กรุงเทพฯ 27 เม.ย.- บอร์ด ป.ป.ท.ตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนทุจริตงบประมาณคนไร้ที่พึ่งอีก 8 จังหวัด รวมรับไต่สวนแล้ว 41 จังหวัด
พล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ(ป.ป.ท) เปิดเผยสรุปผลการดำเนินการกรณีทุจริตการเบิกจ่ายงบประมาณของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง ที่มีการประชุมไปเมื่อวานนี้(26 เม.ย.) ว่า ทางเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท.เสนอรายงานผลการแสวงหาข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐาน จำนวน 23 เรื่อง
โดยคณะกรรมการ ป.ป.ท. มีมติตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนฯศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง วานนี้เพิ่มอีก 8 จังหวัด คือ จ.ยะลา พัทลุง เลย มุกดาหาร สกลนคร มหาสารคาม ร้อยเอ็ด และชลบุรี รวมของเดิมที่ตั้งไปก่อนหน้า มีทั้งสิ้น 41 จังหวัด
ส่วนที่เหลือ คณะกรรมการ ป.ป.ท. พิจารณามีมติให้แสวงหาข้อเท็จจริงเพิ่มรวม 6 เรื่อง และนำเรื่องไปพิจารณาในการประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ท. ครั้งต่อไป จำนวน 9 เรื่อง
นอกจากนี้ยังมีการตั้งคณะอนุกรรมการฯนิคมสร้างตนเอง 1 แห่งและศูนย์ประสานงานหมู่บ้านสหกรณ์ฯ 1 แห่ง
รวมมีผู้ถูกตั้งข้อกล่าวหาระดับ ผอ.ศูนย์คนไร้ที่พึ่ง 42 แห่ง ระดับผอ.นิคมสร้างตนเอง 1 แห่ง ระดับผอ.ศูนย์ประสานงาน 1แห่ง ระดับเจ้าหน้าที่และผู้สนับสนุน 145 คน รวมทั้ง 189 คน
นอกจากนี้ยังมีอีก 19 จังหวัด คือสระแก้ว ปทุมธานี ราชบุรี นครปฐม อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ยโสธร สมุทรปราการ พังงา นราธิวาส อุดรธานี นครราชสีมา หนองบัวลำภู ลำพูน ตาก อุทัยธานี เพชรบูรณ์ ระยอง และพะเยา ที่เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. ได้ไปทำการแสวงหาข้อเท็จจริง และพบว่ามีความผิดทุจริต เพื่อรอเสนอคณะกรรมการป.ป.ท. ตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน
พล.ต.อ จรัมพร กล่าวยืนยันว่าที่ยังไม่ตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริง ทั้งหมดตามที่พนักงาน ป.ป.ท. ชุดแสวงหาข้อเท็จจริงเสนอรายชื่อขึ้นมา เนื่องจากต้องการให้ดำเนินการอย่างรอบคอบ
ส่วนกรณีเจ้าหน้าที่ศูนย์ฯ หรือ นิคมฯ บางคนที่ต้องทำหน้าที่ต่างๆ ตามสายงาน เช่น การสำรวจคุณสมบัติผู้ยากไร้ การตรวจสอบที่อยู่อาศัย การรับรองคุณสมบัติผู้ยากไร้ การจ่ายเงินสงเคราะห์ ก็จะให้เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท.ชุดแสวงหาข้อเท็จจริง ไปตรวจสอบให้ทราบพฤติการณ์เป็นรายบุคคลอย่างละเอียด เพื่อความเป็นธรรมกับผู้ที่จะถูกกล่าวหา
ทั้งนี้ แม้คณะกรรมการฯ ยังไม่มีคำสั่งให้ไต่สวนในบางพื้นที่ แต่ถ้าหากการแสวงหาข้อเท็จจริงและการรวบรวมพยานหลักฐานต่อมาพบว่า ผู้ใดมีส่วนกระทำความผิดก็จะมีการตั้งอนุกรรมการไต่สวนเพิ่มเติมในภายหลังได้.-สำนักข่าวไทย