กทม. 19 มี.ค.- “ส.ส.โต้ง” ป้อง “สมศักดิ์-สุริยะ” ปม “สันติ” ออกมาโจมตี หลังย้ายซบเพื่อไทย ชี้ควรเคารพการตัดสินใจ-ให้เกียรติอดีตแกนนำพรรค เตือนอย่ากวนน้ำให้ขุ่น ทั้งที่ไปมาลาไหว้ดี ห่วงถูกปลดพ้นเลขาฯ พรรค ไม่ทำตามนโยบาย “บิ๊กป้อม” ก้าวข้ามความขัดแย้ง เหน็บอาการออก อาจกลัวแพ้พื้นที่ภาคเหนือ หลังนิด้าโพลพุ่งสูง
วันที่ 19 มีนาคม 2566 นายจิรพงษ์ ทรงวัชราภรณ์ ส.ส.จังหวัดนนทบุรี พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ออกมาให้สัมภาษณ์โจมตีแกนนำกลุ่มสามมิตร หลังย้ายเข้าพรรคเพื่อไทยว่า การออกมาให้สัมภาษณ์พาดพิงถึงอดีตแกนนำพรรค ควรให้เกียรติ และเคารพการตัดสินใจ ที่เป็นสิทธิส่วนตัว ไม่ควรนำไปสู่ความขัดแย้ง เพราะทั้งนายสมศักดิ์ เทพสุทิน อดีตรมว.ยุติธรรม และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ อดีต รมว.อุตสาหกรรม ก็ได้มีการลา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เรียบร้อยแล้ว ซึ่งบรรยากาศ ก็เป็นไปด้วยดี โดยพล.อ.ประวิตร เวลาให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ก็ให้เกียรติเป็นไปในทิศทางที่ดี
“ดังนั้น นายสันติ ไม่ควรกวนน้ำให้ขุ่น ควรช่วยกันสร้างบรรยากาศทางการเมืองให้สร้างสรรค์ เพราะท่านสมศักดิ์ ก็ตั้งโต๊ะแถลงข่าวถึงสาเหตุการย้ายพรรคไปแล้วว่า การเป็นรัฐบาลผสมหลายพรรค ทำให้การขับเคลื่อนโครงการต่างๆทำได้ไม่เต็มที่ ซึ่งจากที่ผมติดตาม ก็เห็นชัดเจนว่า หลายโครงการยังสะดุดอยู่ อาจมีการขัดแข้งขัดขาแย่งผลงาน เช่น การปลดล็อกพืชกระท่อม ที่ยังไม่สามารถแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์จากพืชกระท่อมได้ เนื่องจากติดระเบียบ อย.ที่กำกับดูแลโดยกระทรวงสาธารณสุข รวมถึงเรื่องนิคมอุตสาหกรรมราชทัณฑ์ เรื่องส่งเสริมวัวชน ที่ยังขับเคลื่อนได้ล่าช้าอยู่ ทั้งที่ล้วนเป็นโครงการที่เป็นประโยชน์กับประชาชน”นายจิรพงษ์ กล่าว
นายจิรพงษ์ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา นายสมศักดิ์ ได้เป็นรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีมาแล้วหลายสมัย ในหลายรัฐบาล จึงได้มีโอกาสทำงานร่วมกับทั้งรัฐบาลผสม และรัฐบาลพรรคเดียว ซึ่งก็ได้เห็นข้อแตกต่างอย่างชัดเจน ในการขับเคลื่อนนโยบายต่างๆ โดยถือว่า เป็นผู้บริหารที่มีประสบการณ์สูง จึงไม่แปลกที่เลือกมาทำงานกับพรรคเพื่อไทย เพื่อต้องการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะเกษตรกร ดังนั้น การย้ายมาพรรคเพื่อไทย ไม่ได้ผิดอะไร เพราะออกมาอย่างถูกต้อง ไม่มีการรักษาการเก้าอี้รมต.ด้วย รวมถึงขณะที่อยู่พรรคพลังประชารัฐ ก็ได้ทำงานอย่างเต็มที่ จนมีผลงานอย่างชัดเจน ไม่เคยเอาเปรียบพรรคตามที่ถูกกล่าวหา
นายจิรพงษ์ กล่าวต่อว่า นายสันติ ควรยอมรับความเห็นต่างทางการเมือง ไม่ควรออกมากล่าวหาเรื่องต้องการตำแหน่ง ทั้งที่นายสมศักดิ์ และนายสุริยะ ตั้งใจทำงานเพื่อประเทศ ซึ่งไม่ว่าจะอยู่ตำแหน่งไหน ก็มีความตั้งใจสูง แต่ตนเข้าใจว่า การที่พุ่งเป้ามาที่นายสมศักดิ์ เพราะนายสันติ อาจจะกังวลพื้นที่ภาคเหนือที่ตนเองรับผิดชอบ จะสู้ไม่ได้ใช่หรือไม่ ถึงออกอาการแบบนี้ เพราะนิด้าโพลล่าสุด พรรคเพื่อไทย ก็นำขาด ทั้งแคนดิเดตนายกฯ ส.ส.เขต ส.ส.บัญชีรายชื่อ จึงไม่แปลกที่นายสมศักดิ์ จะถูกโจมตี เพราะเป็นตัวจริงในพื้นที่ภาคเหนือนั่นเอง ซึ่งตนเริ่มเป็นห่วงนายสันติ จะถูกปลดจากเลขาฯพรรค ที่ไม่จดจำนโยบายของหัวหน้าพรรค ที่ก้าวข้ามความขัดแย้ง แต่ก็เข้าใจได้ว่า อาจจะหลงลืม เพราะขนาดจบด๊อกเตอร์ ยังจำชื่อคณะ และชื่อเต็มสถาบันไม่ได้เลย .-สำนักข่าวไทย