โรงแรมเซ็นทรา แจ้งวัฒนะ 31 พ.ค.-ปปป.เตรียมเดินหน้าตรวจเงินทอนวัด ลอต 4 เน้นเอาผิดข้าราชการ พศ. ซึ่งมีอำนาจเบิกจ่ายและโอนเงินระหว่างปี 2555-2560
พล.ต.ต.กมล เหรียญราชา ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ปปป. ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมโครงการฝึกอบรมให้ความรู้เฉพาะทางด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ แก่ข้าราชการตำรวจระดับผู้บังคับหมู่-รองสารวัตร ถึงความคืบหน้าการสืบสวนดำเนินคดีคดีทุจริตเงินทอนวัด ลอต 4 ว่า ขณะนี้ ปปป. อยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบวัดทั่วประเทศที่ได้รับงบประมาณจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.)มากกว่า 1 ล้านบาท ในช่วงปี 2555-2560 เบื้องต้นพบการกระทำความผิดบ้างแล้ว แต่ต้องรอให้ พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เข้าร้องทุกข์กับ ปปป. ให้ชัดเจนก่อน ขณะนี้ยังไม่ได้มีการร้องทุกข์ใดๆ ซึ่งที่ผ่านมา ปปป. ก็มีการประสานข้อมูลกับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติมาโดยตลอด การดำเนินการล็อตนี้ยังคงเน้นการดำเนินคดีกับกลุ่มข้าราชการที่ทุจริตเงินของรัฐเป็นหลัก และผู้ที่กระทำความผิดส่วนใหญ่ยังคงเป็นข้าราชการของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ที่ดำรงตำแหน่งในช่วงปี 2555-2560 ซึ่งถูกดำเนินคดีไปแล้วจากคดีทุจริตเงินทอนวัดก่อนหน้านี้ เพราะเป็นผู้มีอำนาจในการเบิกจ่ายและโอนเงินในช่วงดังกล่าว
พล.ต.ต.กมล ย้ำว่า ล็อตนี้อาจยังไม่ใช่ล็อตสุดท้ายที่จะดำเนินคดี เพราะ ปปป. จะต้องตรวจสอบไปจนกว่าจะไม่พบวัดที่กระทำความผิด นอกจากนี้การที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)โอนสำนวนคดีเงินทอนวัด ลอต 2 กลับมาให้ ปปป.ดำเนินการนั้น พลตำรวจตรีกมล ระบุว่า เป็นเรื่องที่ดีที่ ป.ป.ช. มองเห็นศักยภาพการทำงานของ ปปป. อีกทั้งยังเป็นอำนาจหน้าที่ที่ ปปป. จะดำเนินการได้ ซึ่งหลังจากรับสำนวนกลับมาแล้ว ปปป.ก็จะดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมาย โดยการส่งสำนวนให้กับอัยการพิจารณาได้ทันที
สำหรับคดีเงินทอนวัด มีการดำเนินการไปแล้ว 3 ลอต มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 340 ล้านบาท และเป็นการตรวจสอบทุจริตงบใน 3 งบประมาณ คือ งบบูรณะปฏิสังขรณ์และพัฒนาวัด งบอุดหนุนส่งเสริมการเผยแผ่พระพุทธศาสนา และ เงินอุดหนุนการศึกษาพระปริยัติธรรม โดยวัดสระเกศราชวรมหาวิหารที่ถูกดำเนินคดีในลอตที่ 3 นี้ ถือเป็นการทุจริตงบสูงที่สุด กว่า 150 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย