รมว.คลังเพิกถอนใบอนุญาตเจ้าพระยาประกันภัย

กรุงเทพฯ 8 ก.ย.- รมว.คลังสั่งให้เพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยบมจ.เจ้าพระยาประกันภัย มีผล 7 ก.ย.61 


สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) แจ้งว่า นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มีคำสั่งที่ 1213/2561 ลงวันที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2561 ให้เพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันวินาศภัย ของบริษัท เจ้าพระยาประกันภัย จำกัด (มหาชน) แล้วตามที่คปภ.นำเสนอและมีผลทันที ทั้งนี้เนื่องจาก บริษัทมีหนี้สินเกินกว่าทรัพย์สิน มีฐานะการเงินไม่มั่นคง ไม่สามารถดำรงเงินกองทุนให้ครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนด มีการกระทำที่ฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งกฎหมายหลายประการ ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสียหายแก่ ผู้เอาประกันภัยหรือประชาชน และไม่สามารถแก้ไขปัญหาสำคัญของบริษัทได้ภายในระยะเวลาที่สมควร ถ้าให้ประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยต่อไป จะทำให้เกิดความเสียหายต่อประชาชนหรือผู้เอาประกันภัย ตลอดจนความน่าเชื่อถือของธุรกิจประกันภัย

สำนักงาน คปภ. แจ้งว่า คปภ.เตรียมมาตรการที่จะช่วยเหลือผู้เอาประกันภัย เพื่อรองรับมิให้ผู้เอาประกันภัยได้รับผลกระทบไว้แล้ว สำหรับ บมจ.เจ้าพระยาประกันภัย มีฐานะการเงินไม่มั่นคงจากการดำรงเงินกองทุนไม่ครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนด มีหนี้สินเกินกว่าทรัพย์สิน และยื่นงบการเงินและรายงานเกี่ยวกับฐานะการเงินและผลการดำเนินงานของบริษัทไม่ถูกต้องตามความเป็นจริงหลายครั้ง มีพฤติกรรมปิดบังซ่อนเร้นฐานะการเงินหรือการดำเนินการ โดยบันทึกรายการหนี้สินจากการประกันภัยต่อและเงินสำรองค่าสินไหมทดแทนที่ได้รับรายงานแล้ว ต่ำกว่าความเป็นจริง ทำให้สำนักงานคปภ.ไม่ทราบฐานะการเงิน ที่แท้จริงของบริษัท และไม่สามารถมั่นใจได้ว่าบริษัทมีความสามารถในการชำระภาระผูกพันที่มีต่อ ผู้เอาประกันภัยหรือประชาชนได้ จึงเป็นกรณีที่บริษัท มีฐานะหรือการดำเนินการอยู่ในลักษณะอันอาจเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ผู้เอาประกันภัยหรือประชาชน และมีเหตุสมควรที่จะสั่งให้หยุดรับประกันภัยวินาศภัยเป็นการชั่วคราว นายทะเบียนด้วยความเห็นชอบของคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ตามมติที่ประชุมครั้งที่ 3/2561 เมื่อวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2561 จึงสั่งให้บริษัทหยุดรับประกันวินาศภัยเป็นการชั่วคราว และสั่งการให้บริษัทแก้ไขฐานะและการดำเนินการ  ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2561 


ต่อมาบริษัทร้องขอ โดยให้ขยายถึงวันที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2561 ซึ่งนายทะเบียนด้วยความเห็นชอบของคณะกรรมการคปภ.ก็ได้ให้ขยายระยะเวลาการแก้ไขฐานะและการดำเนินงานตามที่ร้องขอ  แต่ปรากฏหลักฐานต่อนายทะเบียนว่า เจ้าหนี้ของบริษัทได้ตกลงหรือยินยอมเข้าร่วมโครงการแปลงหนี้เป็นทุนกับบริษัทตามคำร้องขอขยายระยะเวลา ภายในวันที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2561 ให้ขยายระยะเวลาแก้ไขฐานะและการดำเนินการออกไปจนถึงวันที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2561 และบริษัทยังคงอยู่ภายใต้คำสั่งหยุดรับประกันวินาศภัยเป็นการชั่วคราว แต่หากเจ้าหนี้ของบริษัทดังกล่าว ไม่ตกลงหรือยินยอมเข้าร่วมโครงการแปลงหนี้เป็นทุนของบริษัท ภายในวันที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2561 นายทะเบียน  จะนำเสนอคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัยเพื่อพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายโดยเคร่งครัดต่อไป ทั้งนี้ ได้มีการแจ้งให้บริษัททราบเงื่อนไขดังกล่าวแล้ว 

