กรุงเทพฯ 20 ส.ค. – กรมส่งเสริมสหกรณ์สั่งเร่งสำรวจสมาชิกสหกรณ์ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม พร้อมจัดสรรเงินกองทุนพัฒนาสหกรณ์ 300 ล้านบาท ให้กู้ยืมไปฟื้นฟูอาชีพหลังน้ำลด
นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวว่า สถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือ โดยเฉพาะจังหวัดน่าน แพร่ และพะเยา รวมถึงเพชรบุรี ทำให้สมาชิกสหกรณ์ในพื้นที่ดังกล่าวได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากน้ำท่วมบ้านเรือนและพื้นที่ทำการเกษตรได้รับความเสียหาย ส่งผลกระทบต่อการประกอบอาชีพและรายได้ จึงได้สั่งการให้สหกรณ์จังหวัดในพื้นที่ประสบอุทกภัยเร่งสำรวจผลกระทบที่เกิดขึ้นกับสหกรณ์และสมาชิกสหกรณ์ในพื้นที่ประสบภัยว่ามีสหกรณ์ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมกี่แห่ง จำนวนสมาชิกสหกรณ์ได้รับความเดือดร้อนกี่ครอบครัว และพื้นที่การเกษตรของสมาชิกสหกรณ์ได้รับความเสียหายจำนวนเท่าไหร่ เพื่อจะให้ความช่วยเหลือสมาชิกที่ได้รับความเดือดร้อนได้อย่างทั่วถึง
นายพิเชษฐ์ กล่าวว่า กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้เตรียมมาตรการบรรเทาความเดือดร้อนให้กับสมาชิกสหกรณ์ผู้ประสบอุทกภัย โดยเฉพาะปัญหาภาระหนี้สินที่ได้กู้ยืมจากสหกรณ์ไปลงทุนประกอบอาชีพ เบื้องต้นจะขอความร่วมมือจากสหกรณ์พิจารณาลดดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อช่วยเหลือในยามที่สมาชิกสหกรณ์ขาดรายได้เนื่องจากพื้นที่ประกอบอาชีพการเกษตรเสียหายจากน้ำท่วม ซึ่งอาจจะลดดอกเบี้ยเงินกู้ลงเป็นระยะเวลา 3-6 เดือน เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้สมาชิกเป็นการช่วยเหลือที่สหกรณ์สามารถทำได้โดยตรงกับสมาชิกของสหกรณ์เอง
ขณะนี้กรมฯ เตรียมมาตรการฟื้นฟูอาชีพหลังน้ำลดแก่สมาชิกสหกรณ์ โดยจัดสรรเงินกองทุนพันฒนาสหกรณ์ 300 ล้านบาท เป็นเงินกู้ปลอดดอกเบี้ยให้สหกรณ์กู้ยืมเพื่อนำไปช่วยเหลือสมาชิกฟื้นฟูอาชีพ ซึ่งจะเน้นอาชีพระยะสั้นที่สร้างรายได้เร็ว โดยให้สหกรณ์จังหวัดสำรวจสหกรณ์ที่มีความต้องการกู้ยืมเงินจากกองทุนพัฒนาสหกรณ์ พร้อมทั้งจัดทำแผนฟื้นฟูอาชีพฯ สมาชิกสหกรณ์หลังน้ำลด นอกจากนี้ ยังเตรียมแผนการตลาด เพื่อจำหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์ของสมาชิกสหกรณ์ในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม โดยจะใช้ช่องทางจำหน่ายผ่านความช่วยเหลือกันระหว่างเครือข่ายสหกรณ์ และช่องทางอื่น ๆ โดยกรมฯ พร้อมจะช่วยประสานงานกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในการเข้าไปดูแลให้การช่วยเหลือ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรและสมาชิกสหกรณ์ที่ประสบภัยน้ำท่วมให้สามารถดำเนินชีวิตและประกอบอาชีพตามปรกติโดยเร็ว.-สำนักข่าวไทย
