สุวรรณภูมิ 22 พ.ค. – ทอท.ยืนยันมีแผนทุ่มงบ 2,500 ล้านบาท ซ่อมผิวทางสนามบินสุวรรณภูมิ 700,000 ตารางเมตร ในเวลา 3 ปี รองรับปริมาณเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.ท่าอากาศยานไทย หรือ ทอท. กล่าวว่า ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ทอท.เร่งแก้ปัญหาน้ำใต้ดินของผิวทางของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งผิวทางเป็นเอสฟัลท์ หรือยางมะตอยชนิดพิเศษ ด้วยวิธีการระบายน้ำใต้ดินออก 2 ด้าน เมื่อเครื่องบินลงจอดแรงกระแทกจะดันน้ำออก แต่ปัจจุบันเมื่อเครื่องบินทำการบินขึ้นลงสุวรรณภูมิจำนวนมากต่อชั่วโมงมากขึ้นบางครั้งทำให้ผิวทางขับคืนตัวไม่ทัน โดยเฉพาะที่เป็นจุดวิกฤติ หรือเรดโซน 21 จุด คือ รอยต่อระหว่างทางขับ หรือแท็กซี่เวย์ เลี้ยวเข้าหลุมจอด ล่าสุด ทอท.ได้ทำการซ่อมขูดผิวปูยางมะตอยอายุการใช้งาน 7 ปี ไปแล้ว 11 จุด คาดว่าจะครบทั้ง 21 จุดในเดือนสิงหาคมนี้
ส่วนการซ่อมถาวร โดยการก่อสร้างผิวทางด้วยปูนซีเมต์ปอร์ตแลนด์ ซึ่งจะมีพื้นที่ต้องดำเนินการทั้งหมด 700,000 ตารางเมตร โดย ทอท.จะจัดทำทีโออาร์จ้างเอกชนเข้ามาดำเนินการเสร็จในไตมาส 3 ก่อนเสนอบอร์ด ทอท.อนุมัติวงเงิน 2,500 ล้านบาท เริ่มการก่อสร้างปลายปี 2562 รวมเวลาดำเนินการ 3 ปี
ทั้งนี้ ทอท.ยืนยันว่ามีการรายงานประชาสัมพันธ์ให้องค์กรความปลอดภัยด้านการบิน สมาคมนักบินทราบข้อมูลการซ่อมบำรุงผิวทางต่อเนื่อง ส่วนการก่อสร้างขยายศักภาพของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งปัจจุบันรับความจุของผู้โดยสารได้ปีละ 45 ล้านคน แต่ปีนี้ปริมาณการใช้ทะลุ 60 ล้านคนต่อปีไปแล้ว โดยปริมาณผู้โดยสารเที่ยวบินสูงขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 5-8 ต่อปี ทอท.ยืนยันว่าเมื่อการก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินหลังใหม่เสร็จกลางปี 2563 สุวรรณภูมิจะรับผู้โดยสาร 60 ล้านคน และเมื่ออาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 เสร็จก็จะรับผู้โดยสารได้ 100 ล้านคนต่อปี.-สำนักข่าวไทย