ปรากฏว่า เมื่อครบกำหนดระยะเวลาในวันที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2561 ไม่ปรากฏหลักฐานต่อนายทะเบียนว่า เจ้าหนี้ของบริษัทได้ตกลงหรือยินยอมเข้าร่วมโครงการแปลงหนี้เป็นทุนกับบริษัทแต่อย่างใด อีกทั้งบริษัทยังคงไม่สามารถแก้ไขปัญหาฐานะและการดำเนินการได้ครบถ้วน ได้แก่ ไม่สามารถดำรงเงินกองทุนให้ครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนด โดยปรากฏตามรายงานเกี่ยวกับฐานะการเงินและผลการดำเนินงานที่บริษัทนำส่งให้สำนักงาน คปภ. ณ วันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2561 มีหนี้สินเกินกว่าทรัพย์สิน จำนวน 267.78 ล้านบาท มีอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุน จำนวนร้อยละ -210.28 จัดสรรเงินสำรองตามมาตรา 23 และจัดสรรสินทรัพย์ไว้สำหรับหนี้สินและภาระผูกพันตามสัญญาประกันภัย ตามมาตรา 27/4 ไม่ครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนด จำนวน 79.44 ล้านบาท และ 157.18 ล้านบาท ตามลำดับ แม้ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตตรวจสอบและรับรองงบการเงิน ณ วันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2561 แต่รายงานของผู้สอบบัญชีรับอนุญาตแสดงความเห็นแบบมีเงื่อนไขเกี่ยวกับความสามารถในการดำเนินงานต่อเนื่องอันเป็นสาระสำคัญ เนื่องจาก บริษัทมีหนี้สินรวมสูงกว่าทรัพย์สิน 267.78 ล้านบาท ซึ่งการให้ความเห็นแบบมีเงื่อนไขดังกล่าวเป็นลักษณะที่เป็นเหตุให้บริษัทมีฐานะการเงินหรือการดำเนินการอยู่ในลักษณะอันอาจเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ผู้เอาประกันภัยหรือประชาชน คณะกรรมการคปภ. ในการประชุมครั้งที่ 10/2561 วันที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2561 จึงมีมติให้เสนอความเห็นต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อพิจารณามีคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยของบริษัท เจ้าพระยาประกันภัย จำกัด (มหาชน) 

สำหรับแนวทางการช่วยเหลือผู้เอาประกันภัยและประชาชน สำนักงาน คปภ. ได้ดำเนินการ ดังนี้ สำนักงาน คปภ. ได้รับความร่วมมือจากบริษัทประกันวินาศภัย จำนวน 26 บริษัท ที่ยินดีรับโอนกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ที่ยังมีผลผูกพันของผู้เอาประกันภัยที่ได้ทำไว้กับบมจ.เจ้าพระยาประกันภัย โดยมีเงื่อนไข ดังนี้ กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ (ภาคสมัครใจ) ผู้เอาประกันภัยสามารถขอทำประกันภัยสำหรับความคุ้มครองตามระยะเวลาของกรมธรรม์เดิม โดยบริษัทจะขยายระยะเวลาความคุ้มครองเพิ่มเติมให้เท่ากับระยะเวลาที่เหลืออยู่ โดยไม่คิดค่าเบี้ยประกันภัยเพิ่ม หรือ ผู้เอาประกันภัยสามารถขอทำประกันภัยสำหรับความคุ้มครอง 1 ปี โดยบริษัทประกันภัยจะให้ส่วนลดเบี้ยประกันภัยเท่ากับจำนวนเบี้ยประกันภัยตามส่วนเฉลี่ยของระยะเวลาประกันภัยที่เหลืออยู่ตามกรมธรรม์เดิม ทั้งนี้ ส่วนลดที่จะให้แก่ผู้เอาประกันภัยจะไม่น้อยกว่าร้อยละ 25 ของเบี้ยประกันภัยเต็มปีของกรมธรรม์ประกันภัยเดิม


กรมธรรม์ประกันภัยประเภทอื่น ๆ นอกเหนือจากกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ (ภาคสมัครใจ) ผู้เอาประกันภัยสามารถขอทำประกันภัยสำหรับความคุ้มครองตามระยะเวลาของกรมธรรม์เดิม โดยบริษัทจะขยายระยะเวลาความคุ้มครองเพิ่มเติมให้เท่ากับระยะเวลาที่เหลืออยู่ โดยไม่คิดค่าเบี้ยประกันภัยเพิ่ม ทั้งนี้ ผู้เอาประกันภัยจะต้องโอนสิทธิที่จะได้รับเบี้ยประกันภัยสำหรับระยะเวลาที่เหลือจากกองทุนประกันวินาศภัย ในฐานะผู้ชำระบัญชีของบมจ.เจ้าพระยาประกันภัย ให้แก่บริษัทที่รับโอนกรมธรรม์ประกันภัยนั้นด้วย สำหรับกรณีที่กรมธรรม์ประกันภัยมีความเสียหายเกิดขึ้นแล้ว การเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดของกองทุนประกันวินาศภัย ในฐานะผู้ชำระบัญชีของบมจ.เจ้าพระยาประกันภัย โดยสำนักงาน คปภ. ในทุกพื้นที่ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาคจะทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานและอำนวยความสะดวกแก่ผู้เอาประกันภัยหรือประชาชนเป็นเบื้องต้น

