ศูนย์บริการประชาชน 7 พ.ค. -“น้องแบม” นำทีมผู้เสียหาย ร้องนายกฯ หลังตกเป็นเหยื่อ เมจิก สกิน มูลค่าความเสียหายนับล้าน ขอยึดทรัพย์มาเยียวยาผู้เสียหาย
น.ส.ปณิดา ยศปัญญา นักศึกษาชั้นปีที่ 4 สาขาพัฒนาชุมชน คณะมุนษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ซึ่งเป็นผู้เปิดโปงกรณีทุจริตเงินสงเคราะห์ผู้ยากไร้ ของ กระทรวงพัฒนาการสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) พร้อมตัวแทนผู้เสียหายจากการเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าแบรนด์ตรีชฎา ซึ่งอยู่ในเครือบริษัท เมจิก สกิน รวมกว่า 100 ราย ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผ่านศูนย์บริการประชาชน มีนายสาธิต สุทธิเสริม หัวหน้าฝ่ายประสานมวลชน เป็นตัวแทนรับเรื่อง
น.ส.ปณิดา กล่าวว่า เป็น1 ในผู้เสียหาย ที่เป็นตัวแทนจำหน่าย สินค้าแบรนด์ตรีชฎาในเครือเมจิกส ก่อนตัดสินใจเป็นตัวแทนจำหน่าย หวังว่า รายได้จากการขายระบบนี้ จะสามารถทำให้มีรายได้เลี้ยงครอบครัวได้ และมีเงินหลักแสนก่อนเรียนจบ จึงนำทองไปจำนำ และขอเงินแม่มาลงทุน อีก 10,000 บาท เพื่อลงทุน นอกจากนี้ มีความเชื่อใจในเจ้าของแบรนด์ และได้ตรวจสอบหมายเลข อย. ก็พบว่ามีการจดแจ้งจริง อย่างไรก็ตาม เมื่อได้ทดลองใช้ด้วยตัวเอง แต่ไม่ขาวขึ้น
น.ส.ปณิดา กล่าวว่า วิธีการ คือ ให้สมาชิกสมัครเป็นตัวแทนหลัก และ มีระบบการขายแบบไม่เหมือนใคร โดยต้องซื้อสินค้า เพื่อเลื่อนตำแหน่งที่สูงขึ้น โดยล็อตแรก สมาชิก ต้องสต็อคสินค้า 1,000 ซอง ใช้เงิน 29,000 บาท จึงจะได้เลื่อนตำแหน่งเป็น วีไอพี จากนั้น ก็ให้ซื้อสินค้า ล็อต 2 อีก 5,000 ซอง โดยใช้เงิน 130,000 บาท เพื่อเลื่อนตำแหน่งเป็นซุปเปอร์วีไอพี และ ล็อต 3 จำนวน 15,000 ซอง วงเงิน 315,000 บาท เพื่อการเลื่อนตำแหน่ง เป็นดีลเลอร์
น.ส.ปณิดา กล่าวว่า เมื่อถึงล็อต 4 เจ้าของแบรนด์ปรับขึ้นราคา และกำหนดให้ดิลเลอร์ ต้องสต็อคอย่างน้อย 50,000 ซอง ซึ่งต้องใช้เงินนับล้านบาท ขณะที่ ยิ่งขายยิ่งไม่ได้กำไร เพราะจ่ายเงินไปแล้วได้สินค้าล่าช้า ไม่มีของขาย ทำให้หมุนเงินไม่ได้ จึงคิดจะเลิกขายหลังจากจบล็อต 4 แต่ก็มีข่าวออกมาก่อน ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน ทำให้เหลือสินค้าในสต็อคจำนวนมาก และตัวแทนทั้งหมดต้องยุติการขายทันที สร้างความเสียหายกับตัวแทนจำหน่ายมูลค่าหลายล้าน จึงต้องขอความเมตตา จากนายกรัฐมนตรี เพื่อดำเนินการคืนความยุติธรรม โดยยึดทรัพย์และนำเงินมาเยียวยาให้กับผู้เสียหายจากสินค้าแบรนด์ตรีชฎา รวมทั้ง ผู้เสียหายจากแบรนด์ของเมจิกสกิน อีกกว่า 1,000 คน ต่อไป .- สำนักข่าวไทย