จับได้แล้ว! “พลายสีดอแดง” ช้างใหญ่สุดในเอเชีย ทุบสถิติยิงยาซึมมากสุด 50 ซีซี ถึงเอาอยู่

จันทบุรี 15 มิ.ย. – จับได้แล้ว ช้างใหญ่สุดในเอเชีย “พลายสีดอแดง” ทุบสถิติยิงยาซึมมากสุดถึง 50 ซีซี จึงปราบพลายสีดอแดงอยู่ และจะต้องยิงอีกอย่างน้อย 3 หลอด ระหว่างนำไปปล่อยในป่าที่เขาตะกรุบ จ.สระแก้ว เจ้าหน้าที่ใช้เวลาดึงพลายสีดอแดงนานกว่า 2 ชั่วโมง จึงนำขึ้นรถสำเร็จ เตรียมทำเกาะรอบบริเวณที่พลายสีดอแดงถูกนำไปปล่อย ป้องกันไม่ให้ออกนอกป่าได้อีก


กรณีช้างป่า “พลายสีดอแดง” มีน้ำหนักตัวมากสุดในเอเชีย 7,200 กก. ออกจากป่าอ่างฤาไน จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อเกือบ 1 เดือนที่ผ่านมา ตระเวนกินพืชสวนพืชไร่ในอำเภอต่าง ๆ ใน จ.จันทบุรี  สร้างความเสียหายต่อทุเรียนกับผลไม้อื่น ๆ ที่กำลังสุก ทำให้ชาวบ้านหวาดผวา เพราะเคยฆ่าคนตายไปแล้ว 4 คนในรอบหลายปี ล่าสุดเจ้าหน้าที่สนธิกำลังกดดันพลายสีดอแดงให้อยู่ในชายป่า ภายในศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตร อ.มะขาม ได้สำเร็จ ก่อนที่ทีมสัตวแพทย์จากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช จะยิงยาซึมใส่ ซึ่งต้องใช้ถึง 5 หลอด หลอดละ 10 ซีซี ใช้เวลากว่า 20 นาที ก่อนที่เจ้าหน้าที่กว่า 200 นาย จะปรับพื้นดินและใช้เชือกมะนิลาขนาดใหญ่ 4 เส้น แต่ละเส้นยาว 50 เมตร คล้องที่ขาทั้ง 4 ข้าง ดึงพลายสีดอแดงให้เดินขึ้นรถบรรทุกทหารที่สร้างเป็นคอกด้วยไม้ท่อนขนาดใหญ่สำหรับล็อกพลายสีดอแดงไม่ให้ดิ้นหลุด แต่ปรากฏว่าพลายสีดอแดงเริ่มฟื้นจากยาซึม ทีมสัตวแพทย์ต้องยิงยาซึมเพิ่มอีก 1 ดอก รวมแล้วยาซึมที่พลายสีดอแดงถูกยิงไปเป็นปริมาณถึง 50 ซีซี จึงสามารถนำช้างหนักสุดในเอเชียขึ้นรถบรรทุกได้สำเร็จ 


นายอยู่ เสนาธรรม ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 ภาคตะวันออก ซึ่งกำกับการนำช้างพลายสีดอแดงกลับคืนสู่ป่า เปิดเผยว่า การจับช้างตัวนี้มีความเสี่ยงสูงมาก เพราะแม้จะถูกยิงซึมไปแล้ว แต่พลายสีดอฟื้นและพยายามแข็งขืนเป็นระยะ ๆ ไม่ยอมขึ้นรถ ครั้งแรกที่เจ้าหน้าที่นำพลายสีดอแดงคืนป่า ใช้ยาเพียง 2 หลอดเท่านั้น แต่ครั้งนี้ใช้ถึง 5 หลอด ถึงอยู่เอา การใช้ยาซึมถึง 5 หลอดเป็นจำนวนที่มากสุดที่เคยใช้มา และจะต้องยิงอีกอย่างน้อย 3 หลอด หรือ 30 ซีซี ระหว่างการบรรทุกพลายสีดอแดงไปยังเขาตะกรุบ อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว ซึ่งเป็นสถานที่สำหรับให้ช้างป่าอยู่อาศัย โดยจะขุดเกาะล้อมรอบในบริเวณที่พลายสีดอแดงอยู่เป็นการเฉพาะ เพื่อป้องกันไม่ให้ออกมานอกป่าได้อีกต่อไป. – สำนักข่าวไทย 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เชียงใหม่อากาศแปรปรวน เจอลมหนาว-ฝนตก 3 วันติด