ส่วนผู้เป็นเจ้าหนี้ตามสัญญาประกันภัยของ บมจ.เจ้าพระยาประกันภัย ให้ยื่นขอรับชำระหนี้ต่อกองทุนประกันวินาศภัย ในฐานะผู้ชำระบัญชีของบมจ.เจ้าพระยาประกันภัยภายใน 60 วันนับแต่วันที่กองทุนประกันวินาศภัยกำหนดในประกาศ โดยให้นำเอกสารต้นฉบับพร้อมทั้งสำเนา จำนวน 2 ชุด ประกอบการยื่นขอรับชำระหนี้ ดังนี้ กรมธรรม์ประกันภัย บัตรประจำตัวประชาชน ใบเคลม ใบนัดชำระหนี้ หรือเอกสารอื่นใดที่แสดงถึงมูลหนี้ หนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล (กรณีเป็นนิติบุคคล) สำหรับเจ้าหนี้อื่นที่ไม่ใช่เจ้าหนี้ตามสัญญาประกันภัย ให้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ต่อกองทุนประกันวินาศภัยในฐานะผู้ชำระบัญชีของ บมจ.เจ้าพระยาประกันภัย ภายใน 60 วันนับแต่วันที่กองทุนประกันวินาศภัยกำหนดในประกาศ พร้อมทั้งนำเอกสารแสดงความเป็นเจ้าหนี้ ต้นฉบับพร้อมทั้งสำเนา จำนวน 1 ชุด ประกอบการยื่นขอรับชำระหนี้ ดังนี้ หลักฐานแสดงถึงมูลหนี้ บัตรประจำตัวประชาชน หนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล (กรณีเป็นนิติบุคคล) หากเจ้าหนี้ไม่สามารถยื่นได้ด้วยตนเอง จะต้องมีหนังสือมอบอำนาจโดยติดอากรแสตมป์ 30 บาท พร้อมกับสำเนาบัตรประชาชนผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจ ยื่นต่อกองทุนประกันวินาศภัย ในฐานะ ผู้ชำระบัญชีของบริษัท เจ้าพระยาประกันภัย จำกัด (มหาชน) 

สถานที่ที่สามารถยื่นคำขอรับชำระหนี้ มีดังต่อไปนี้ ส่วนกลาง ยื่นได้ 3 แห่ง ดังนี้ กองทุนประกันวินาศภัย อาคารชินวัตรทาวเวอร์ 3 ชั้น 15 เลขที่ 1010 ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900 หมายเลขโทรศัพท์ 0-2791-1444 ต่อ 11-15 และ 21-24 สำนักงาน คปภ. เขตท่าพระ เลขที่ 287 ซอยรัชดาภิเษก 6 ถนนรัชดาภิเษก-ท่าพระ แขวงบุคคโล เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร 10600 หมายเลขโทรศัพท์ 0-2476-9940-3 สำนักงาน คปภ. เขตบางนา เลขที่ 1/16  อาคารบางนาธานี ชั้น 8 ถนนบางนาตราด กม.3 แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260 หมายเลขโทรศัพท์ 0-2361-3769-70

ในส่วนของพื้นที่ต่างจังหวัด สามารถยื่นขอรับชำระหนี้ได้ที่ สำนักงาน คปภ. ภาค และสำนักงาน คปภ. จังหวัด ทั่วประเทศ ทั้งนี้ เจ้าหนี้สามารถดาวน์โหลดแบบคำทวงหนี้ได้ที่ www.gif.or.th หัวข้อ “แบบฟอร์ม” ได้อีกด้วย

