“อนุทิน” กำชับสื่อสารเชิงรุก ไม่ตัดไฟบ้านที่ต้องใช้เครื่องมือแพทย์

กทม. 4 ต.ค.-“อนุทิน” รมว.มหาดไทย กำชับไฟฟ้าและเครือข่ายมหาดไทย กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สื่อสารเชิงรุกให้ครัวเรือนมีผู้ป่วยติดเตียงจำเป็นต้องใช้เครื่องมือแพทย์ทราบเกณฑ์ช่วยเหลือ ไม่ตัดไฟกรณีค้างชำระค่าไฟฟ้า

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล โฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า หลังจากวานนี้ (3 ต.ค. 67) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ให้ผู้ว่าการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีที่มีข้อวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการงดจ่ายกระแสไฟฟ้า (ตัดไฟ) บ้านประชาชนใน อ.วังยาง จ.นครพนมเป็นสาเหตุการเสียชีวิตของผู้ป่วยติดเตียง ทางผู้ว่าการ กฟภ. ได้จัดทำรายงานข้อเท็จจริงมายังกระทรวงมหาดไทย รวมถึงชี้แจงผ่านสื่อมวลชนให้ประชาชนเข้าใจขั้นตอนดำเนินการต่างๆ แล้ว และทาง กฟภ. ได้มอบเงินช่วยเหลือให้แก่ญาติผู้เสียชีวิตเบื้องต้น ขณะที่ทางญาติก็มีความเข้าใจถึงการปฏิบัติหน้าที่ตามระเบียบขั้นตอนและไม่ติดใจกับการงดจ่ายไฟของ กฟภ.


อย่างไรก็ตาม แม้ตามรายงานการตรวจสอบข้อเท็จจริงของ กฟภ. จะพบว่าช่วงเวลาที่ผู้ป่วยเสียชีวิตนั้นไม่ใช่ช่วงที่มีการงดจ่ายไฟ และไม่อาจระบุได้ว่าการงดจ่ายไฟเป็นสาเหตุของการเสียชีวิต แต่นายอนุทิน ก็ยังคงมีความห่วงใยครอบครัวเปราะบางที่มีผู้ป่วยติดเตียง จำเป็นต้องใช้ไฟฟ้าสำหรับอุปกรณ์การแพทย์ตลอดเวลา ที่ไม่ควรมีความเสี่ยงใดๆ จากบริการสาธารณูปโภคพื้นฐานเช่นกรณีของไฟฟ้า

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ด้วยปัจจุบันทาง กฟภ. ได้มีเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือไม่ตัดกระแสไฟฟ้ากับสถานที่หรือบ้านที่มีผู้ป่วยที่ต้องใช้ไฟฟ้าในการเดินเครื่องมือทางการแพทย์เพื่อการรักษาพยาบาลอยู่แล้ว นายอนุทินจึงกำชับให้ทั้ง กฟภ. รวมทั้งเครือข่าย กลไกของกระทรวงมหาดไทยที่มีความใกล้ชิดกับประชาชนอย่างมากอย่างอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ให้ช่วยกันประชาสัมพันธ์เชิงรุกให้ครอบครัวที่มีผู้ป่วยที่ต้องใช้อุปกรณ์การแพทย์ต่างๆ รู้ถึงเกณฑ์การช่วยเหลือที่ กฟภ.มีให้ เพราะปัจจุบันอาจจะมีประชาชนทราบเกณฑ์นี้ในวงจำกัด


“เมื่อทางการไฟฟ้ามีมาตรการช่วยเหลือครัวเรือนที่มีผู้ป่วยอยู่แล้ว ท่าน มท.1 จึงกำชับเครือข่ายของกระทรวงมหาไทยที่ใกล้ชิดประชาชนช่วยกันเป็นกระบอกเสียง ประชาสัมพันธ์บอกเล่า ให้ครอบครัวที่มีผู้ป่วยทราบถึงสิทธิตรงนี้ และเรื่องนี้ต้องทำให้เป็นความรู้ในวงกว้าง เนื่องจากประเทศไทยเป็นสังคมสูงอายุมีแนวโน้มที่จะมีผู้ป่วยติดเตียงมากขึ้นๆ” น.ส.ไตรศุลี กล่าว

