เผยตัวเลขการเลิกจ้างปี 61 แนวโน้มว่างงานลดลง

ประกันสังคม 2 ส.ค.- เลขาฯ ประกันสังคม เผยตัวเลขผู้ประกันตนมาตรา 33 เพิ่มขึ้นร้อยละ 17.11 เมื่อเทียบกับจำนวนผู้ประกันตนในปี 2557 ระบุอัตราการลอยแพลูกจ้างมาตรา 33 ลดลงอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ต้นปี 2561 ชี้สถานการณ์การจ้างงานในระบบแรงงานของประเทศไทยยังคงขยายตัวตามทิศทางของการพัฒนาประเทศ 


นายสุรเดช วลีอิทธิกุล เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน กล่าวถึงสถานการณ์การว่างงานของผู้ใช้แรงงานในระบบประกันสังคมว่า ปัจจุบันจำนวนผู้ประกันตนมาตรา 33 ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2561 มีจำนวนทั้งสิ้น 11,454,211 คน เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 17.11 เมื่อเทียบกับจำนวนผู้ประกันตนมาตรา 33 ณ วันที่ 1 มกราคม 2557 ที่มีจำนวนทั้งสิ้น 9,781,101 คน สะท้อนให้เห็นถึงสถานการณ์การจ้างงานในระบบแรงงานของประเทศไทยยังคงขยายตัวตามทิศทางของการพัฒนาประเทศ 

ขณะเดียวกัน ตั้งแต่ต้นปี 2561 สำนักงานประกันสังคม พบว่า อัตราการเลิกจ้างผู้ประกันตามมาตรา 33 ยังได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งจำนวนผู้ประกันตนมาตรา 33 ที่มาขอรับสิทธิประโยชน์ว่างงานกรณีถูกเลิกจ้างงานในเดือนมิถุนายน 2561 มีจำนวน 23,707 ราย คิดเป็นอัตราการถูกเลิกจ้างงานที่ร้อยละ 0.207 เทียบกับเดือนมกราคม 2561 ที่อัตราร้อยละ 0.222 และจากการประเมินทางสถิติ แสดงให้เห็นว่า แนวโน้มการถูกเลิกจ้างงานของผู้ประกันตนในช่วงอนาคตระยะสั้นมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง 


ส่วนการขอรับสิทธิประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานของผู้ประกันตนมาตรา 33 ณ เดือนมิถุนายน 2561 มีจำนวน 165,310 ราย ทำสถิติสูงสุดในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องจากจำนวนผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ทำให้จำนวนครั้งของการขอใช้สิทธิประโยชน์ว่างงานเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย อย่างไรก็ตาม เมื่อสังเกตอัตราการเลิกจ้างงานของผู้ประกันตนควบคู่กันไปด้วย จะเห็นได้ว่าอัตราการเลิกจ้างงานยังคงอยู่ในระดับต่ำ เมื่อเทียบกับในช่วงปี 2559-2560

สำหรับกรณีการออกจากงานนั้น สำนักงานประกันสังคมจะจ่ายสิทธิประโยชน์ ดังนี้

1. กรณีเลิกจ้าง ได้รับประโยชน์ทดแทนร้อยละ 50 ของค่าจ้าง ครั้งละไม่เกิน 180 วัน


2. กรณีลาออกหรือสิ้นสุดสัญญาจ้างที่มีกำหนดระยะเวลาการจ้างไว้แน่นอนและเลิกจ้างตามกำหนดระยะเวลานั้น ได้รับประโยชน์ทดแทนร้อยละ 30 ของค่าจ้าง ครั้งละไม่เกิน 90 วัน

3. กรณีว่างงานจากเหตุสุดวิสัย ได้รับประโยชน์ทดแทนร้อยละ 50 ของค่าจ้าง ครั้งละไม่เกิน 180 วัน.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สาวซิ่งรถหรูชนท้าย จยย. ทำแม่ลูกดับ 3 ศพ

แม่ขี่ จยย.ไปรับลูก 2 คน กลับจากเรียนพิเศษ ถูกสาวขับรถหรูซิ่งชนท้าย ร่างกระเด็นตกสะพานข้ามรางรถไฟ เสียชีวิตทั้ง 3 คน ส่วนผู้ก่อเหตุอุ้มแมว ทิ้งรถ หลบหนีไป

ปิดล้อมล่ามือปืนคลั่งสังหาร 3 ศพ

ตำรวจเร่งไล่ล่ามือปืนคลั่งก่อเหตุยิง 3 ศพ ในพื้นที่ จ.หนองบัวลำภู ล่าสุดปิดล้อมพื้นที่กว่า 1,000 ไร่ รอยต่อ จ.เลย หลังพบเบาะแสคนร้ายหนีไปซ่อนตัว ขณะที่ชนวนสังหารยังไม่แน่ชัด

ลูกชายมือปืนคลั่งยิง 3 ศพ พาครอบครัวหนีตาย พ่อโพสต์ขู่ฆ่าล้างครัว

ลูกชายมือปืนคลั่งยิงดับ 3 ศพ ต้องพาภรรยาและลูก รวมถึงพ่อตา-แม่ยาย หนีไปอยู่ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง หลังพ่อโพสต์ข้อความขู่จะฆ่าล้างครัว เหตุจากปัญหาในครอบครัว

ชายคลั่งยิง3ศพ

ชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ โผล่วัดที่ จ.เลย ขอข้าวกิน ก่อนหนีเข้าป่า

แม่ครัววัดภูคำเป้ ต.ผาสามยอด อ.เอราวัณ จ.เลย เผยพบชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ เดินเข้ามาในวัดด้วยสภาพอิดโรย ขอข้าวกิน ลักษณะรีบกินเหมือนวิตกกังวล หลังกินเสร็จรีบเดินเข้าป่าหายไป ก่อนมาทราบภายหลังว่าเป็นผู้ก่อเหตุยิงคนเสียชีวิต

ข่าวแนะนำ

สงขลาประกาศเขตภัยพิบัติแล้วทุกอำเภอ เร่งช่วยน้ำท่วมวิกฤติ

ผู้ว่าฯ สงขลา ลงนามประกาศให้ทั้ง 16 อำเภอ เป็นเขตพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินอุทกภัยและวาตภัย เพื่อเร่งรัดให้ความช่วยเหลือประชาชน บรรเทาความเดือดร้อน โดย อ.จะนะ เทพา นาทวี และสะบ้าย้อย ยังมีระดับน้ำท่วมเพิ่มสูงขึ้น

จ.ยะลา น้ำท่วมสูงสุดเป็นประวัติการณ์รอบหลายสิบปี

จ.ยะลา โดยเฉพาะ อ.เมือง ปีนี้น้ำท่วมสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบหลายสิบปี และวันนี้ (28 พ.ย.) น้ำยังขยายวงกว้างอีกหลายจุด ประชาชนได้รับความเดือดร้อนมากกว่า 120,000 คน ถนนถูกน้ำท่วมแล้ว 158 สาย ใน 8 อำเภอ 58 ตำบล

ศาลไม่ให้ประกันเมีย-ลูก “หมอบุญ” ชี้ความเสียหายสูง หวั่นหลบหนี

ศาลอาญาไม่ให้ประกันภรรยา-ลูก “หมอบุญ” ชี้การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ความเสียหายสูง เกรงหลบหนี ยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน ส่วนปมปลอมลายมือชื่ออยู่ระหว่างตรวจพิสูจน์

มือยิง 3 ศพ ขอโทษ-สำนึกผิด อ้างบันดาลโทสะ

ตำรวจแถลงข่าวจับกุม “สามารถ” ผู้ต้องหายิง 3 ศพ ในพื้นที่ อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู หลังจากติดต่อมอบตัว พร้อมยอมรับผิด ขอโทษญาติผู้เสียชีวิต อ้างบันดาลโทสะจึงก่อเหตุ และไม่มีอาการคลั่งตามที่เป็นข่าว