ไทเป 23 ก.ย. – ภาคธุรกิจท่องเที่ยวของไต้หวันประสบภาวะย่ำแย่ที่สุดของช่วงฤดูร้อนในรอบ 13 ปี เนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวจากประเทศจีนลดลงในขณะที่ความสัมพันธ์กับจีนก็ไม่ค่อยราบรื่น
สถานการณ์ด้านการท่องเที่ยวของไต้หวันถือว่ามีผลงานในเดือนสิงหาคมที่แย่ที่สุดนับตั้งแต่เกิดการระบาดของกลุ่มอาการทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง หรือ โรคซาร์ส ระบาดเมื่อปี 2546 ก่อนหน้านี้ ธุรกิจท่องเที่ยวของไต้หวันเฟื่องฟูมาก ในยุคของประธานาธิบดีหม่า อิง จิ่ว ที่มีนโยบายเป็นมิตรกับจีน โดยนักท่องเที่ยวจากจีนมีจำนวนคิดเป็นร้อยละ 40 ของนักท่องเที่ยว 10 ล้านคนที่เดินทางมาเยือนไต้หวันเมื่อปีที่แล้ว แต่นับตั้งแต่ประธานาธิบดีไช่ อิงเหวิน ได้รับเลือกตั้งเข้ามาบริหารประเทศเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ทำให้ความสัมพันธ์กับจีนเริ่มห่างเหินและจำนวนนักท่องเที่ยวที่มาจากประเทศจีนก็เริ่มลดลง ในเดือนสิงหาคม นักท่องเที่ยวมาเยือนไต้หวันลดลงร้อยละ 3.4 เหลือ 863,540 คน แม้ว่าสัดส่วนของนักเที่ยวเที่ยวจากญี่ปุ่นและเกาหลีใต้จะเพิ่มขึ้นร้อยละ 30-40 นักท่องเที่ยวจากจีนลดลงร้อยละ 32.4 เหลือราว 248,600 คน เมื่อเทียบกับเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว ในขณะที่นักท่องเที่ยวจีนที่มาเป็นกลุ่มลดลงเกือบร้อยละ 55 ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวไต้หวันกล่าวว่า อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไต้หวันเข้าสู่ภาวะวิกฤติแล้ว รัฐบาลได้อนุมัติเงินกู้ 955 ล้านดอลลาร์ให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยว โดยเรียกว่าเป็นเงินเพื่อปรับปรุงอุตสาหกรรมพร้อมปฎิเสธว่าไม่ใช่เงินช่วยเหลือที่นักท่อเที่ยวจีนลดลง.-สำนักข่าวไทย