สำหรับหลักเกณฑ์ยกเว้นการงดจ่ายไฟฟ้า หรือไม่ตัดกระแสไฟฟ้า ของ กฟภ. ในปัจจุบันนั้น ผู้ใช้ไฟที่มีผู้ป่วยในบ้านสามารถติดต่อลงทะเบียนที่สำนักงานของ กฟภ. ในพื้นที่ทุกแห่ง โดยมีเอกสารสำหรับลงทะเบียน ได้แก่ 1) บัตรประจำตัวประชาชนของผู้ใช้ไฟฟ้า 2) บัตรประจำตัวประชาชนของผู้ป่วย หรือสำเนา 3)ใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาล มีอายุไม่เกิน 1 เดือน ที่ระบุว่าผู้ป่วยที่ต้องใช้ไฟฟ้าในการเดินเครื่องมือทางการแพทย์เพื่อการรักษาพยาบาล 4) หลักฐานแสดงสถานที่ใช้ไฟฟ้า เช่น ใบเสร็จรับเงินค่าไฟฟ้า หรือสัญญาซื้อขายไฟฟ้าหรือสำเนาทะเบียนบ้านสถานที่ใช้ไฟฟ้า 5)ในกรณีที่มอบอำนาจให้ผู้อื่นมาดำเนินการแทน ต้องมีหลักฐานแสดงตัวของผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจ

โดยทาง กฟภ. จะให้ยื่นลงทะเบียนเพื่อรักษาสิทธิต่อเนื่องภายในวันที่ 31 มกราคม ของทุกปี และในกรณีไม่มีความจำเป็นต้องใช้ไฟฟ้าในการเดินเครื่องมือทางการแพทย์แล้ว จะต้องแจ้งยกเลิกกับกฟภ. ภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่สิ้นสุดความจำเป็น


อย่างไรก็ตาม กฟภ. จะยกเลิกสิทธิในกรณี ดังนี้ได้ 1)ค้างชำระค่าไฟฟ้ารวมกัน 3 เดือน 2)ตรวจพบการกระทำโดยมิชอบ/การละเมิดการใช้ไฟฟ้า 3)แจ้งข้อมูลอันเป็นเท็จ หรือ 4) ตรวจพบผู้ป่วยยกเลิกการใช้เครื่องมือทางการแพทย์ แต่ไม่มีการแจ้งยกเลิกกับ กฟภ..-317.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

แม่คะนิ้งโผล่ภูกระดึง เตรียมเปิดอุทยานฯ พรุ่งนี้

จังหวัดเลย อุณหภูมิลดลง 1-2 องศาฯ “แม่คะนิ้ง” โผล่ภูกระดึง เตรียมเปิดให้ท่องเที่ยวพรุ่งนี้ (23 ธ.ค.) หลังปิดมา 9 วัน จากเหตุช้างป่า

อุตุฯ เผยไทยตอนบน อุณหภูมิขยับลงอีก 1-2 องศาฯ

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศหนาวเย็นกับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลงอีก 1 – 2 องศาฯ ยอดดอยและยอดภูหนาวจัด มีน้ำค้างแข็งบางแห่ง

ยิงพรานล่าหมูป่า

เพื่อนรับเป็นคนยิงนายพรานวัย 52 อ้างคิดว่าเป็นหมูป่า

เพื่อนเปิดปากรับสารภาพเป็นคนใช้อาวุธปืนยิงนายพรานวัย 52 ปี เสียชีวิตในสวนผลไม้ อ้างคิดว่าเป็นหมูป่า ยืนยันไม่ได้มีปัญหาหรือมีเรื่องกันมาก่อน