“สมคิด” ระบุเลิกจับตาชีพจรเศรษฐกิจ

รร.สวิสโฮเทล 24 ส.ค. – รองนายกรัฐมนตรีย้ำรักษาระดับขับเคลื่อนเศรษฐกิจ มุ่งเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลเศรษฐกิจ แนะเลือกตั้งใครก็ได้แต่อย่ามีปัญหา เร่งพาต่างชาติเข้ามาลงทุน


นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวในงานปาฐกถาพิเศษ “จับตาชีพจรเศรษฐกิจไทย”  จัดโดยหนังสือพิมพ์แนวหน้า ว่า การเติบโตของเศรษฐกิจไทยครึ่งปีแรกขยายตัวร้อยละ  4.8 นับว่าจีดีพีเติบโตต่อเนื่อง จึงไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องการจับชีพจรเรื่องใด ๆ แล้ว เพราะพื้นฐานดีขึ้นทุกปัจจัย  มองว่าสถานการณ์ภายนอกประเทศสงครามการค้าสหรัฐกับจีนไม่น่าจะใช่ปัญหาใหญ่ส่งผลกระทบต่อไทย แต่ปัญหาสำคัญการเมืองภายในประเทศเลือกตั้งใครจะเข้ามาบริหารประเทศก็ได้ แต่ต้องไม่มีปัญหาขัดแย้ง ควรเลิกการเมืองไทยแบบการแย่งอำนาจกัน สาดโคลน กระแนะกระแหนกัน จึงต้องสร้างคนรุ่นใหม่เข้ามาช่วยพัฒนาประเทศ  

นายสมคิด กล่าวว่า จากนี้ไปต้องก้าววิ่งแข่งกับประเทศอื่น ด้วยการวางรากฐาน ปฎิรูปประเทศ  การลดปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคม การประคับประคองเศรษฐกิจให้ขับเคลื่อนอยู่ในระดับเดิม  การเปลี่ยนผ่านไปสู่เศรษฐกิจดิจิทัล  การสร้างความเชื่อมั่นต่อการบริหารนโยบายเศรษฐกิจให้เกิดความเชื่อมั่นจากต่างชาติ  เพราะขณะนี้เป็นโอกาสสำคัญของไทย เนื่องจากต่างชาติให้ความสนใจเข้ามาลงทุนอย่างมาก โดยขณะนี้จีนเดินทางมาดูลู่ทางการลทุนกว่า 400 บริษัท  เพราะสนใจลงทุนในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ( EEC) ไทยจึงขอขยับเทียบชั้นสิงคโปร์ มุ่งพัฒนาอาเซียนด้วยกัน ไม่แข่งขันกัน แต่เสริมกำลังให้กับอาเซียน


นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า อาเซียนกำลังกลายเป็นจุดโฟกัสของกลุ่มประเทศที่มีพลังต่อรองทางเศรษฐกิจ นับว่าไทยมีสภาพทางภูมิศาสตร์อยู่ตรงศูนย์กลางของภูมิภาค จึงเป็นจุดยุทธศาสตร์ทางด้านโลจิสติกส์สำคัญ  เมื่อรัฐบาลบรรเทาปัญหากรรมสิทธิ์ที่ทำกิน โครงการพักหนี้เกษตรกรและฟื้นฟูเอสเอ็มอี  โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อช่วยเศรษฐกิจฐานราก จากนี้ไปจะขับเคลื่อนการปรับเปลี่ยนประเทศด้วยการสร้างฐานความเจริญใหม่  การเพิ่มศักยภาพการแข่งขัน และการผลักดันความเจริญให้กระจายอย่างทั่วถึงและครอบคลุม 

ทั้งนี้ ต้องเร่งเดินหน้าสร้างรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ช่วงกรุงเทพฯ – นครราชสีมา จะประมูลทุกสัญญาภายในปีนี้ โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่  9 เส้นทาง รวมระยะทาง 2,174 กิโลเมตร เปิดประมูลทั้งหมดต้นปี 2562 โครงการเน็ตประชารัฐ  ให้ชุมชนเข้าถึงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในเฟสแรกติดตั้งครบทั้ง  24,700 หมู่บ้านแล้ว และกำลังจะเปิดเฟส 2 ที่จะขยายไปอีก 15,732 หมู่บ้านให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น การสร้างฐานความเจริญใหม่ รัฐบาลยังมุ่งเน้นการปรับโครงสร้างภาคธุรกิจ ทั้งในภาคการผลิต ภาคการค้า และภาคบริการไปสู่ยุคอุตสาหกรรม 4.0  อุตสาหกรรมยานยนต์อนาคต หรือ รถไฟฟ้า โดยในปัจจุบัน มีค่ายรถที่ขอรับการส่งเสริมการลงทุนการผลิตรถไฟฟ้ารูปแบบต่าง ๆ เช่น Plug in Hybrid หรือ แบตเตอรี่จาก BOI และได้รับการอนุมัติแล้ว 5 ราย มูลค่าการลงทุนรวมกว่า 40,000 ล้านบาท ประกอบด้วย TOYOTA NISSAN HONDA BMW และ BENZ


