กรุงเทพฯ 4 ส.ค.- ปภ.สั่งการ 47 จังหวัดเตรียมพร้อมรับภัยจากฝนตกหนักและคลื่นลมแรง ช่วง 5 – 8 ส.ค.นี้ พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด จัดชุดเคลื่อนที่เร็วประจำพื้นที่เสี่ยงภัย ขอประชาชนในพื้นที่เสี่ยงปฏิบัติตามคำเตือนอย่างเคร่งครัด
นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ในฐานะผู้อำนวยการกลางกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) เปิดเผยว่า ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งว่า ในช่วงวันที่ 5 – 8 สิงหาคม 2561 ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ พัดปกคลุมอ่าวไทย จะมีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้ทุกภาคมีฝนตกเพิ่มขึ้น และอาจมีฝนตกหนักบางพื้นที่ อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และดินโคลนถล่ม คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนจะมีกำลังแรง คลื่นสูง 2-4 เมตร
นายชยพล กล่าวว่า บก.ปภ.ช.จึงได้สั่งการให้จังหวัดเสี่ยงภัย แยกเป็น ภาคเหนือ 13 จังหวัด ได้แก่ แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง ตาก พะเยา แพร่ น่าน กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 14 จังหวัด ได้แก่ เลย หนองคาย อุดรธานี บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ชัยภูมิ อำนาจเจริญ ร้อยเอ็ด ยโสธร และอุบลราชธานี ภาคกลาง 11 จังหวัด ได้แก่ กาญจนบุรี ราชบุรี นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ ภาคใต้ 9 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล รวมถึง ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัย เตรียมรับมือฝนตกหนัก และคลื่นลมแรง
“ได้จัดเจ้าหน้าที่และมิสเตอร์เตือนภัยติดตามอย่างใกล้ชิด จัดเตรียมชุดเคลื่อนที่เร็ว เครื่องมืออุปกรณ์ประจำพื้นที่เสี่ยง ให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมทั้ง แจ้งเตือนประชาชนให้ระมัดระวังอันตรายจากสถานการณ์ภัยในช่วงฝนตกหนัก และให้จังหวัดประสานการปฏิบัติกับหน่วยทหารในพื้นที่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานและเครือข่ายอาสาสมัครทุกภาคส่วนอย่างใกล้ชิด” นายชยพล กล่าว
นายชยพล กำชับให้เตรียมความพร้อมด้านสรรพกำลัง เครื่องจักรกลสาธารณภัย และจัดชุดเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ตลอดจนจัดชุดเคลื่อนที่เร็วประจำพื้นที่เสี่ยงภัย เพื่อให้เข้าถึงพื้นที่เกิดเหตุ และให้ความช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง หากสถานการณ์รุนแรง ให้พิจารณาอพยพประชาชนไปยังพื้นที่ปลอดภัย ตามแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และขั้นตอนการปฏิบัติที่กำหนด กรณีเกิดฝนตกหนักในพื้นที่เสียงภัยดินโคลนถล่ม ให้แจ้งเตือนประชาชนทราบถึงความเสี่ยงอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน และชี้แจงถึงความจำเป็นในการต้องอพยพประชาชนไปอยู่ในจุดที่ปลอดภัย หากสถานการณ์รุนแรงเกินศักยภาพที่จังหวัดสามารถรับมือสถานการณ์ภัยได้ ให้แจ้งกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ เพื่อประสานให้การช่วยเหลือประชาชนโดยด่วน
นายชยพล กล่าววว่า สำหรับพื้นที่เสียงคลื่นลมแรง ให้ประสานหน่วยงานเจ้าท่าประมง และตำรวจน้ำออกลาดตระเวนแจ้งเตือนการเดินเรือทุกประเภท ให้เดินเรือด้วยความระมัดระวังและงดการเดินเรือ หากทะเลมีคลื่นสูงและกำลังแรง รวมถึงเน้นย้ำให้มีการตรวจสภาพความพร้อมและความปลอดภัย ก่อนออกเรือทุกครั้ง
สำหรับประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย ขอให้ติดตามพยากรณ์อากาศและประกาศเตือนภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมปฏิบัติตามคำเตือนอย่างเคร่งครัด สามารถติดต่อแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือได้ที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสาขาในพื้นที่ หรือสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป .- สำนักข่าวไทย