสอบ หากเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายก็สามารถดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายได้อยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม สำหรับกลุ่มสามมิตร ยืนยันว่า ขณะนี้ยังมีเวลาดูว่านโยบายของพรรคการเมืองไหนที่สอดคล้องกับแนวทางการแก้ปัญหาให้กับประชาชนของกลุ่มสามมิตร เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมก็จะมีคำตอบให้กับประชาชนอย่างแน่นอน.- สำนักข่าวไทย