ศึกษา SEA โรงไฟฟ้าใต้เพิ่งได้งบฯ คาดศึกษาเสร็จ ส.ค.62

กรุงเทพฯ 7 ก.ย. – ผลศึกษา SEA โรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่-เทพา คาดเสร็จกลางปีหน้า ส่วนศึกษาครบ 15 จังหวัด เสร็จสิ้น ส.ค. 62 แม้ล่าช้ากว่าเอ็มโอยูร่วมกับภาคประชาชนก็หวังจะเข้าใจ 



นางสาวนันธิกา ทังสุพานิช รองปลัดกระทรวงพลังงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการกำกับการศึกษาการประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์ (SEA) สำหรับพื้นที่จัดตั้งโรงไฟฟ้าถ่านหินในภาคใต้ แถลงว่า ทางคณะกรรมการฯ เพิ่งจะได้รับอนุมัติเงินจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน หรือ สกพ. 50 ล้านบาท เพื่อว่าจ้างผู้เข้ามาศึกษาโครงการ จึงทำให้การศึกษาล่าช้ากว่าข้อตกลงร่วมระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานและกลุ่มผู้คัดค้านและเห็นด้วยกับการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินภาคใต้ที่ลงนามไว้เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2561 ที่เดิมคาดว่าจะศึกษาเสร็จเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งเป็นปัญหาเรื่องงบประมาณ ก็คาดหวังว่าภาคประชาชนจะมีความเข้าใจ


โดยการดำเนินการขณะนี้  สกพ.ได้ออกประกาศ ให้ผู้มีสิทธิ์ยื่นข้อเสนอ ซึ่งผู้มีสิทธิ์ยื่นขอรับการจัดสรร จะต้องเป็นนิติบุคคลจัดตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย ได้แก่ หน่วยงานของรัฐ สถาบันการศึกษา และองค์กรไม่แสวงหากำไร (รายละเอียดประกาศ ข้อกำหนด TOR แบบฟอร์มข้อเสนอโครงการฯ ที่ www.energy.go.th) และกระทรวงพลังงานจะเปิดชี้แจง TOR วันที่ 14 กันยายนนี้ และกำหนดระยะเวลาให้ผู้ที่สนใจยื่นข้อเสนอ ภายใน 3 สัปดาห์ (ระหว่างวันที่ 17 กันยายน 2561 ถึง 5 ตุลาคม 2561) คาดว่าจะคัดเลือกและลงนามได้ภายในเดือนพฤศจิกายน  โดยต้องศึกษา SEA ทั้ง 15 จังหวัด กำหนดศึกษาเสร็จภายในเวลา 9 เดือน หรือ ประมาณสิงหาคมปี 2562 ยกเว้นพื้นที่กระบี่และเทพาจะต้องได้คำตอบภายใน 5 เดือน หรือประมาณ เมษายนปี 2562 

“ใน 5 เดือนแรก คำตอบสำหรับกระบี่และเทพาผู้ศึกษาต้องหาคำตอบให้ได้ว่าในพื้นที่ภาคใต้ต้องมีโรงไฟฟ้าฐานเพิ่มหรือไม่ ถ้ามีต้องมีโรงไฟฟ้าถ่านหินหรือ มีโรงไฟฟ้าทางเลือกอื่น ๆ โดยที่ผ่านมา คณะกรรมการได้พยายามเร่งดำเนินการ แต่เมื่อติดขัดเรื่องงบประมาณ ก็ขอให้ภาคประชาชนเข้าใจ”นางสาวนันธิกา กล่าว

นายดนุชา พิชยนันท์ รองเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ในฐานะประธานร่วมฯ ชี้แจงเพิ่มเติมว่าคณะกรรมการฯ ได้กำหนดเกณฑ์พิจารณาคัดเลือกผู้ยื่นข้อเสนอโครงการที่มีความเหมาะสมมากที่สุด เพื่อนำไปสู่จุดเริ่มต้นการคลี่คลายสถานการณ์ที่มีข้อขัดแย้งต่อพื้นที่จัดตั้งโรงไฟฟ้าถ่านหินในภาคใต้ของประชาชนแต่ละกลุ่มอย่างรอบคอบ ยึดหลักดำเนินการด้วยความเป็นกลาง ตามหลักวิชาการที่ได้รับการยอมรับ และจะวางกรอบการดำเนินงานเพื่อความมั่นคงด้านพลังงานในพื้นที่ภาคใต้ระยะยาว โดยยึดหลักให้มีการเปิดเผยข้อมูลอย่างโปร่งใส ประชาชนสามารถตรวจสอบได้ จึงขอให้ประชาชนเชื่อมั่นในการดำเนินการของคณะกรรมการฯ ในครั้งนี้ 


นายธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และกรรมการ SEA กล่าวว่า ครั้งนี้นับว่าเป็นการทำ SEA ที่รับฟังความเห็นจากประชาชนในพื้นที่อย่างแท้จริง โดยความต้องการใช้ไฟฟ้าภาคใต้ยอมรับว่าขยายตัว เพราะนักท่องเที่ยวเพิ่มสูงขึ้น แต่ความต้องการขยายตัวเป็นจุด ๆ  ดังนั้น จะผลิตเพื่อ FEED ไฟฟ้าเป็นจุด ๆ ได้หรือไม่ โดยความเห็นส่วนตัวแล้วเชื้อเพลิงถ่านหินเป็นเชื้อเพลิงที่ OUT  ไปแล้ว ประกอบกับประเทศไทยต้องดำเนินการตามข้อตกลงวปารีส ลดสภาวะโลกร้อน  การใช้เชื้อเพลิงก็ควรเน้นเชื้อเพลิงสะอาด โดยควรใช้ก๊าซธรรมชาติ ดีกว่า

นายมนูญ ศิริวรรณ  กรรมการ SEA  กล่าวว่า หากดูความต้องการใช้ไฟฟ้าในภาคใต้กำลังการผลิตจากโรงไฟฟ้าหลักมีเพียงโรงไฟฟ้าจะนะ และโรงไฟฟ้าขนอม กำลังผลิตประมาณ 2,400 เมกะวัตต์  เมื่อรวมกับโรงไฟฟ้าอื่น ๆ ก็มีกำลังผลิตรวม 2,788 เมกะวัตต์ ขณะที่ความต้องการใช้ไฟฟ้าขยายตัวใกล้ปีที่แล้วมีความต้องการถึง 2,624 เมกะวัตต์  ขณะนี้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทศ (กฟผ.) ก่อสร้างสายส่งไฟฟ้าจากภาคกลางลงไปภาคใต้ สามารถรองรับความต้องการได้อีก 7 ปี แต่คำถามคือมีความมั่นคงมากน้อยเพียงใด  และในพื้นที่ต้องการมีโรงไฟฟ้าในพื้นที่ เพื่อพึ่งพาตนเองหรือไม่ ซึ่งต้องหาคำตอบนี้ ขณะเดียวกันนอกจากความมั่นคงก็ต้องดูต้นทุนเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าด้วย ซึ่งที่ปรึกษาต้องให้ข้อมูลแก่ประชาชนรอบด้าน และให้ประชาชนในพื้นที่เลือกว่าจะตัดสินใจในรูปแบบใด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชนแล้วหนี! 2 หนุ่มกลัวถูกจับดึงสลักระเบิดดับ

2 หนุ่มชนแล้วหนี โบกรถมาขึ้นสามล้อเครื่อง ตำรวจตามกระชั้นชิด ตัดสินใจดึงสลักระเบิด แต่สะดุดล้มระเบิดตูมสนั่นดับ 1 ส่วนอีกคน ถูกจับโดยละม่อม

“ไบเดน” เปิดทำเนียบขาวต้อนรับ “ทรัมป์” ถกถ่ายโอนอำนาจ

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐเปิดห้องทำงานรูปไข่ในทำเนียบขาวหารือนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดี ซึ่งต่างให้คำมั่นการถ่ายโอนอำนาจจะเป็นไปอย่างราบรื่นที่สุด

“อี้ แทนคุณ” เผยคดีใหม่ “ฟิล์ม” ชวนลงทุนคล้าย forex เสียหายกว่า 60 ล้าน

“อี้ แทนคุณ” เผยคดีใหม่ “ฟิล์ม รัฐภูมิ” ชักชวนลงทุนในดูไบ คล้าย forex ความเสียหายกว่า 60 ล้านบาท ขณะที่อีกฝ่ายอ้างนำเงินไปลงทุนจริงแต่ขาดทุน

ข่าวแนะนำ

พะยูนตัวแรกของฤดูกาลท่องเที่ยวโผล่

นับตั้งแต่เปิดฤดูกาลท่องเที่ยว 1 ตุลาคมที่ผ่านมา เพิ่งพบพะยูนบริเวณหน้าเกาะลิบง จังหวัดตรัง เป็นตัวแรก สร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวอย่างมาก

“เจ๊พัช” ขอโทษรัฐมนตรีน้ำ ยืนยันไม่รู้จักส่วนตัว

“กฤษอนงค์” โพสต์ขออภัยรัฐมนตรีน้ำและคุณพ่อ ปมคลิปเสียงแอบอ้าง พร้อมขอน้อมรับผิดไว้แต่เพียงผู้เดียว แจงเป็นการสนทนาแนวทางส่งเสริมอาชีพเท่านั้น

“หนุ่ม กรรชัย” งดเคลียร์ “ฟิล์ม” ย้ำดำเนินคดีถึงที่สุด

“หนุ่ม กรรชัย” ประกาศตัดสัมพันธ์ “ฟิล์ม รัฐภูมิ” ย้ำดำเนินคดีถึงที่สุด งดเคลียร์ ซัดเป็นคนไร้ศักดิ์ศรี ชี้เรื่องนี้ไม่ต้องเตือน ให้ย้อนไปดูที่บ้านได้สั่งสอนหรือไม่