กรุงเทพฯ 4 ก.ค.- ตำรวจรวบ แก๊งโรแมนสแกมหลอกลวงหญิงไทยให้หลงรัก และโอนเงินกว่า 8 แสนบาท ขณะเดียวกันเตรียมประสานกระทรวงการต่างประเทศเพิ่มมาตราการเข้มงวดการออกวีซ่าให้กับสองสัญชาติ
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว สอบปากคำ MR.ROGERS KYEYUNE สัญชาติยูกันดา MR.EMMANUEL KASOMA สัญชาติยูกันดา และ น.ส.วิไลวรรณ เพ็ชรทอง ผู้ต้องหาในเครือข่ายโรแมนสแกม โดยร่วมกันหลอกลวงผู้เสียหายผ่านเฟสบุค และหลอกให้โอนเงิน ถูกตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสุราษฏร์ธานี จับกุมหลังพบตระเวนกดเงินตามตู้เอทีเอ็มในพื้นที่เกาะสมุย เมื่อวันที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมา และจากการขยายผลพบว่ากลุ่มผู้ต้องหาดังกล่าวอยู่ในราชอาณาจักรเกินกว่าที่กฏหมายกำหนด นอกจากนี้ ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ ศปอส.ตร. ยังพบว่ากลุ่มผู้ต้องหามีการหลอกลวงให้หญิงไทยหลงรักและโอนเงินผ่านเฟสบุค 4 รายในพื้นที่ตลาดพลู ประชาชื่น จ.บุรีรัมย์ และจ.ตรัง มูลค่าความเสียหายกว่า 8 แสนบาท
ด้านน.ส.วิไลวรรณ ผู้ต้องหายอมรับว่าได้ค่าจ้างการเปิดบัญชีธนาคาร บัญชีละ 4 พันบาทมานานกว่า 1 เดือน หลังจากเพื่อนแนะนำให้รู้จักกับชาวยูกันดาจากสถานที่สปาได้ไม่นาน
ขณะที่ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ ระบุ เตรียมหารือกับกระทรวงการต่างประเทศ ให้เพิ่มความเข้มงวด ในการออกวีซ่าให้กับชาวไนจีเรีย และชาวยูกันดา 2 สัญชาติมากขึ้น หลังพบมีประวัติการเข้ามาก่ออาชญากรรมในไทยบ่อยครั้ง โดยเฉพาะคดีหลอกลวงให้ผู้เสียหายโอนเงิน หรือ แก๊งโรแมนสแกม ที่มีผู้เสียหายเป็นจำนวนมากหลงเชื่อ รวมทั้งก่อเหตุในคดีอื่นๆ อีกจำนวนมาก ซึ่งคาดว่าจะทราบผลในเร็วๆนี้.-สำนักข่าวไทย