สำนักข่าวไทย 3 ส.ค.-ทนายความข้าราชการ พศ. เตรียมยื่นอุทธรณ์รอบ2 ต่อศาลอาญา ทุจริตและประพฤติมิชอบกลางวันจันทร์หน้า หลังเข้าเยี่ยมบิ๊กข้าราชการ พศ.ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพ ทุกคนยืนยันในความบริสุทธิ์ พร้อมเผยพบอดีตพระพรหมสิทธิ์ ในเรือนจำ ยังใส่ชุดขาว สีหน้ายิ้มแย้ม
นายณพล ใบเงิน ทนายความข้าราชการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ผู้ต้องหาในทุจริตเงินทอนวัด เปิดเผยกับสำนักข่าวไทย ภายหลังเข้าเยี่ยมผู้ต้องหาภายในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ว่า ได้เข้าเยี่ยมนายพนม ศรศิลป์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) และอดีตรอง ผอ.พศ. ข้าราชการระดับสูงที่ตกเป็นผู้ต้องหาคดีเงินทอนวัด ซึ่งตนเป็นทนายความของนายพนม ศรศิลป์ ,นายชยพล พงษ์สีดา , นายแก้ว ชิดตะขบ , นายพัฒนา สุอำมาตย์มนตจรี ,นายสวัสดิ์ กิตติธีระสิทธิ์ และนางพรเพ็ญ กิติธรางกูร ทุกคนมีสีหน้าปกติ และยังคงยืนยันความบริสุทธิ์ ว่าปฏิบัติไปตามหน้าที่ในการอนุมัติงบประมาณให้กับวัด โดยจะขอยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลที่คัดค้านการประกันตัวในวันจันทร์หน้า ที่ศาลาอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ว่าผู้ต้องหาทั้งหมดไม่มีพฤติการณ์หลบหนี หรือยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน
ทั้งนี้ เนื่องจากที่ผ่านมา กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) ได้ข้อข้อมูลและพยานหลักฐานจาก พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมเสน่ห์ ผู้อำนวยการ พศ.ไปทั้งหมดแล้ว รวมถึง ปปป.และกองปราบ ได้ค้นบ้านนายพนมและพวก เก็บพยานหลักฐานสำคัญที่คาดว่าเชื่อมโยงกับดดี ไปหลายครั้ง ไม่มีพยานหลักฐานเหลือให้ทำลายอีกแล้ว ขณะเดียวกัน นายพนม ไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่อยู่ใน พศ.แต่ออกมาเป็นผู้ตรวจราชการพิเศษ สำนักนายกรัฐมนตรี จึงไม่สามรถเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับพยาน หลักฐานได้ เช่นเดียวกับผู้ต้องหารายอื่นๆไปให้ปากคำกับ ปปป.หลายครั้ง หากจะหลบหนี คงหลบหนีนานแล้วและบุคคลเหล่านี้ ไม่เคยต้องคดีมาก่อน เนื่องจากเป็นข้าราชการจึงเชื่อมั่นว่า ไม่มีพฤติการณ์หลบหนีและเข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานจึงจะใช้เป็นแนวทางในการต่อสู้คดี
นอกจากนี้ทีมทนาย 8 ผู้ต้องหาคดีเงินทอนวัด ยังพบข้อพิรุธบางประการ ของการจับกุมครั้งนี้คือการอนุมัติงบประมาณสนับสนุนโรงเรียนพระปริยัติธรรมที่อยู่ในเอกสารการอนุมัติในรอบนี้ มีทั้งหมด 8วัด ประกอบด้วย วัดสัมพันธวงศาราม วัดสามพระยา วัดพิชยญาติการาม วัดเทพศิรินทราวาส วัดสุทัศนเทพวราราม วัดเทวราชกุญชร วัดบวรนิเวศวิหารและวัดอรุณราชวราราม แต่ถูกดำเนินคดี เพียง 2 วัด คือวัดสัมพันธวงศ์ และวัดสามพระยา เป็นการอนุมัติงบในสมัยนายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการพศ.และนายพนม ศรศิลป์ เป็นรองผู้อำนวยการ พศ. โดยมีนาย บุญเลิศ โสภา ผู้อำนวยการกองพุทธศาสนศึกษา ทำเรื่องเสนอ โดยทีมทนาย กำลังนำสืบเพื่อหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมในการต่อสู้คดี และแจ้งว่า การยื่นอุทธรณ์ครั้งที่2 ขอประกันตัว อยู่ในดุลพินิจของศาล ซึ่งผู้ต้องหาทั้งหมดเข้าใจ แต่ยังคงยืนยันในความบริสุทธิ์ เชื่อว่าอาจถูกกลั่นแกล้ง หลังจากนี้อาจฟ้องกลับผู้ที่เกี่ยวข้องกับคดี รวมถึง พ.ต.ท.พงศ์พร ด้วยแต่ต้องทำคดีหลักให้แล้วเสร็จก่อนคือการต่อสู้คดีของข้าราชการ พศ.
นายณพล กล่าวด้วยว่า ระหว่างเข้าเยี่ยมนายพนม ศรศิลป์ ,นายชยพล พงษ์สีดา ,นายแก้ว ชิดตะขบ พร้อมผู้ต้องหารายอื่น ได้มีโอกาสเจอกับอดีตพระพรหมสิทธิ อดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศ เดินผ่าน แต่ไม่ได้พูดคุย แต่สีหน้ายิ้มแย้ม ร่างกายยังคงปกติไม่ซูบผอม คาดว่าน่าจะปรับตัวได้แล้ว รวมทั้ง สวมชุดขาว คล้ายกับชุดปฏิบัติธรรม .-สำนักข่าวไทย