ป.ป.ท.18 มิ.ย.-ป.ป.ท.จับมือหลายภาคส่วนเฝ้าระวังทุจริตสร้างฝายชะลอน้ำ หลังพบข้อมูลทุจริตหลายจุดและเรื่องค้างจำนวนมาก
พ.ท.กรทิพย์ ดาโรจน์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) กล่าวภายหลังการประชุมดำเนินโครงการประสานพลังเฝ้าระวังการทุจริตกิจกรรมสร้างฝายชะลอน้ำเพื่อการอนุรักษ์ดินและน้ำ ตามโครงการไทยนิยมยั่งยืนของกรมพัฒนาที่ดิน ว่า โครงการก่อสร้างฝายชะลอน้ำ ประจำปีงบประมาณ 2561 มีพื้นที่เป้าหมาย 1,097 ฝาย ใน 45 จังหวัด ใช้งบประมาณก่อสร้างฝายจุดละ 1 แสนบาท เป็นงบประมาณลงทุน 61,000บาท และงบประมาณดำเนินการ 39,000 บาท โดยฝายแต่ละแห่งจะมีขนาดกว้างประมาณ 4-5 เมตร ใช้วัสดุกึ่งถาวร คือใช้ทรายผสมซีเมนต์
สำหรับการป้องกันและเฝ้าระวังการทุจริตเป็นการร่วมกับกองกำลังรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.)กองบัญชาการกองทัพบก กรมพัฒนาที่ดิน องค์กรต่อต้านคอรัปชั่น และป.ป.ท. เพื่อเตรียมป้องกัน และแก้ไขปัญหาการทุจริต รวมทั้งส่งเสริมการมีส่วนร่วมตรวจสอบ โดยจะร่วมกันตรวจสอบตั้งแต่ขั้นตอนการกำหนดวิธีการ ขั้นตอน ระยะเวลาที่เหมาะสมของโครงการ กำหนดความเสี่ยงที่จะเกิดการทุจริตเพื่อหาวิธีป้องกัน ประสาน กำกับ ขับเคลื่อนให้โครงการเป็นไปอย่างมีธรรมาภิบาล หากมีการทุจริตก็จะมีหน่วยงานเฝ้าระวัง ชี้เบาะแส หลังจากนั้นจะเข้าตรวจจับว่ามีการทุจริตจริงหรือไม่ หากพบก็จะดำเนินการโยกย้ายผู้ที่เกี่ยวข้องออกจากพื้นที่ รวมถึงดำเนินการทางวินัย และอาญาต่อไป
เลขา ป.ป.ท. กล่าวยอมรับว่า การเข้าไปตรวจสอบทำได้ยากเพราะฝายจะสร้างในแหล่งต้นน้ำเข้าถึงพื้นที่ไม่ไช่เรื่องง่าย แต่ข้อมูลที่ผ่านมาพบว่ามีการทุจริตในโครงการ โดยไม่พบการสร้างฝายตามโครงการ ซึ่งการทุจริตมีตั้งแต่การทุจริตตั้งแต่ค่าแรง วัสดุ ครุภัณฑ์เป็นจำนวนมากและการดำเนินการโครงการที่พบทุจริตยังไม่เสร็จสิ้น ค้างอยู่ในระหว่างการดำเนินการของ ป.ป.ช.จำนวนมาก ซึ่งหลังจากนี้กรมพัฒนาที่ดิน จะปรับการดำเนินการให้ประชาชนมีส่วนร่วม และให้มีประโยชน์กับประชาชนมากที่สุด
ด้าน พล.ท.ผดุง ยิ่งไพบูลย์สุข ผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติงาน 4 กอ.รมน.กล่าวว่า กอ.รมน.มีกำลังพลทุกจังหวัด พร้อมลงพื้นที่ตรวจสอบทุกฝายทุกแห่ง ไม่มีปัญหาเรื่องความห่างไกลเนื่องจากเป็นภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรีในการเข้าไปป้องกันและปราบปรามการทุจริตตั้งแต่ต้นทาง.-สำนักข่าวไทย