สะพานขาว24 ก.ค.-พม.มอบ พมจ.กำแพงเพชร ลงพื้นที่ติดตามช่วยเหลือหญิงพิการสู้ชีวิต พับพวงมาลัยและเหรียญโปรยทานจากริบบิ้นหารายได้เลี้ยงดูลูกสาวพิการตาบอด รวมทั้งเร่งช่วยเหลืออีก 2 ครอบครัวที่ประสบปัญหาทางสังคม ที่ จ.สมุทรปราการ และ กทม.
นางสุภัชชา สุทธิพล โฆษกกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.)เป็นประธานการประชุมศูนย์ปฏิบัติการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ศปก.พม.) ครั้งที่ 102/2561 รับทราบปัญหาทางสังคม ที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน และร่วมหาแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยที่ประชุมวันนี้ได้พิจารณากรณีหญิงวัย37ปีพิการเป็นอัมพาตตั้งแต่ช่วงเอวลงไป ไม่สามารถเดินได้แต่สู้ชีวิต ประกอบอาชีพพับพวงมาลัยจากริบบิ้นและรับทำเหรียญโปรยทานเพื่อหารายได้จุนเจือครอบครัวและเลี้ยงดูลูกสาววัย 14 ปีที่พิการตาบอดทั้ง 2 ข้างด้านสามีทอดทิ้งไปมีครอบครัวใหม่ ที่จ.กำแพงเพชร โดยชื่นชมหญิงพิการดังกล่าวที่มีความขยันหมั่นเพียร มุ่งมั่นและอดทน ถึงแม้มีอุปสรรคทางร่างกายแต่ไม่ย่อท้อและไม่นำมาเป็นอุปสรรคในการดำเนินชีวิต น่ายกย่องเป็นแบบอย่างที่ดีของคนพิการสู้ชีวิต
ที่ประชุมให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดกำแพงเพชร(พมจ.กำแพงเพชร) พร้อมทีมOne Home เร่งลงพื้นที่เยี่ยมบ้านและประเมินทางสังคมเพื่อให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นตามภารกิจด้านคนพิการของกระทรวง พม. พร้อมมอบสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็น อีกทั้ง ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ช่วยเหลือดูแลในเรื่องการรักษา พยาบาล พร้อมแนะนำให้คำปรึกษาในเรื่องของกองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ เพื่อใช้เป็นทุนสำหรับการประกอบอาชีพในระยะยาว และพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีต่อไป
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้พิจารณา กรณีชายชราวัย 86 ปี อาศัยอยู่เพียงลำพังในเพิงสังกะสีสภาพเก่าทรุดโทรมใกล้ผุพังเต็มไปด้วยกองขยะจำนวนมาก ไม่มีไฟฟ้าและน้ำประปาใช้ อาศัยเพื่อนบ้านแบ่งปันอาหารให้กินประทังชีวิต ที่ จ.สมุทรปราการ โดยที่ประชุมให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสมุทรปราการ (พมจ.สมุทรปราการ) พร้อมทีม One Home เร่งลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและประเมินทางสังคมของครอบครัวเพื่อให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นตามภารกิจด้านผู้สูงอายุของกระทรวง พร้อมมอบสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็น และการปรับปรุงสภาพที่อยู่อาศัยให้มั่นคงแข็งแรง และถูกสุขลักษณะ รวมทั้งให้คำแนะนำในเรื่องสวัสดิการสังคม เพื่อขอรับสิทธิตามกฎหมายตามความเหมาะสม รวมทั้ง ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการช่วยเหลือต่อไป
และกรณีเด็กชายวัย14 ปีป่วยเป็นโรคหอบหืด อาศัยอยู่กับครอบครัวรวมกัน 8ชีวิตในกระต๊อบสภาพเก่าทรุดโทรมใกล้ผุพัง ต้องรับภาระดูแลแม่ที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งระยะสุดท้ายและหลานที่ป่วยเป็นโรคธาลัสซีเมียทำให้ต้องขาดเรียนบ่อยครั้งและการเดินทางไปเรียนยากลำบาก ต้องพายเรือเป็นระยะทางหลายกิโลเมตร ครอบครัวมีฐานะยากจน ไม่มีเงินเพียงพอ ค่ารักษาพยาบาล ที่ย่านบางขุนเทียน กรุงเทพฯ โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่พร้อมทีม One Home เร่งลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและประเมินทางสังคมของครอบครัวเพื่อให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นตามภารกิจกระทรวง พร้อมมอบสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็น อุปกรณ์การศึกษา และการปรับปรุงสภาพที่อยู่อาศัยให้มั่นคงแข็งแรง และถูกสุขลักษณะ รวมถึงดูแลในเรื่องการรักษาพยาบาลอาการป่วยของผู้ที่ป่วยทั้งหมดอย่างต่อเนื่อง อีกทั้ง ให้คำแนะนำในเรื่องสวัสดิการสังคม เพื่อขอรับสิทธิตามกฎหมายตามความเหมาะสม พร้อมหารือแนวทางการช่วยเหลือในระยะยาวต่อไป .-สำนักข่าวไทย