กทม.11 ก.ย.- รองโฆษก ตร.แจง กรณีมีการเผยแพร่คลิปติงตำรวจจราจร สน.แสมดำ จากเหตุการณ์รถเสียบนช่องทางด่วนขาเข้า กทม.
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ เปิดเผยกรณีมีการนำข้อมูลพร้อมคลิปวิดีโอเผยแพร่ในโซเชียลมิเดีย ทางเฟซบุ๊ก ชื่อ “ฟาร์ ยีราฟแคระซิ่ง” ระบุว่า “ไม่มีใครอยากให้รถเสียหรอก รถจะเสียตอนไหนจะมีคนรู้ก่อนกำหนดไหม ใครบ้างจะอยากให้รถตัวเองเสีย พังกลางถนน อยู่เลนขวาสุดด้วย ซ้ำโดนตำรวจจะเขียนใบสั่ง พูดจาอย่างกับอะไร(คลิปสั้นไปหน่อย จริงๆยาวกว่านี้ พูดจาดีดีก็ได้!!!!) ไม่ต้องซ้ำเติม” ซึ่งชาวโซลเชียลมิเดียได้มีการวิพากวิจารณ์การทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างวงกว้างและสื่อได้นำไปเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้นั้น ได้รับรายงานจาก สน.แสมดำ ว่าเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2561 เวลาประมาณ 16.30 น. ตำรวจจราจร สน.แสมดำ ได้รับการร้องเรียนจากผู้ใช้ถนน บริเวณถนนพระราม 2 ช่องทางด่วนขาเข้ากรุงเทพฯ ใต้สะพานกลับรถบริเวณปากซอยพระราม2 ที่ 100 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ ว่ามีเหตุจราจรติดขัด เนื่องจากมีรถจอดเสีย จึงไปตรวจสอบพบ รถยนต์กระบะ อีซูซุ ทะเบียน 1 ฒว 6954 กรุงเทพฯ จอดเสียอยู่ช่องทางด่วน ขาเข้าช่องขวาสุด พบผู้หญิงเป็นผู้ขับขี่ จึงเข้าไปสอบถามถึงสาเหตุและพูดว่าจะให้เคลื่อนย้ายรถเนื่องจากจอดกีดขวางทางจราจร แต่หญิงคนดังกล่าว พูดจะจอดรถยนต์ไว้อย่างนี้ไม่ยอมให้มีการยกรถของตนออกจากถนน โดยให้เหตุผลว่าจะรอเพื่อนของตน ตำรวจจราจร จึงแจ้งว่าจอดย่างนี้ไม่ได้ เป็นความผิดและอธิบายข้อกฎหมายให้ทราบว่า นำรถซึ่งมีสภาพไม่มั่นคงแข็งแรงมาใช้ในทางเดินรถ (เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 6 วรรค 1) แต่ก็ไม่ได้มีการจับกุมหรือดำเนินคดีแต่อย่างใด จากนั้นตำรวจจึงได้ประสานรถยกมาช่วยเก็บไว้ในที่ปลอดภัยและให้พ้นจากการกีดขวางการจราจร โดยทั้งนี้ไม่ได้คิดค่าใช้จ่ายกับหญิงคนขับรถยนต์คันดังกล่าวแต่อย่างใด
รอง โฆษก ตร. กล่าวต่ออีกว่า ที่ผ่านมา พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้มีข้อสั่งการในแนวทางแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดและอำนวยความสะดวกการจราจรแก่พี่น้องประชาชนมาโดยตลอด โดยกำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกพื้นที่ออกปฏิบัติหน้าที่ร่วมบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่สัญจรไปมา พร้อมเร่งระบายรถ เพื่ออำนวยความสะดวกให้พี่น้องประชาชนในทุกรูปแบบ และแก้ปัญหาการจราจรติดขัดให้น้อยที่สุด เพื่อพี่น้องประชาชนจะสามารถเดินทางไปที่หมายได้อย่างสะดวกและปลอดภัย ทั้งนี้ ต้องขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนให้หมั่นตรวจเช็คสภาพรถ เครื่องยนต์ทุกครั้ง ก่อนออกเดินทาง เติมน้ำมันให้เพียงพอ หากเครื่องยนต์ สภาพรถมีปัญหา จะทำให้การจราจรติดขัดมากขึ้น และเพื่อไม่ให้ไปกระทบสิทธิของผู้ใช้รถใช้ถนนคนอื่นๆ.-สำนักข่าวไทย