กรุงเทพฯ
30 มิ.ย.-กสิกรไทย คาดสัปดาห์หน้าทั้งค่าเงินและตลาดหุ้นอาจสร้างสถิติอีกหลัง
สัปดาห์ที่อ่อนมาอ่อนค่าสุดในรอบกว่า 8 เดือน ส่วนดัชนีหุ้นไทยต่ำสุดในรอบ 10
เดือน
บริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย
จำกัดเงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบกว่า 8 เดือนที่ 33.22 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยการอ่อนค่าของเงินบาทเป็นทิศทางที่สอดคล้องกับเงินหยวน
และสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาค
ตลอดจนการปรับลดการถือครองสินทรัพย์เสี่ยงของนักลงทุนในภาพรวม
ท่ามกลางความกังวลต่อประเด็นที่ยืดเยื้อของข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐ กับประเทศคู่ค้า โดยเฉพาะในเรื่องมาตรการกีดกันการค้าและการลงทุน นอกจากนี้
เงินบาทยังเผชิญแรงกดดันในระหว่างสัปดาห์จากแรงขายสุทธิหุ้นและพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติด้วยเช่นกัน
ในวันศุกร์ (29 มิ.ย.)
เงินบาทอยู่ที่ระดับ 33.12 เทียบกับ 32.92 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (22 มิ.ย.)
ด้านตลาดหุ้นไทยปิดสัปดาห์นี้ที่ระดับต่ำสุดในรอบ
10 เดือน ที่ 1,595.58 จุด ซึ่งลดลง
2.41% จากสัปดาห์ก่อน ขณะที่ มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันปรับลดลง
13.55% จากสัปดาห์ก่อน มาที่ 53,313.34 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์ mai ปิดที่ 416.57 จุด ลดลง 5.28% จากสัปดาห์ก่อน
ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงเกือบตลอดสัปดาห์
แม้ว่าจะมีปัจจัยหนุนในหุ้นพลังงาน จากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันในตลาดโลก
แต่ก็ไม่เพียงพอที่จะชดเชยแรงกดดันจากแรงขายสุทธิหุ้นไทยของนักลงทุนต่างชาติในช่วงต้น-กลางสัปดาห์
ท่ามกลางความกังวลต่อสถานการณ์สงครามการค้าโลก โดยเฉพาะการตอบโต้ทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ
และจีน ทั้งนี้
แม้นักลงทุนต่างชาติจะกลับเข้าซื้อสุทธิหุ้นไทยอีกครั้งในช่วงปลายสัปดาห์
แต่ตลาดหุ้นไทยก็ยังคงปิดในแดนลบ สวนทางตลาดหุ้นในภูมิภาค
(2-6 ก.ค.)
ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 32.80-33.40 บาทต่อดอลลาร์ฯ บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย
จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,575 และ 1,550 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,610 และ 1,625 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม
คงได้แก่ สถานการณ์การตอบโต้ทางการค้าระหว่างประเทศ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐ อื่นๆ ได้แก่ รายงานการประชุมนโยบายการเงินของสหรัฐ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร
และดัชนี ISM ภาคการผลิตเดือน มิ.ย. ขณะที่
ปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ ดัชนี PMI
Composite ของญี่ปุ่นและประเทศในยุโรป
และดัชนี PMI ภาคการผลิตของยูโรโซน-สำนักข่าวไทย