ปาเลา 20 ส.ค.- ปาเลา ประเทศหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิกกำลังประสบปัญหาการท่องเที่ยวซบเซา โรงแรมร้างผู้คน เรือท่องเที่ยวจอดนิ่ง บริษัทท่องเที่ยวปิดตัว หลังจากจีนสั่งห้ามการท่องเที่ยวแบบหมู่คณะตั้งแต่ปลายปีก่อน
ปาเลาเป็นประเทศล่าสุดที่ได้รับผลกระทบจากการอยู่ระหว่างกลางข้อพิพาทการทูตไต้หวัน-จีน จีนประกาศให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวผิดกฎหมายเพราะไม่มีสถานะทางการทูตกับจีน เจ้าหน้าที่และนักธุรกิจปาเลามองว่า ปาเลาซึ่งเป็นหนึ่งใน 18 ประเทศที่มีความสัมพันธ์ทางการทูตกับไต้หวันถูกกดดันให้แปรพักตร์ในยามที่จีนแผ่อิทธิพลทั่วมหาสมุทรแปซิฟิก เจ้าของโรงแรมในเมืองคอรอร์ อดีตเมืองหลวงของปาเลาเผยว่า คนที่นี่พูดกันว่าจีนใช้การท่องเที่ยวเป็นอาวุธด้วยการปล่อยให้รายได้ในรูปของดอลลาร์สหรัฐเข้ามาแล้วก็ถอนออกไป หวังบีบให้หันมามีความสัมพันธ์ทางการทูต
ข้อมูลอย่างเป็นทางการเผยว่า ก่อนจีนสั่งห้ามการท่องเที่ยวเป็นหมู่คณะไปปาเลา นักท่องเที่ยวต่างชาติครึ่งหนึ่งเป็นชาวจีน ยอดนักท่องเที่ยว 122,000 คนเมื่อปี 2560 เป็นชาวจีนแผ่นดินใหญ่ถึง 55,000 คน และเป็นชาวไต้หวัน 9,000 คน นอกจากนี้นักลงทุนจีนยังเข้ามากวาดซื้อและสร้างโรงแรม เปิดธุรกิจ และกว้านซื้อที่ดินทำเลดีริมทะเลรองรับนักท่องเที่ยวของประเทศตนเอง สายการบินปาเลาแปซิฟิกแอร์ไลน์ของไต้หวันแจ้งเมื่อเดือนกรกฎาคมว่า จะยกเลิกเที่ยวบินจากปาเลาไปจีนตั้งแต่สิ้นเดือนนี้เพราะยอดผู้โดยสารลดลงถึงครึ่งหนึ่ง
ประธานาธิบดีทอมมี เรเมนเกเซา จูเนียร์ ของปาเลาเผยกับรอยเตอร์ว่า ยังไม่มีการติดต่ออย่างเป็นทางการจากจีนเรื่องจำกัดการท่องเที่ยวปาเลา จีนไม่ปิดบังท่าทีที่อยากให้ปาเลาและประเทศที่มีความสัมพันธ์ทางการทูตกับไต้หวันเปลี่ยนไปรับรองจีน แต่ไม่ใช่หน้าที่ของปูเลาที่จะต้องเลือกเรื่องหลักการจีนเดียว นายเรเมนเกเซาซึ่งจะครบวาระสมัยที่สองในเดือนมกราคม 2564 เผยว่า ยินดีต้อนรับการลงทุนและการท่องเที่ยวจากจีน แต่รัฐบาลชุดปัจจุบันมีหลักการและแนวคิดประชาธิปไตยสอดคล้องกับไต้หวันมากกว่า รัฐบาลกำลังแก้ปัญหานักท่องเที่ยวหดหายด้วยการมุ่งเน้นนักท่องเที่ยวใช้จ่ายสูงต่อคนมากกว่านักท่องเที่ยวแบบหมู่คณะ.- สำนักข่าวไทย