ชาวเชียงใหม่เจอลมหนาวและฝนตกต่อเนื่อง 3 วันติด อุตุฯ ย้ำอากาศแปรปรวน เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน เชียงราย ยังมีฝนตกและลมหนาว แนะรักษาสุขภาพ

“อัจฉริยะ” ยื่นสอบปม “ทนายตั้ม” ปูดข่าวผู้บริหารปลอมเอกสารขยายอายุเกษียณ

“อัจฉริยะ” ยื่นหนังสือตรวจสอบข้าราชการช่วยผู้บริหารรัฐวิสาหกิจปลอมเอกสารขยายอายุเกษียณ คาดอาจมีทนายดังเข้าไปเอี่ยว เสนอตำรวจให้สอบพยานรายสำคัญที่เป็นประโยชน์กับ “มาดามอ้อย”

“ทนายตั้ม” เครียดหนัก หลัง 3 บิ๊ก บช.ก. สอบปากคำ

“ทนายตั้ม” เครียดหนัก หลัง 3 บิ๊กสอบสวนกลาง สอบปากคำ นานกว่า 5 ชั่วโมง ขณะที่พนักงานสอบสวนเตรียมเข้าค้น “ษิทรา ลอว์ เฟิร์ม” เช้าพรุ่งนี้ หาหลักฐานเพิ่ม ก่อนฝากขังช่วงบ่าย ค้านประกันตัว

“บิ๊กอ้อ” เผย “ทนายตั้ม-ภรรยา” มีพฤติการณ์หนี-ยุ่งเหยิงพยานฯ

“บิ๊กอ้อ” ชี้ตำรวจต้องออกหมายจับ “ทนายตั้ม” เหตุพบพฤติการณ์เตรียมหลบหนีออกนอกประเทศ และยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน นอกจากนี้ยังมีคดีต่อเนื่อง 3 คดี เตรียมแจ้งข้อหาเพิ่ม

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผย “เหนือ-อีสาน” อากาศเย็นตอนเช้า-ภาคใต้ฝนหนัก

กรมอุตุฯ เผย “เหนือ-อีสาน” อากาศเย็นในตอนเช้า เตือนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง พร้อมอัปเดตเส้นทางพายุ “หยินซิ่ง”

MOU44

MOU 44 ผลประโยชน์ชาติ กับ การเมือง ตอนที่ 1

ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา เรื่องเอ็มโอยู 44 และเส้นแบ่งอาณาเขตทางทะเล หรือเส้นเคลม กลายเป็นปมร้อน ท่ามกลางความกังวลถึงผลประโยชน์ของชาติทางทะเล และสิทธิเหนือเกาะกูด ติดตามความเห็นและมุมมองจากผู้เกี่ยวข้องในรายงาน “ปมร้อน เอ็มโอยู 44 ผลประโยชน์ชาติ กับ การเมือง”

ทนายตั้ม

“ทนายตั้ม” สร้างตัวตนผ่านสื่อ หวังหาผลประโยชน์หรือไม่

หลังจากพนักงานสอบสวนควบคุมตัว “ทนายตั้ม” และภรรยา เข้าเรือนจำไปแล้ว มีคำถามตามมาว่า ทนายคนดังสร้างตัวตนจนโดดเด่นในสังคม เพื่อหาผลประโยชน์จากความน่าเชื่อถือที่สร้างไว้หรือไม่