ปัจจุบันมีการจัดตั้งกองทุนประกันวินาศภัยขึ้น เพื่อช่วยเหลือเจ้าหนี้ซึ่งมีสิทธิได้รับชำระหนี้ที่เกิดจากการเอาประกันภัย ในกรณีที่บริษัทถูกเพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันวินาศภัย โดยเจ้าหนี้ฯ มีสิทธิได้รับชำระหนี้ที่เกิดจากสัญญาประกันภัยจากกองทุนประกันวินาศภัย ซึ่งเมื่อรวมกับจำนวนที่ได้รับการเฉลี่ยจากหลักทรัพย์ประกันและเงินสำรองที่วางไว้กับนายทะเบียนแล้ว ไม่เกินรายละ 1 ล้านบาท  สำหรับรายชื่อบริษัทประกันวินาศภัยที่เข้าร่วมโครงการให้ความช่วยเหลือผู้เอาประกันภัยสามารถ ดูได้จากเว็บไซต์ของสำนักงาน คปภ. (www.oic.or.th) หรือสอบถามได้ที่สายด่วน คปภ. 1186 . – สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สาวซิ่งรถหรูชนท้าย จยย. ทำแม่ลูกดับ 3 ศพ

แม่ขี่ จยย.ไปรับลูก 2 คน กลับจากเรียนพิเศษ ถูกสาวขับรถหรูซิ่งชนท้าย ร่างกระเด็นตกสะพานข้ามรางรถไฟ เสียชีวิตทั้ง 3 คน ส่วนผู้ก่อเหตุอุ้มแมว ทิ้งรถ หลบหนีไป

ปิดล้อมล่ามือปืนคลั่งสังหาร 3 ศพ

ตำรวจเร่งไล่ล่ามือปืนคลั่งก่อเหตุยิง 3 ศพ ในพื้นที่ จ.หนองบัวลำภู ล่าสุดปิดล้อมพื้นที่กว่า 1,000 ไร่ รอยต่อ จ.เลย หลังพบเบาะแสคนร้ายหนีไปซ่อนตัว ขณะที่ชนวนสังหารยังไม่แน่ชัด

ลูกชายมือปืนคลั่งยิง 3 ศพ พาครอบครัวหนีตาย พ่อโพสต์ขู่ฆ่าล้างครัว

ลูกชายมือปืนคลั่งยิงดับ 3 ศพ ต้องพาภรรยาและลูก รวมถึงพ่อตา-แม่ยาย หนีไปอยู่ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง หลังพ่อโพสต์ข้อความขู่จะฆ่าล้างครัว เหตุจากปัญหาในครอบครัว

ชายคลั่งยิง3ศพ

ชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ โผล่วัดที่ จ.เลย ขอข้าวกิน ก่อนหนีเข้าป่า

แม่ครัววัดภูคำเป้ ต.ผาสามยอด อ.เอราวัณ จ.เลย เผยพบชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ เดินเข้ามาในวัดด้วยสภาพอิดโรย ขอข้าวกิน ลักษณะรีบกินเหมือนวิตกกังวล หลังกินเสร็จรีบเดินเข้าป่าหายไป ก่อนมาทราบภายหลังว่าเป็นผู้ก่อเหตุยิงคนเสียชีวิต

ข่าวแนะนำ

น้ำท่วมรอบนอก อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา วิกฤติ

ฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน ทำให้สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น แต่ในพื้นที่ไข่แดงหรือพื้นที่เศรษฐกิจ น้ำยังไม่สามารถจะเจาะเข้าไปได้ โดยนายกเทศมนตรีเทศบาลนครหาดใหญ่มั่นใจถ้าฝนตกลงมาไม่มากไปกว่านี้จะสามารถดูแลพื้นที่ในเทศบาลนครหาดใหญ่

ปัตตานีจมบาดาล-ถนนถูกตัดขาด

สถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ยังวิกฤติในหลายจังหวัด เพราะฝนยังไม่หยุดตก ทำให้การระบายน้ำแทบไม่สามารถทำได้เลย โดยเฉพาะในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ชาวบ้านเดือดร้อนหนักหลายแสนคน

เร่งรื้อถอนคานถล่ม ถ.พระราม 2 จราจรติดขัดหนัก

เหตุแผ่นยกคานปูนและเครนก่อสร้างถล่มบนถนนพระราม 2 จนถึงขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังคงรื้อถอนโครงสร้างที่พังถล่มไม่แล้วเสร็จ ส่วนสาเหตุยังไม่ทราบแน่ชัด ขณะที่การจราจร ถ.พระราม 2 ทั้งขาเข้า-ขาออก ติดขัดหนัก แนะเลี่ยงเส้นทาง

นายกฯ สั่งระดมช่วยน้ำท่วมใต้-เร่งเยียวยา

นายกฯ สั่งระดมช่วยเหลือน้ำท่วมใต้-เร่งมาตรการเยียวยา เผย ครม.เห็นชอบ 39 โครงการฟื้นฟูพื้นที่อุทกภัย เชียงใหม่-เชียงราย 641 ล้านบาท