ทำเนียบฯ 30 เม.ย.-รัฐบาลเดินหน้าเข็นกฎหมาย 3 ฉบับ ลดปัญหาเกษตรกรถูกยึดที่ดินขายฝาก เปิดทางชาวบ้านปลูกสวนป่าไม้มีค่า เดินหน้ารัฐบาลดิจิตอลเชื่อมโยงข้อมูลหน่วยงานรัฐให้บริการแบบไร้เอกสารซ้ำซ้อน
นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล (กขร.) เห็นชอบขับเคลื่อนร่างกฎหมายสำคัญ 3 ฉบับ ประกอบด้วย 1.ร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองสัญญาขายฝากที่ดินเพื่อเกษตรกรรมหรือที่อยู่อาศัย เนื่องจากปัญหาความยากจน ขาดแคลนเงินรองรับปัญหาฉุกเฉิน จึงต้องกู้เงินนอกระบบ โดยใช้ที่ดิน ที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกันในสัญญาขายฝาก และเมื่อผิดสัญญาทั้งแบบไม่ได้ตั้งใจหรือจงใจกระทำจากนายทุน ทำให้ที่ดินจำนวนมากตกไปอยู่ในมือนายทุน เช่น การจงใจผิดนัดของนายทุนเมื่อต้องชำระ กลับเดินทางไปต่างจังหวัดหรือต่างประเทศ ทำให้ลูกหนี้ชำระเงินไม่ทันตามกำหนด หรือการทำสัญญาเพิ่มเติมภายหลัง เพื่อหวังยึดที่ดิน
ปัจจุบันไทยมีพื้นที่เกษตรกรรมจำนวน 150 ล้านไร่ ครึ่งหนึ่งจำนวน 70 ล้านไร่เกษตรกรต้องเช่าทำกิน และสัดส่วน 30 ล้านไร่อยู่ระหว่างจำนองกับเจ้าที่นอกระบบ จำนวนนับแสนไร่ได้ขายฝากซึ่งมีโอกาสหลุดมือถูกยึดที่ดินสูงมาก เพราะนายทุนมักจะอาศัยช่องโหว่กฎหมายขอเปลี่ยนสัญญาเพื่อเปลี่ยนกรรมสิทธิ์ ส่วนใหญ่มักไม่หวังดอกเบี้ยเงินกู้แต่หวังยึดที่ดินจากชาวบ้าน รัฐบาลจึงถือเป็นวาระเร่งด่วนต้องดำเนินการแก้ปัญหาโดยเร็ว สาระกฎหมายดังกล่าวจึง กำหนดให้การขายฝากต้องมีนิติกร เจ้าหน้าที่กรมที่ดิน ช่วยดูแลสัญญาตรวจตราความถูกต้อง กำหนดให้ชัดเจนทั้งวันไถ่ถอน แหล่งที่อยู่ และหากเปลี่ยนแปลงสัญญาเพิ่มเติมภายหลังถือว่าสัญญาเป็นโมฆะ ระยะเวลากำหนดไถ่ถอน 1 ปี ถึง 1 ปี 6 เดือน ไม่ใช่ต้องชำระทุก 3 เดือน เพราะมองว่าระยะสั้นเกินไป หากหากเจ้าหน้าอ้างว่าไม่อยู่เมื่อครบกำหนด ให้นำเงินที่เตรียมชำระหนี้ไปแจ้งต่อ อบต. ในพื้นที่ ระบุในเอกสารว่าเตรียมพร้อมชำระไม่ได้ผิดนัด เพื่อค้มครองรายย่อยไม่รู้กฎหมาย
2.ที่ประชุมเห็นชอบแก้ไข พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 เพราะบังคับใช้นานกว่า 70 ปี เปิดทางให้ชาวบ้าน ทำสวนป่า ปลูกป่าไม้มีค่า ที่เป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญในที่ดินกรรมสิทธิ์ของตนเอง เช่น ไม้สัก ไม้พยูง ชิงชัน ยางนา และไม้มีค่าสำคัญอีกหลายประเภท เพราะเป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญ สร้างรายได้ให้ชุมชน สวนป่าจะเป็นเงินออมได้ในระยะยาว รองรับนโยบายธนาคารต้นไม้ การปลูกผ่าชุมชน ปลูกเพื่อเป็นสินทรัพย์ตัดขายเมื่อต้องการใช้เงินโอกาสสำคัญ เพราะปลูกได้ในพื้นที่กรรมสิทธิ์ เนื่องจากปัจจุบันพื้นที่ป่าไม้มีจำนวน 2 ล้านไร่ แต่มีความต้องการไม้มีค่า 58 ล้านลูกบาศก์เมตร และในอีก 60 ปีข้างหน้ามีความต้องการไม้สูงถึง 160 ล้านลูกบาศก์เมตร ร่างกฎหมายทั้งสองฉบับคาดว่าเสนอ ครม.พิจารณาได้ในอีก 1-2 เดือนข้างหน้า คาดว่าบังคับได้ช่วงปลายปีนี้
3.ที่ประชุมเห็นชอบหผลักดันร่าง พ.ร.บ.รัฐบาลดิจอทัล พ.ศ. เพื่อปฏิรูปและเปลี่ยนแปลงส่วนราชการ อำนวยความสะดวกในการขออนุญาต การชำระเงินออนไลน์ การให้บริการแก่ประชาชน ด้วยการเชื่อมโยงข้อมูลหน่วยงานรัฐทุกส่วน รวบรวม การตั้งให้สำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือ สรอ. ภายใต้กำกับดูแลของสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นหน่วยงานเคลียร่ิงเฮ้าข้อมูลกลาง เพื่อเปลี่ยนการบริหารระบบราชการในยุคดิจิตอล ทั้งพาสสปอร์ต บัตรประชาชน ใบอนุญาตต่างๆ จะให้บริการแบบทันสมัย คาดว่าอีก 1 เดือนเสนอ ครม.พิจารณาได้.-สำนักข่าวไทย