รัฐสภา 4 ก.ค.-เครือข่ายปกป้องพระพุทธศาสนา ยื่นหนังสือถึง สนช.ยุติการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.คณะสงฆ์ ฉบับแก้ไขเพิ่มเติมและตีตกร่างกฎหมายดังกล่าว หวั่นเกิดการฮั้ว-ซื้อขายยศสงฆ์ และส่งศาล รธน.ตีความ เสนอให้สมเด็จพระสังฆราชฯ รับสนองพระราชโองการแต่งตั้งสมณศักดิ์
น.ส.เบญจรัตน์ มีเทียน ทนายความปกป้องพระพุทธศาสนา และองค์กรสื่อสารมวลชนพระพุทธศาสนา พร้อมด้วย นายประพันธุ์ กิตติฤดีกุล ผู้ประสานงานชมรมพิทักษ์พระพุทธศาสนา และเครือข่ายองค์กรพุทธทั่วประเทศ ยื่นหนังสือถึงสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เพื่อเรียกร้องให้ยุติการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.คณะสงฆ์ ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม และตีตกร่างกฎหมายดังกล่าวไป เพราะมีเนื้อหาที่ผิดวินัยสงฆ์อย่างร้ายแรง ซึ่ง พ.ร.บ.สงฆ์ จะต้องให้คณะสงฆ์เป็นผู้ร่าง ในลักษณะ “สงฆ์ต้องปกครองสงฆ์” เท่านั้น และยังเห็นว่า การยกร่างกฎหมายที่บังคับใช้กับคณะสงฆ์นั้น ควรประกอบด้วย สภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภา ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ในภาวะบ้านเมืองปกติ จึงจะชอบด้วยกฎหมาย เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดจนมีผลกระทบต่อประชาชน พร้อมขอให้ สนช. เข้าชื่อส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความว่าร่างกฎหมายดังกล่าวขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 77 และมาตรา 148 หรือไม่ เพราะเห็นว่าการออกกฎหมายดังกล่าวรวบรัดเร่งรีบ
เครือข่ายทนายความปกป้องพระพุทธศาสนา ยังเป็นห่วงการแต่งตั้งสมณศักดิ์ของพระสงฆ์ โดยให้พระสงฆ์ผู้มีพรรษาน้อย มาปกครองสงฆ์ที่มีพรรษามาก จะผิดต่อหลักพระธรรมวินัย และกังวลว่าอาจเกิดการแย่งตำแหน่งวงการสงฆ์ และอาจมีการซื้อขายสมณศักดิ์ตามมา ดังนั้น การยุบอำนาจมหาเถรสมาคม เป็นการลดอำนาจการปกครองสงฆ์ ซึ่งร่างกฎหมายดังกล่าวให้อำนาจนายกรัฐมนตรี และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ แต่งตั้งสมณศักดิ์พระสงฆ์ ซึ่งอาจเกิดการฮั้วกับนักการเมือง หรือข้าราชการในการแต่งตั้งได้ จึงเห็นว่าการแต่งตั้งของพระสงฆ์ จะต้องผ่านการคัดเลือกจากคณะสงฆ์ชั้นพระราชาคณะ และให้สมเด็จพระสังฆราช เป็นผู้ทูลเกล้าฯ และรับสนองพระราชโองการ เพื่อให้ปลอดอำนาจการเมือง.-สำนักข่าวไทย