ส่วนการพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ หรือ Bio-Economy  ลงทุนภายใน 10 ปี มูลค่า  380,000 ล้านบาท ใช้วัตถุดิบในพื้นที่อย่างอ้อย มันสำปะหลัง ปาล์ม เพื่อผลิตเอทานอล กรดแลคติดสำหรับขั้นกลาง ไปสู่ขั้นปลายอย่างเม็ดพลาสติก ยา วัคซีน บรรจุภัณฑ์ เป็นต้น  โดย 3 จังหวัดนำร่องจะเริ่มพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างกับโครงการ Bio Complex และ Bio refine จ.นครสวรรค์ ที่จะเห็นการลงทุนภายใน 5 ปี มูลค่า 40,000 ล้านบาท จากกลุ่มนักลงทุน ปตท. มิตซุยเคมิคอล จ.กำแพงเพชร มูลค่าการลงทุน 8,000 ล้านบาท จากกลุ่มนักลงทุนรายใหญ่ในท้องถิ่น และภาคอีสานตอนกลาง จ.ขอนแก่น ที่จะมีแผนการลงทุนจากภาคเอกชนจากกลุ่มมิตรผล และพาทเนอร์ อย่างบริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด เป็นต้น จะเห็นการลงทุนภายใน 5 ปี มูลค่า 30,000 ล้านบาท

 รัฐบาลได้พิจารณากำหนดอุตสาหกรรมเป้าหมายเพิ่ม ล่าสุดได้แก่การส่งเสริมอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจหมุนเวียน หรือ Circular economy เพื่อรักษาและเพิ่มประสิทธิภาพทุนด้านทรัพยากรธรรมชาติ และใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุดด้วยการหมุนเวียนวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์ ซึ่งปัจจุบัน หลายประเทศทั่วโลกกำลังปรับตัวเข้าสู่ Circular Economy ด้วยความหวังที่จะแก้วิกฤติทรัพยากรที่เกิดขึ้น โดยกระทรวงอุตสาหกรรมจะทำแผนการพัฒนาและมาตรการในการส่งเสริมอุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่นี้เข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีเพิ่มเติมในเร็ว ๆ นี้. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นร.หญิง ม.1 จมทะเลดับ หลังโรงเรียนพาไปทัศนศึกษาที่ระยอง

โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งใน จ.นครราชสีมา พานักเรียนไปทัศนศึกษาที่ จ.ระยอง นักเรียนหญิง ม.1 ถูกคลื่นดูดลงทะเลขณะเล่นน้ำ เสียชีวิต พ่อแม่สุดเศร้าสูญเสียลูกสาวคนเดียวของครอบครัว

น้ำท่วมเชียงใหม่

เชียงใหม่จมบาดาล น้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์

น้ำท่วมในตัวเมืองเชียงใหม่ ยังวิกฤติ หลังน้ำในลำน้ำปิงขึ้นสูงสุดทรงตัวสูงกว่า 5.30 เมตร ซึ่งสูงที่สุดตั้งแต่มีการวัดระดับน้ำปิง

น้ำท่วมขนส่งเชียงใหม่กระทบผู้โดยสาร เปิดจุดจอดรับ-ส่งชั่วคราว

น้ำขยายวงกว้างเข้าท่วมสถานีขนส่งเชียงใหม่แห่งที่ 2 และ 3 เต็มพื้นที่ ระดับน้ำสูงเกือบ 50 ซม. ผู้ประกอบการขนส่งต้องนำรถทัวร์โดยสารออกมาจอดรับ-ส่งบนถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ ยืนยันผู้ประกอบการยังให้บริการตามปกติ

ระทึก! แท็กซี่พลิกคว่ำเกิดเพลิงไหม้ 5 ชีวิตรอดหวุดหวิด

รถแท็กซี่พลิกคว่ำและเกิดเพลิงลุกไหม้กลางถนนพระราม 9 ผู้โดยสารหญิงสติดีถีบประตูช่วยตัวเองและคนอื่นออกมาจากตัวรถรวม 5 ชีวิตได้ทัน แต่ในจำนวนนี้บาดเจ็บสาหัส 1 คน เป็นคนขับแท็กซี่ ตำรวจเร่งสอบสวนหาสาเหตุ

ข่าวแนะนำ

ไทยตอนบนฝนน้อย-อีสานอากาศเย็นตอนเช้า

กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยตอนบนมีฝนน้อย โดยภาคอีสานมีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 20%

กต.ย้ำมีแผนพร้อมอพยพคนไทยในอิสราเอล-เลบานอน

กต.ประชุมประเมินสถานการณ์อิสราเอล-ฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน ย้ำมีแผนอพยพพร้อม เผย 5 แรงงานไทยเตรียมเดินทางกลับ แนะประชาชนตัดสินใจก่อนน่านฟ้าปิด

เตรียมตั้ง 7 เตาไฟฟ้า พิธีพระราชทานเพลิงศพ นร.-ครู 23 คน

เตรียมพื้นที่ตั้ง 7 เตาไฟฟ้า กลางสนามโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม จ.อุทัยธานี ในพิธีพระราชทานเพลิงศพ นักเรียน-ครู 23 คน เหยื่อไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา วันที่ 8 ต.ค.นี้

เชียงใหม่ยังอ่วม เจอน้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์

แม้ระดับน้ำปิงที่ทะลักท่วมตัวเมืองเชียงใหม่เริ่มลดลง จากที่เคยขึ้นสูงสุดถึง 5.30 เมตร ซึ่งถือว่าสูงที่สุดเท่าที่เคยวัดระดับมา จนทำให้เชียงใหม่เผชิญกับน้ำท่วมครั้งใหญ่สุดเป็นประวัติการณ์ บ้านเรือนหลายพันหลังและย่านการค้ายังจมน้ำ บางจุดยังท่วมสูงกว่า 2 เมตร ยังต้องเร่งอพยพผู้คนออกจากพื้นที่น้ำท่วม หลายคนต้องใช้ชีวิตอยู่ในรถที่จอดบนสะพาน